|
|
|
|
Home
|
ชาวเกาะสีชัง เฮ ประปา ไฟฟ้า กำจัดขยะ พัฒนาท่องเที่ยว พร้อมปี 67 |
|
ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เผยข่าวดี ประชาชนชาวอำเภอเกาะสีชังเตรียมเฮ ปี 2567 ความคืบหน้าโครงการแก้ไขปัญหา น้ำประปา ไฟฟ้า การกำจัดขยะและโครงการเสริมการท่องเที่ยว อย่างยั่งยืน กว่าพันล้านบาท เร่งดำเนินการหลังได้รับความเดือนร้อนมาเป็นร้อยปี
วันนี้ ( 3 กุมภาพันธ์ 2567 ) นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ 2567 กว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อนำมาแก้ไขปัญหา พัฒนาการท่องเที่ยวและความเป็นอยู่ให้กับประชาชนในอำเภอเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี ทั้งในเรื่องของการประปา การไฟฟ้า การจัดเก็บและทำลายขยะที่มีการตกค้างอยู่บนเกาะสีชัง ประมาณ 7-8 หมื่นตัน การสร้างแหล่งพลังงานไฟฟ้าสำรองทั้งบนเกาะสีชัง และเกาะขามใหญ่ การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวภายในเกาะสีชัง เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 หลังประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมาเป็นระยะเวลากว่าร้อยปี นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากในอำเภอเกาะสีชังมีปัญหาหลายอย่างที่หน่วยงานภาครัฐจะต้องพัฒนา ปัญหาเรื่องแหล่งน้ำ ซึ่งพบปัญหาความแล้งเกิดขึ้นทุกปีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนมาเป็นร้อย ๆ ปีแล้ว ก็ว่าได้ เรื่องไฟฟ้าก็ยังไม่สมบูรณ์ ณ ปัจจุบันขอรายงานความคืบหน้าว่า ตั้งแต่ทำแผนพัฒนาจังหวัดชลบุรีมา ก็มีหน่วยงานหลักเข้ามาเตรียมแก้ปัญหาแล้วหลายหน่วยงาน ทั้งสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน รวมทั้งคณะราชเลขาในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ได้เข้ามาดูแลพร้อมกับผู้บริหารราชการกระทรวงมหาดไทย เข้ามาดูแลความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งทำให้ชาวเกาะสีชัง สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ซึ่งตัวแทนพระองค์ท่านได้เข้ามาดูแลเรื่องระบบน้ำประปา ระบบไฟฟ้า โดยได้มีการประชุมหัวหน้าส่วนราชการมาหลายครั้งแล้ว และยังได้ลงมาติดตามความคืบหน้า ซึ่งสถานการณ์ ณ ปัจจุบัน ทางจังหวัดชลบุรีได้มีการประสานกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยในระยะเร่งด่วนได้มีการก่อสร้างต่อท่อประปามาไว้ที่ปลายสะพานท่าเรือเกาะลอยศรีราชาแล้ว เพื่อที่จะเติมน้ำประปาใส่เรือบรรทุกลงไปยังเกาะสีชัง ส่วนในเกาะสีชังได้มีการก่อสร้างระบบประปา วางท่อ วางถังน้ำใหญ่ ซึ่งเมื่อเรือสูบน้ำจากการประปาศรีราชาจากท่อประปาที่ท่าเรือเกาะลอยแล้ว ก็จะนำไปเติมที่ถังใหญ่บนเกาะสีชัง เพื่อที่จะปล่อยให้ประชาชนใช้ในระบบประปาในพื้นที่เกาะสีชัง ซึ่งโครงการทั้งหมดนี้เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ที่กำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่ในปีนี้ คาดว่าก่อนวันที่ 28 กรกฎาคม ซึ่งจะเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ชาวอำเภอเกาะสีชังก็จะมีน้ำประปาใช้ในระยะสั้น ที่ใช้เรือบรรทุกน้ำจากฝั่งศรีราชามาใช้ ส่วนในระยะยาว ทางจังหวัดชลบุรีได้ของบศึกษาในการวางท่อน้ำประปาลอดใต้ทะเลจากฝั่งศรีราชา ไปยังเกาะสีชัง เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำอย่างถาวร ซึ่งได้บรรจุไว้ในงบประมาณปี 67 ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนสำนักงบประมาณกำลังพิจารณา ซึ่งถ้าแบบเสร็จแล้ว เราจะตั้งงบประมาณในปีต่อไปในการต่อท่อน้ำประปายาว 12 กิโลเมตรไปยังเกาะสีชัง ในส่วนของระบบไฟฟ้านั้นเดิมมีการต่อท่อสายไฟฟ้าจากศรีราชาไปยังเกาะสีชังแล้ว แต่เนื่องจากมีเรือบรรทุกสินค้าต่างประเทศจอดอยู่บริเวณหน้าเกาะสีชังเป็นจำนวนมาก จึงถูกสมอเรือเกี่ยวขาด ต้องใช้ระยะเวลาการซ่อมเป็นปี ตอนนี้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคก็ได้อนุมัติงบประมาณในการวางท่อใหม่ ให้ลึกลงไปใต้พื้นดิน 7 เมตรในทะเล เพื่อป้องกันการถูกสมอเรือเกี่ยวขาด ซึ่งใช้งบประมาณ 800 ล้านบาท ก็จะวางท่อภายในปีนี้เช่นกัน ส่วนบนเกาะสีชังเองก็จะมีการวางระบบโซล่าฟาร์มอีก 1 แห่ง โดยใช้งบประมาณจำนวน 200 ล้านบาท เอาไว้เป็นแหล่งพลังงานสำรอง ส่วนในเกาะขามใหญ่ก็จะมีการวางระบบโซลาฟาร์มอีก 1 แห่งบนเกาะขามใหญ่ รวมทั้งแหล่งน้ำประปาอีกด้วย จากการติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างก็พบว่าทุกฝ่ายกำลังเร่งลงมือก่อสร้างกันอยู่ในขั้นตอนของกรมโยธาธิการทั้งในเรื่องของระบบประปา และการก่อสร้างโซล่าฟาร์ม รวมทั้งในเรื่องของระบบการเผาขยะบนเกาะสีชังที่มีการเก็บขยะได้วันละประมาณ 5-8 ตัน ในปัจจุบันเตาเผาขยะที่เกาะสีชังมี 4 เตา แต่สามารถเผาได้เพียง 2 เตา ก็จะทำให้มีขยะตกค้างเพิ่มขึ้นทุกวัน จึงได้ของบประมาณไปยังกรมท้องถิ่น คาดว่าจะใช้งบประมาณ ประมาณกว่า 20 ล้านบาทเพื่อจะก่อสร้างเตาเผาขยะ นำมาเผาขยะที่ตกค้างประมาณ 7-8 หมื่นตัน ให้หมดออกไปก่อน ส่วนขยะใหม่ก็จะมีการคัดแยกขยะ ทำธนาคารขยะ ซึ่งก็จะสามารถแก้ปัญหาเรื่องขยะ น้ำประปา และไฟฟ้า ให้กับชาวอำเภอเกาะสีชังไปได้ ส่วนในเรื่องของการปรับปรุงภูมิทัศน์ด้านการท่องเที่ยว ก็ได้งบประมาณมาที่จะทำถนนแอสฟัลติกลาดยางเชื่อมแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ การเพิ่มชายหาดเสริมแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงานที่เข้ามา โดยเฉพาะคณะราชเลขาในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ระดมทุกภาคส่วนมาให้การช่วยเหลือประชาชนบนเกาะสีชัง จึงทำให้ประชาชนบนเกาะสีชังสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในพระองค์ท่าน ที่ทำให้ประชาชนบนเกาะสีชังได้มีสาธารณูปโภค และสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนได้ใช้กัน” |
|