ไต๋เรือผงะพบลูกน้องถูกแทงนอนไส้ไหลอยู่ใต้ท้องเรือก่อนรีบนำกลับเข้าฝั่งส่งมือหมอ
เมื่อเวลา 12.30 น. ของวันนี้ ( 29 ต.ค. 52 ) ร.ต.ท.ปิติชน เทอดเกียรติกุล พนักงานสอบสวนประจำวัน สภ.สัตหีบ ได้รับแจ้งเหตุจาก นายสมศักดิ์ ทัศสุวรรณ อายุ 52 ปี ไต๋เรือเรือมณเฑียรทอง 5 ว่า ได้นำลูกเรือสัญชาติพม่า ซึ่งโดนทำร้ายร่างกายถูกแทงด้วยอาวุธมีดได้รับบาดเจ็บสาหัสกลับเข้าฝั่งขอให้มาตรวจสอบและทำการช่วยเหลือหลังรับแจ้งจึงนำกำลังเดินทางไปตรวจสอบพร้อมทั้งประสานงานไปยังหน่วยกู้ภัยมูลนิธิโรจนธรรมสถานสัตหีบ ให้ส่งเจ้าหน้าที่กู้ชีพมาทำการช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบนายสมศักดิ์ ทัศสุวรรณ อายุ 52 ปี ไต๋เรือเรือมณเฑียรทอง 5 กำลังนำเรือมณเฑียรทอง 5 เข้าเทียบที่ท่าเรือเทียบเรือสะพานปลาโชครัตนปรีดา ม.1 ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยและอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยมูลนิธิโรจนธรรมสถานสัตหีบเข้าทำการช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้กับผู้ได้รับบาดเจ็บก่อนจะรีบนำตัวส่งรักษาต่อยังโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือทราบชื่อต่อมาคือนาย รุก อายุ 24 ปี สัญชาติพม่า ได้รับบาดเจ็บถูกมีดปลายแหลมแทงเข้าที่บริเวณหน้าท้องจนมีไส้ไหลออกมาประมาณเกือบ 10 เซนติเมตรซึ่งทีมแพทย์ต้องให้การช่วยเหลือเป็นเร่งด่วน จากการสอบสวน นายสมศักดิ์ ทัศสุวรรณ อายุ 52 ปี ไต๋เรือเรือมณเฑียรทอง 5 ได้ให้การณ์ว่าก่อนเกิดเหตุเมื่อคืนที่ผ่านมาตนได้นำเรือลากคู่เข้าจอดเทียบท่าที่สะพานปลาก่อนจะลำเลียงขนปลาลงจนหมดหลังเสร็จงานได้ปล่อยให้ลูกเรือได้กลับขึ้นไปพักผ่อนบนฝั่งและนัดเรือออกหาปลาในช่วงเช้าของวันนี้ จนกระทั้งช่วงเช้าของวันนี้ได้นำเรือออกไปหาปลาตามปกติแต่ปรากฏว่าได้พบว่านายรุกซึ่งเป็นลูกเรือของตนได้หายไปจึงออกเดินหาในเรือจนไปพบว่านายรุกได้มานอนซมอยู่ใต้ท้องเรือก่อนที่จะเดินเข้าไปดูต้องถึงกับผงะตกใจเมื่อเห็นนายรุกนอนเอามือกุมท้องซึ่งมีไส้ไหลออกมากองอยู่ด้วยความตกใจจึงรีบนำเรือกลับเข้าฝั่งแล้วแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเพื่อมาให้การช่วยเหลือดังกล่าว จากการสอสวนนายรุก ผู้ได้รับบาดเจ็บได้ให้การว่าหลังจากที่ตนได้ช่วยไต๋เรือขนปลาลงจนหมดก็ได้ขึ้นไปเที่ยวคาราโอเกะบนฝั่งในพื้นที่ช่องแสมสารจนไปมีปากเสียงกับพวกลูกเรือชาวกัมพูชานับ 10 คน ก่อนที่จะถูกหนึ่งในนั้นควักอาวุธมีดปลายแหลมออกมาแทงจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าวส่วนเรื่องที่ตนไม่บอกใครแล้วต้องมานอนเงียบอยู่ใต้ท้องเรือก็เพราะตนกลัวที่จะไปโรงพยาบาลเนื่องจากอาจจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวส่งกลับไปยังประเทศของตนอีกด้วย นิราช ทิพย์ศรี ภาพ / ข่าว 2009-10-29 |