กรมชลประทาน ประชุมโครงการจัดทำแผนปฏิบัติการกรณีฉุกเฉิน เขื่อนบางพระ |
|
กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นชุมชน ครั้งที่ 1 โครงการจัดทำแผนปฏิบัติการกรณีฉุกเฉิน เขื่อนบางพระ 
ที่ ห้องประชุมชั้น 5 เทศบาลตำบลบางพระ นายวิวัฒน์ มหาผลศิริกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานในการประชุมรับฟังความคิดเห็นชุมชน ครั้งที่ 1โครงการจัดทำแผนปฏิบัติการกรณีฉุกเฉิน เขื่อนบางพระโดยอ่างเก็บน้ำบางพระ เป็นแหล่งน้ำจืดสำคัญแห่งหนึ่งของภาคตะวันออก ชุมชนที่อาศัยอยู่รอบๆ อ่างเก็บน้ำใช้พื้นที่ทำการเกษตร และทำการประมงในอ่างเก็บน้ำ ตัวเขื่อนหลักมีความสูง 24 เมตร ความยาว 1,720 เมตร มีพื้นที่ผิวน้ำ 16.4 ตารางกิโลเมตร หรือ 10,250 ไร่ มีปริมาตรความจุที่ระดับเก็บกัก 117 ล้านลูกบาศก์เมตร แม้ว่าตัวเขื่อนจะมีความมั่นคงปลอดภัย และมีการออกแบบก่อสร้างมาเป็นอย่างดีแล้วก็ตาม แต่จากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ภัยธรรมชาติต่างๆ รวมทั้งความห่วงกังวลจากประชาชน จึงมีความจำเป็นต้องดำเนินการจัดทำแผนปฏิบัติการกรณีฉุกเฉินสำหรับชุมชน จากการพิบัติของเขื่อนในกรณีต่างๆ รวมถึงกรณีเกิดอุทกภัยจากการระบายน้ำของเขื่อนในปริมาณมาก เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงของประชาชนในพื้นที่ด้านท้ายน้ำ และจัดทำคู่มือการบริหารจัดการเขื่อน โดยในวันนี้ เป็นการประชุมชี้แจง เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับโครงการ ให้กลุ่มผู้มีส่วนได้เสียจากการศึกษาโครงการให้ได้รับทราบข้อมูลที่เกี่ยวข้องที่ชัดเจนและถูกต้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความเป็นมา วัตถุประสงค์ ระยะเวลาการศึกษา พื้นที่ศึกษา และขอบเขตการศึกษาของโครงการรวมถึงเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น และข้อเสนอแนะเกี่ยวกับโครงการ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดเกี่ยวกับแนวทางการศึกษาในแต่ละด้านและแผนงานของโครงการ เพื่อให้สอดคล้องกับบริบทและความต้องการของท้องถิ่น เป็นที่ยอมรับของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งกรมชลประทานและ คณะผู้ศึกษาพร้อมรับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะ เพื่อนำไปพิจารณาประกอบการศึกษา ให้มีความครบถ้วนสมบูรณ์ต่อไป และมีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อประเมินความเสี่ยงจากการพิบัติของเขื่อน ในรูปแบบและกรณีต่างๆจัดทำแผนปฏิบัติการกรณีฉุกเฉิน สำหรับชุมซนเพื่อเตรียมความพร้อมกรณีเกิดการพิบัติของเขื่อนและการระบายน้ำในปริมาณมากเกินความจุลำน้ำด้านท้าย ที่เป็นสากลและสอดคล้องกับการดำเนินงานในประเทศไทยและจัดทำแผนปฏิบัติการบริหารจัดการเขื่อน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยทั้งในกรณีปกติและฉุกเฉิน 







 |