เปิดโครงการ 24 กุมภาพันธ์ วันรณรงค์ให้ปลอดควันพิษจากไฟป่า ประจำปี พ.ศ. 2568 

 

 

เปิดโครงการ 24 กุมภาพันธ์ วันรณรงค์ให้ปลอดควันพิษจากไฟป่า ประจำปี  2568 โดยมีนายสมศักดิ์  เกตุวัตถา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางพระ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงาน 

สืบเนื่องจากมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2543 กำหนดให้วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็นวันรณรงค์ให้ปลอดควันพิษจากไฟป่า ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ไฟป่าเป็นตัวการสำคัญที่สร้างความเสียหายต่อทรัพยากรป่าไม้และสิ่งแวดล้อม  

ซึ่งนับวันจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ สาเหตุของการเกิดไฟป่าส่วนใหญ่เกิดจากน้ำมือมนุษย์ อาจจะโดยตั้งใจหรือโดยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จากสถิติการเกิดไฟป่าของประเทศที่ผ่านมาพบว่า สาเหตุของการเกิดไฟป่ามาจากการจุดไฟเผาป่าเพื่อเก็บหาของป่า ล่าสัตว์ และการเผาวัชพืชเพื่อเตรียมพื้นที่เกษตรกรรม ซึ่งผลจากการกระทำดังกล่าวก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบนิเวศ ทำให้เกิดหมอกควันเป็นจำนวนมาก และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ส่งผลกระทบต่อสภาวะแวดล้อม คุณภาพชีวิตของประชาชน และยังเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดสภาวะเรือนกระจก มีผลทำให้อุณหภูมิของโลกสูงขึ้นและในเดือนมกราคม 2568 ที่ผ่านมา สถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาเขียว – เขาชมภู่ จังหวัดชลบุรี มีความรุนแรง และมีจุด 

ความร้อนเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก  ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อรณรงค์และประชาสัมพันธ์ 

ให้ประชาชนทราบและงดเว้นการจุดไฟเผาป่า และสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับประชาชนทราบถึงอันตรายและผลกระทบที่เกิดจากไฟป่า โดยมีกิจกรรมดังนี้กิจกรรมขบวนรณรงค์ให้ปลอดควันพิษจากไฟป่า การจัดแสดงนิทรรศการ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับไฟป่า  ตลอดจนการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การมอบประกาศเกียรติคุณแก่ผู้ให้การสนับสนุนการป้องกันไฟป่า และให้ความช่วยเหลือในกิจกรรมการป้องกัน และแก้ไขปัญหาไฟป่า จากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่า และหมอกควัน ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี มอบเกียรติบัตรให้แก่นักเรียน ที่ร่วมประกวดวาดภาพระบายสีในหัวข้อ “รณรงค์ปลอดควันพิษจากไฟป่า โดยมีหัวหน้าหน่วยงานราชการในจังหวัดชลบุรี หน่วยงานต่างๆในสังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานภาครัฐ เครือข่ายป้องกันไฟป่า นักเรียน และประชาชน  

มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งสิ้นประมาณ 300 คน