นายกเมืองพัทยาเผยกลยุทธ์การดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติหลังเปิดประเทศ

     วันที่ 14 ก.ย.66 นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา ร่วมงานประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เพื่อยกระดับการปฏิบัติงานของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ประจําปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ครั้งที่ 5/2566 โดยมี พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พร้อมด้วยรองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ผู้บังคับการและข้าราชการตำรวจในสังกัดสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พร้อมด้วยนายภูมิพิพัฒน์ กมลนาถ เลขานุการนายกเมืองพัทยา และนายธนภัทร อุดมรัตนกูลชัย สมาชิกสภาเมืองพัทยา เข้าร่วมที่ ห้องประชุมโรงแรมพัทยาดิสคัฟเวอรี่ บีช จ.ชลบุรี

     ในการนี้ นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา ได้รับเกียรติเป็นวิทยากรบรรยายในหัวข้อ "กลยุทธ์การดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติหลังเปิดประเทศ" ในการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองในครั้งนี้ โดยได้กล่าวถึงภาพรวมของเมืองพัทยาทั้งในด้านประวัติความเป็นมา การบริหารจัดการ รวมถึงด้านการท่องเที่ยว ที่ปัจจุบันเมืองพัทยาได้มีการปรับรูปแบบจากเมืองท่องเที่ยวแห่งสีสัน เป็นเมืองท่องเที่ยวในรูปแบบ Family Destination หรือการท่องเที่ยวแบบครอบครัว ที่มีความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม ทุกเพศวัย ครอบคลุมในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น Sports City, Wellness City, MICE City ฯลฯ ควบคู่ไปกับการดูแลความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว
     โดยเมืองพัทยาได้มีการบูรณาการจัดระเบียบถนนคนเดินวอล์คกิ้งสตรีท เช่น จัดระเบียบสายสื่อสารลงใต้ดิน และจัดระเบียบป้าย เพื่อความสวยงามของภูมิทัศน์และเพื่อความปลอดภัยหากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือเหตุเพลิงไหม้ รถดับเพลิงจะได้เข้าถึงจุดเกิดเหตุได้อย่างทันท่วงที อีกทั้งมีการปรับปรุงสะพานท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮายให้แข็งแรงขึ้น พร้อมติดตั้งหลังคาคลุมเพื่อกันแดดกันฝนให้กับนักท่องเที่ยวและนักเรียนที่เดินทางมาเรียนบนฝั่งพัทยา รวมทั้งเสริมศักยภาพความพร้อมด้านการท่องเที่ยว เช่น ได้มีการก่อสร้างอาคารจอดรถลานโพธิ์นาเกลือ พร้อมปรับปรุงสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติฯ ตลอดจนจัดกิจกรรมอีเว้นท์ต่างๆ ที่น่าสนใจตลอดทั้งปี ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นสิ่งที่เมืองพัทยาได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องหลังเปิดประเทศ เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว และสร้างความเชื่อมั่นในทุกๆ ด้าน เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาพักผ่อนและท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้กับเมืองพัทยาและภาพรวมของประเทศต่อไป