PTT คลังก๊าซเขาบ่อยา และคลังน้ำมันศรีราชา เปิดบ้านต้อนรับชุมชน ประจำปี 2566 ครั้งที่ 1

     เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2566 ที่ศูนย์ประชุมและฝึกอบรมเขาบ่อยา คลังก๊าซเขาบ่อยา ตำบลทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี นายถิรนันท์ ไกรทองสุข ผู้จัดการฝ่ายบริหารคลังภาคตะวันออก บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เป็นประธานกล่าวเปิดกิจกรรม “เปิดบ้านต้อนรับชุมชน” ประจำปี 2566 ครั้งที่ 1 เยี่ยมชมโครงการฯภายใต้การปฏิบัติตามมาตรการในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Assessment : EA) ระยะดำเนินการ ของคลังก๊าซเขาบ่อยาและคลังน้ำมันศรีราชา บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) โดยมีนายสันติ ศิริตันหยง รองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครแหลมฉบัง พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร คลังก๊าซเขาบ่อยาและคลังน้ำมันศรีราชา ผู้นำชุมชนและกลุ่มประมง เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้
     โดยการจัดกิจกรรมเปิดบ้านต้อนรับชุมชนนี้ เป็นกิจกรรมที่จัดเป็นประจำทุกปี โดยมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องทุกปี ปีละ 2 ครั้ง คือ ครั้งที่ 1 ในช่วงเดือนมิถุนายน และครั้งที่ 2 ในช่วงเดือนธันวาคม เพื่อเป็นการเผยแพร่ผลการตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อม รวมถึงข้อมูลรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของโครงการฯที่เกิดขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 ให้กับผู้แทนชุมชนและกลุ่มประมงได้รับทราบร่วมกัน ซึ่ง ปตท.ได้ตระหนักและให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำเนินงานของโครงการฯ เพื่อมิให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่อาจจะส่งผลกระทบต่อชุมชน โดยปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม ในประเด็นด้าน คุณภาพอากาศ  เสียง คุณภาพน้ำทิ้ง การจัดการของเสียจากโครงการฯ คุณภาพน้ำทะเล สภาพนิเวศวิทยาทางทะเล เป็นต้น ตามที่กำหนดไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Assessment : EA) อย่างเคร่งครัด ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
     ซึ่งการจัดกิจกรรมเยี่ยมชมโครงการฯ เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการที่กำหนดไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม(Environmental Impact Assessment : EA) ของโครงการฯ ซึ่ง มีวัตถุประสงค์ เพื่อเผยแพร่ผลการปฏิบัติตามมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม ในระยะดำเนินการ ให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบ และเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินงานของโครงการฯ ตลอดจนการให้ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อการดำเนินงานของโครงการฯ เพื่อที่โครงการฯ สามารถนำไปปรับปรุงการดำเนินงาน สนับสนุนส่งเสริมให้โครงการฯ อยู่ร่วมกับชุมชนและกลุ่มประมงโดยรอบได้อย่างยั่งยืน