คณะทำงานโครงการท่าเรือสีขาวประชุมพิจารณาปัญหาการดำเนินโครงการ |
|
คณะทำงานกำกับดูแลโครงการท่าเรือสีขาวพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง ประชุมพิจารณาปัญหาการดำเนินโครงการต่าง ๆ ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ทั้งเรือ่งการตรวจหาสารเสพติดในร่างกายของพนักงาน การวางตู้สินค้าภายในพื้นที่ที่เกิน 45 วัน ปัญาฝุ่น PM 2.5 และปัญหาการบรรทุกน้ำหนักเกิน
วันนี้ ( 20 กุมภาพันธ์ 2566) นายรังสรรค์ ศรีอนันต์ นักบริหาร 13 ท่าเรือแหลมฉบัง ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานโครงการท่าเรือสีขาว พื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง เป็นประธานในการประชุมคณะทำงานกำกับดูแลโครงการท่าเรือสีขาวพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารเรือ ศุลกากร และผู้ประกอบการท่าเรือส่งสินค้า ในเรื่องของการตรวจสอบสารเสพติดของพนักงานท่าเรือแหลมฉบัง การตรวจสอบการวางตู้สินค้าภายในพื้นที่ของผู้ประกอบการท่าเรือแหลมฉบัง ที่เกิน 45 วัน และมาตรการและแนวทางเพื่อลดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ไม่ให้เกินที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งการตรวจสอบควบคุมการบรรทุกสินค้าไม่ให้มีน้ำหนักเกินกฎหมายกำหนด ที่ห้องประชุมแตรทอง ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี นายรังสรรค์ ศรีอนันต์ นักบริหาร 13 ท่าเรือแหลมฉบัง ได้เปิดเผยผลสรุปผลการประชุมในครั้งนี้ ได้แก่ ในเรื่องตู้สินค้าที่มีการกำหนดวัน แล้วเป็นตู้ตกค้าง จะดำเนินคดีทางด้านกฎหมายได้หรือไม่ ซึ่งเป็นข้อมูล พรบ.ข้อกำหนดทางด้านกฎหมายของศุลกากรที่จะชี้แจงในการให้ข้อมูล ซึ่งได้รับการชี้แจงจากตัวแทนศุลกากรว่า ในส่วนการดำเนินการได้ดำเนินการตามกฎหมายทุกขั้นตอน สามารถตรวจสอบได้ ในส่วนของท่าเรือสีขาว ได้ร่วมมือกับตำรวจภูธรภาค 2 หน่วยงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของทหารเรือ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ โดยการสุ่มตรวจหาสารเสพติดกับพนักงานท่าเรือแหลมฉบังที่มีจำนวนกว่า 200 คน ตอนนี้ตรวจไปแล้วประมาณ 200 คน ซึ่งไม่พบสารเสพติดในตัวพนักงานแต่อย่างใด ส่วนที่เหลือเจ้าหน้าที่ติดอบรมและติดราชการจึงยังไม่สามารถตรวจสอบได้ ในส่วนของการดำเนินการควบคุมฝุ่นละออก PM 2.5 ของท่าเรือแหลมฉบัง ก็ได้ดำเนินการติดหัวสปริงเกอร์พ่นละอองน้ำฝอยตามประตูตรวจสอบสินค้าทั้งหมด รวมทั้งวันที่ 22 กุมภาพันธฺ 2566 นี้ จะมีการเปิดตัวโครงการกำจัดและควบคุมฝุ่นละออง PM 2.5 ร่วมกับจังหวัดชลบุรี อย่างเป็นทางการ เรื่องตู้สินค้าที่ตกค้าง มีมติในที่ประชุมในวันนี้มีความเห็นว่า จะให้ศุลกากรร่วมกับท่าเรือแหลมฉบัง และผู้ประกอบการ จัดตั้งคณะทำงานเพื่อจัดเตรียมข้อมูลเสนอแนวทางแก้ไขและจัดการสินค้าที่ตกค้างทั้งหมด 286 ตู้ ให้เสร็จเรียบร้อยให้เร็วที่สุด ในส่วนของค่าใช้ในการดำเนินการทำลายหรือจัดส่งตู้สินค้าออกนอกประเทศ ก็จะมีการปรึกษากับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมต่อไป และเรื่องการตรวจสอบควบคุมน้ำหนักการบรรทุกสินค้า ไม่ให้เกินมาตรฐานตามที่กรมทางหลวงกำหนด อยู่ในขั้นตอนการปฏิบัติสามารถดำเนินการตรวจสอบได้ แต่ขอข้อมูลการกำหนดน้ำหนักรถทั้งหมดก่อนว่าท่าเรือแหลมฉบังมีการตรวจสอบและข้อกำหนดอย่างไรบ้าง ซึ่งจะได้นำไปดำเนินการสุ่มตรวจสอบรถที่มีน้ำหนักเกินต่อไป
|