เมาแล้วซิ่งพุ่งชนช้างเร่ร่อนเจ็บสาหัส

     เป็นเคราะห์ร้ายของช้างเร่ร่อนอีกแล้ว เมื่อหนุ่มพนักงานโรงงานกลับจากทำงานกะดึกแล้วแวะดื่มเหล้าจนได้ที่ ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็วสูง ไม่ทันได้เห็นช้างที่เดินอยู่ริมถนน พุ่งเข้าชนช้างพังบัวทองที่กำลังเดินกลับที่พักอย่างแรงจนร่างทรุดลงกองกลางถนน ส่งเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดดังลั่นกึกก้องไปทั่วบริเวณ ส่วนรถยนต์พังยับเยิน หนุ่มโชเฟอร์คนขับตำรวจล๊อคตัวไปตรวจแอลกอฮออล์ในร่างกาย ชาวบ้านประทับใจ ตำรวจชลบุรีให้ความสำคัญกับช้างสัตว์คู่บ้านคู่เมือง หลังรับแจ้งประสานกันทั้งจังหวัด จัดรถนำขบวนสัตวแพทย์คนดังจากกรุงเทพส่งต่อกันเป็นทอดๆจนถึงที่เกิดเหตุได้อย่างรวดเร็ว

     เมื่อเวลา 01.00 น. วันนี้ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยศีลธรรมบ้านบึง ประจำจุดรับผิดชอบถนนทางหลวงหมายเลข 331 ชลบุรี-ระยอง ได้วิทยุแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พบช้างชื่อ พังบัวทอง นอนอยู่กลางถนน เส้นทาง บ้านบ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี – อ.ปลวกแดง จ.ระยอง เขตพื้นที่ หมู่ 3 ต.บ่อวิน โดยช้างพังบัวทอง ส่งเสียงร้องอย่างโหยหวนด้วยความเจ็บปวดดังกึกก้องไปทั่ว จนชาวบ้านที่อยู่ในละแวกที่เกิดเหตุต่างพากันออกมาดูด้วยความเวทนา โดยใกล้กับจุดที่ช้างพังบัวทอง นอนร้องครวญครางอยู่กลางถนน พบรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสัน รุ่นเอ็นวี สีบรอนซ์ ทะเบียน บม-8772 กทม. จอดอยู่สภาพรถพังยับเยิน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ่อวิน เดินทางมาถึงและได้พบกับสภาพของช้างพังบัวทองนอนร้องครวญครางอย่างโหยหวนด้วยความเจ็บ โดยที่ขาหน้าและขาหลังฝั่งขวา มีบาดแผลจากการถูกรถยนต์กระบะคันดังกล่าวพุ่งชนเป็นบาดแผลฉกรรจ์ฉีกขาดหลายแห่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ่อวิน จึงได้ประสานไปยัง ศูนย์วิทยุสื่อสารกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี เพื่อประสานติดต่อไปยัง นายสัตวแพทย์ อลงกรณ์ มหรรณพ พ่อพระของช้าง จากสำนักพระราชวัง ขอให้เดินทางมาให้ความช่วยเหลือช้างพังบัวทองที่ถูกรถพุ่งชนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ทันทีที่ นายสัตวแพทย์ อลงกรณ์ มหรรณพ ทราบเรื่องและตอบตกลงที่จะเดินทางมาช่วยเหลือช้างพังบัวทองที่ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดรถนำขบวนส่งต่อกันเป็นทอดๆอย่างสมเกียรติ (เหมือนนำขบวนรัฐมนตรีไม่มีผิด) โดยมีรถตำรวจผลัดกันนำขบวนมาตั้งแต่เข้าเขต สภ.เมืองชลบุรี สภ.แสนสุข สภ.ศรีราชา สภ.หนองขาม และ สภ.บ่อวิน นำทางเข้าสู่ที่เกิดเหตุ ซึ่งใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพถึงจุดที่เกิดเหตุไม่ถึงชั่วโมง สร้างความประทับใจให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก ที่เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจประสานใจช่วยเหลือช้างสัตว์คู่บ้านคู่เมืองที่ได้รับบาดเจ็บ

