โครงการ 'รสชาติ...ที่หายไป' สืบสานภูมิปัญญาไทย สู่สายตาชาวโลก |
|
"ชลบุรี คัดเลือก 5 เมนูอาหารถิ่นร่วมโครงการ 'รสชาติ...ที่หายไป' สืบสานภูมิปัญญาไทย สู่สายตาชาวโลก
วันพุธที่ 28 พฤษภาคม 2568 นายพงศ์ธสิษฐ์ ปิจนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกเมนูอาหารถิ่น ภายใต้กิจกรรม “1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น” ตามโครงการ Thailand Best Local Food “รสชาติ...ที่หายไป The Lost Taste” ประจำปีงบประมาณ 2568 ณ ห้องประชุมศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนชลบุรี อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี โดยมีรองนายกเหล่ากาชาด ประธานสภาวัฒนธรรม ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร และภาคีเครือข่าย ร่วมกันพิจารณาและคัดเลือกจากรายการอาหารครั้งนี้ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรม ได้มอบหมายให้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดชลบุรี ดำเนินการคัดเลือกเมนูอาหารถิ่นของจังหวัดชลบุรี ภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนายกระดับอาหารถิ่น สู่มรดกทางวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ความเป็นไทย (Thailand Best Local Food) "รสชาติ...ที่หายไป The Lost Taste" ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมเมนูอาหารถิ่นที่กำลังจะเลือนหาย ยกระดับ พัฒนา สร้างสรรค์ ให้เป็นอาหารถิ่นของจังหวัด และเพื่อเป็นการอนุรักษ์ เผยแพร่องค์ความรู้และภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมอาหารของประเทศ ตลอดจนนำเสนอเมนูอาหารที่สร้างสรรค์จากอาหารพื้นบ้านเพิ่มมูลค่าของอาหารต่อยอดวัตถุดิบที่เป็นสมุนไพรจากชุมชน ให้สามารถนำเสนอในมิติความแตกต่าง แปลกใหม่และเป็นสากล ตลอดจนสร้างโอกาส ในการปลูกฝังค่านิยม การรับประทานอาหารที่ปรุงจากอาหารพื้นบ้านแก่เยาวชนรุ่นใหม่สืบไป สำหรับจังหวัดชลบุรี ได้จัดการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกเมนูอาหารถิ่น ภายใต้กิจกรรม “1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น” ตามโครงการ Thailand Best Local Food “รสชาติ...ที่หายไป The Lost Taste” ประจำปีงบประมาณ 2568 ณ ห้องประชุมศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนชลบุรี อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี โดยยึดหลักเกณฑ์ 5 ด้าน ได้แก่ อัตลักษณ์และภูมิปัญญา ความเสี่ยงต่อการสูญหาย วัตถุดิบท้องถิ่น การต่อยอดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และคุณค่าทางโภชนาการ ซึ่งการประชุมในวันนี้ คณะกรรมการคัดเลือกได้นำเมนูอาหารภายใต้กิจกรรม “1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น” ตามโครงการ Thailand Best Local Food “รสชาติ...ที่หายไป The Lost Taste” ประจำปีงบประมาณ 2568 จำนวน 8 รายการ ได้แก่ 1. มะพร้าวคั่ว 2. ก๋วยเตี๋ยวหลอดราดหน้า 3. แกงกะหรี่ไก่ 100 ปี 4. ส้มตำปลาทู 5. แกงไก่กะลา 6. หมูคั่วปลากุเลา 7. ขนมดอกมะพร้าว และ8. ขนมก้นถั่ว โดยคัดเลือกเพียง 5 เมนู เพื่อส่งเข้าร่วมกิจกรรมในระดับประเทศ ซึ่งกรมส่งเสริมวัฒนธรรมจะคัดเลือกให้เหลือจังหวัดละ 3 เมนู พร้อมเปิดให้ประชาชนร่วมโหวตเมนูสุดยอดอาหารถิ่นของแต่ละจังหวัดภายในเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งโครงการนี้ไม่เพียงแต่เป็นการอนุรักษ์อาหารโบราณที่เสี่ยงสูญหาย แต่ยังส่งเสริมการใช้วัตถุดิบท้องถิ่น เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ และปลูกฝังวัฒนธรรมการบริโภคอาหารพื้นบ้านให้เยาวชนรุ่นใหม่ได้สืบทอดต่อไป ปริญญา/ข่าว/ภาพ 









|