     ขณะที่ นายสัตวแพทย์ อลงกรณ์ มหรรณพ เดินทางถึงได้สอบถามรายละเอียดจาก นายสัมฤทธิ์ เครือจันทร์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56 หมู่ 17 ต.กระโพธิ์ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นควาญช้างและเป็นเจ้าของช้างเล่าว่า หลังจากที่นำช้างพังบัวทอง อายุ 17 ปี ออกไปเดินเร่ร่อนเพื่อหารายได้ และกำลังเดินทางกลับที่พัก ขณะเดินมาตามถนน ได้ถูกรถยนต์กระบะพุ่งชนที่บริเวณฝั่งขวาของช้างอย่างแรงโดยไม่มีการแตะเบรกแต่อย่างใด ความแรงของรถที่พุ่งชนช้างพังบัวทองทำให้นายสัมฤทธิ์ถึงกับตกลงมาจากหลังช้างได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนช้างพังบัวทองได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ขาขวาหน้าและขาขวาด้านหลัง มีบาดแผลฉีกขาด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้รายละเอียดว่า โชเฟอร์คนขับทราบชื่อต่อมาว่าชื่อ นายเกียรติบดินทร์ แสนจันทร์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67 หมู่ 1 ต.นาซาง อ.เมือง จ.น่าน ซึ่งเป็นพนักงานอยู่โรงงานแห่งหนึ่งในย่านนิคมอุตสาหกรรมบ่อวิน หลังเกิดเหตุพบว่ามีกลิ่นเหล้าเหม็นคลุ้ง เจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปตรวจสารแอลกอฮออล์ในร่างกายทันทีและพบว่าเกินขนาดที่กฎหมายกำหนด จึงได้ควบคุมตัวเอาไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

     สำหรับ ช้างพังบัวทอง หลังจากที่ นายสัตวแพทย์ อลงกรณ์ มหรรณพ เดินทางมาถึง ได้พยายามจะเข้าไปดูบาดแผล แต่ช้างพังบัวทองไม่ยินยอมให้เข้าใกล้ และพยายามที่จะลุกเดินไปตามถนนเพื่อจะกลับที่พัก เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยต้องกันรถที่สัญจรไปมากันจ้าละหวั่น และเมื่อถึงจุดที่พักที่ช้างพังบัวทองต้องกลับมานอนเป็นประจำ ช้างพังบัวทองถึงได้ยอมให้ นายสัตวแพทย์ อลงกรณ์ มหรรณพ เข้าตรวจดูบาดแผลซึ่งพบว่ามีรอยบาดแผลฉีกขาดเป็นบาดแผลฉกรรจ์ที่ขาหน้าและขาหลังฝั่งขวา ซึ่ง นายสัตวแพทย์ อลงกรณ์ มหรรณพ ได้ฉีดยาชาและเข้าเย็บบาดแผลสดๆ ซึ่งช้างพังบัวทองได้พยายามดิ้นและพยายามใช้เท้าเตะไม่ให้เข้าใกล้ พร้อมกับส่งเสียงร้องตลอดเวลา ซึ่ง นายสัตวแพทย์ อลงกรณ์ มหรรณพ ได้ใช้เวลาร่วม 1 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ

     นายสัตวแพทย์ อลงกรณ์ มหรรณพ จากสำนักพระราชวัง กล่าวว่า ได้ทำการฉีดยาและเย็บปิดบาดแผลทุกแห่งให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โชคดีที่ขายังไม่ถึงกับหัก แต่อาจจะกระดูกแตกต้องดูอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งได้ห้ามนำออกไปเดิน 5-10 วัน เพื่อให้ช้างพังบัวทองได้พักฟื้นอย่างเต็มที่ ซึ่งช้างพังบัวทองโชคดีที่จุดที่รถพุ่งชนโดยไม่เบรคเลยนั้นเป็นจุดขาหลังฝั่งขวาซึ่งมีความแข็งแรงอย่างมากก่อนที่จะไปถูกขาหน้าจึงทำให้ไม่ได้รับบาดเจ็บถึงขั้นกระดูหักแต่อย่างใด

2009-10-29