ซุกระเบิดในไฟฉาย หนุ่มก่อสร้างเจอ เปิดสวิตช์ระเบิดตูมแขนขาด ไส้ทะลัก อวัยวะเพศแหลกกระจาย
2 หนุ่มก่อสร้างดวงซวย พบกระบอกไฟฉายพลาสติกสีเหลือง วางไว้หน้าสำนักงานขายคอนโด เปิดสวิตซ์ระเบิดตูมร่างกระเด็น ไส้ทะลัก แขนขาด อวัยวะเพศขาดหายกระจุยกระจาย ก่อนหน้านี้เคยโดนกว้างระเบิดสำนักงานขาย มาแล้ว 1 ครั้ง ก่อนเกิดเหตุพบเก๋งสงสัย 3 คัน เข้ามาวนเวียน เป็นคันเดียวกับเหตุระเบิดครั้งก่อน เมื่อเวลา 08.00 น. ของวันที่ 21 พฤศจิกายน 2552 พ.ต.ท.พลกฤต ชำเสถียร สารวัตรเวรสอบสวน สภ.นาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุจาก ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัย มูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบว่า ได้เกิดเหตุระเบิดบริเวณหน้าสำนักงานขายคอนโดมิเนียม มนตรารี จอมเทียนบีช วิว ซึ่งเป็นของบริษัท เถาเจริญเวลลอปเม้นท์ จำกัด เลขที่ 133/2 หมู่ที่ 9 ถนนเลียบชายหาด ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้งหมด 2 ราย คือ นายภมร พันสำโรง อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 320 หมู่ที่ 8 ตำบลโคกกระชาย อำเภอ ครบุรี จังหวัดนครราชสีมา ได้รับบาดเจ็บสาหัส แขนขวาท่อนล่างขาด ท้องแตกไส้ทะลัก อวัยวะเพศกระจุยกระจาย ถูกนำตัวส่งรักษายังโรงพยาบาลบางละมุง แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา และนายสดใส เพียสุระ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 134 หมู่ที่ 6 ตำบลยางท่าแจ้ง อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย คิ้วแตก หูอื้อ ต่อมา สารวัตรเวรได้รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้รับบาดเจ็บสภาพเปลือยกายล่อนจ้อน นอนร้องครวญครางอยู่หน้าสำนักงานขายคอนโดมิเนียม มนตรารี จอมเทียนบีช วิว พบชิ้นส่วนเศษกางเกงผู้ได้รับบาดเจ็บกระเด็นแขวนอยู่บนสายไฟฟ้าแรงสูงหน้าสำนักงาน ซึ่ง นายมีชัย เถาเจริญ เจ้าของบริษัท เถาเจริญเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้รับเหมาก่อสร้างคอนโดยืนยันว่าผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 ราย เป็นลูกจ้างคนงานก่อสร้าง ซึ่งมี นาย ทวีรัตน์ ไพอนันต์ อายุ 33 ปี เป็นเจ้าของโครงการดังกล่าว โดยนายมีชัย เถาเจริญ บอกว่าเหตุการณ์ระเบิดได้เกิดขึ้นมาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2552 เวลาประมาณ 05.00 น.ได้มีคนร้ายขว้างระเบิดเข้ามาที่บริเวณสถานที่ก่อสร้างทำให้กระจกแตกคอนโดแตกได้รับความเสียหาย จากการสอบถาม นายมีชัย เถาเจริญ ผู้รับเหมาก่อสร้าง ให้ข้อมูลว่า สาเหตุที่ถูกขว้างระเบิด และมีการอำพรางระเบิดไว้ในกระบอกไฟฉาย ถือว่าเป็นการข่มขู่ และมุ่งร้ายต่อชีวิตอย่างแน่นอน เพราะที่ผ่านมาตัวเองไม่เคยขัดแย้งกับผู้ใดมาก่อน มีแต่เพียง นายทวีรัตน์ ไพอนันต์ เจ้าของโครงการซึ่งเป็นญาติสนิทกัน เคยมีปัญหามีปากเสียงอย่างรุนแรง กับคนมีสี เรื่องสถานที่จอดรถ อีกสาเหตุหนึ่งที่น่าสงสัย ก็คือ ก่อนหน้าที่ผู้ที่เข้ามาใช้บริการร้านอาหารซีฟู้ดชื่อดังในบริเวณดังกล่าวหลายร้าน สามารถจอดรถได้อย่างสะดวกสบาย แต่ขณะนี้ได้มีการก่อสร้างคอนโดมิเนียม ในบริเวณดังกล่าวทำให้สถานที่จอดรถ และเส้นทางเข้า-ออกหมู่บ้านจัดสรรไม่เพียงพอ ทำให้นักธุรกิจเสียผลประโยชน์ อาจจะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดความไม่พอใจ จ้างคนมีสีที่มีความรู้เรื่องระเบิดมาข่มขู่ และประสงค์ต่อชีวิต ส่วนทางด้าน นายสี บัณฑิต อายุ 42 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสถานที่ก่อสร้าง เปิดเผยว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2552 เวลาประมาณ 05.00 น. ระหว่างที่กำลังเดินตรวจพื้นที่สังเกตเห็นมีรถเก๋งสีบอร์น จำนวน 2 คัน และสีเขียว 1 คัน จำได้ว่าทะเบียนเลข 97 ขับเข้ามาวนเวียนอยู่ภายในสถานที่ก่อสร้างคอนโดมิเนียม 3 รอบ และก่อนเกิดเหตุ 2 คนงานพบกระบอกไฟฉายซุกระเบิดครั้งนี้ได้เห็นว่ารถเก๋งคันสีเขียวทะเบียน 97 ขับเข้ามาวนเวียนภายในสถานทีก่อสร้างอีกครั้ง นายสดใส เพียสุระ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 134 หมู่ที่ 6 ตำบลยางท่าแจ้ง อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย คิ้วแตก หูอื้อ ให้การว่า เมื่อตอนเช้าได้เดินออกจากทีพักคนงานไปพร้อมกับ นายภมร พันสำโรง เพื่อไปหยิบน้ำแข็งในถัง ได้พบกระบอกไฟฉายพลาสติกสีเหลือง สภาพใหม่ วางอยู่บนลังน้ำแข็ง เห็นว่าเป็นไฟฉายธรรมดา นายภมร จึงได้ทดลองเปิดสวิตซ์ ปรากฏว่าระเบิดตูมดังสนั่นเห็นร่างของ นายภมร กระเด็นล้มหงาย เละไปทั้งตัว อาจจะเป็นเพราะคนร้ายนำมาวางไว้ ซึ่งธรรมดาแล้วจะเป็นภรรยาของหัวหน้าคนงานเป็นคนมาเปิดกุญแจหยิบน้ำแข็งใส่กระติกไปวางไว้ให้คนงานดื่มกินกันในตอนช่วงอาหารเช้า แต่วันนี้ตื่นนอนสาย ทำให้นายภมร ขันอาสาไปหยิบน้ำแข็งด้วยตัวเอง ทำให้โดนระเบิดเข้าอย่างจัง ในช่วงสายของวันนี้ พลตำรวจตรี ธเนตร พิณเมืองงาม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดวิทยาการพร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเก็บหาหลักฐานโดยมี พ.ต.ท.หญิง ชลดา ศิริวงษ์ ตำรวจวิทยาศาสตร์ สบ.2 ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 2 จังหวัดชลบุรี และ เรือเอก ปัญญา เขตุจัตุรัส หัวหน้าชุดหน่วยเก็บกูวัตถุระเบิด กรมสรรพาวุธทหารเรือ นำกำลังเจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิดจำนวน 7 นายเข้าตรวจสอบและเก็บหาหลักฐานในที่เกิดเหตุ ในเบื้องต้นเรือเอก ปัญญา เขตุจัตุรัส หัวหน้าชุดหน่วยเก็บกูวัตถุระเบิด กรมสรรพวุธทหารเรือ กล่าวว่าวัตถุระเบิดที่นำมาใช้น่าจะเป็นแบบแสวงเครื่องมีน้ำหนักประมาณ 1 ปอนด์ ซึ่งมีอานุภาพการทำลายรัศมี 2-3 เมตร ซึ่งคาดว่า คนร้ายน่าจะเป็นคนมีฝีมือในการทำระเบิดสูงเนื่องจากหาหลักฐานในที่เกิดเหตุได้น้อยมากและในเบื้องต้นระเบิดน่าจะถูกทำขึ้นมาด้วยนำมาบรรจุใส่กระบอกไฟฉายแล้วนำมาวางไว้เพื่อรอการสังหารพนักงานใน ออฟฟิตมนตรารี จอมเทียน บีบ วิว ตามที่คาดหวังไว้ พ.ต.ท. กฤษ ศิริประเสริฐโชค สวญ.สภ.นาจอมเทียน กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีว่า เบื้องต้นได้เรียกตัวผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบสวนแล้วแต่ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่ามาจากสาเหตุไหนเนื่องจากการก่อเหตุในครั้งนี้ไม่ได้เจาะจงตัวบุคคลแต่เจาะจงกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับทาง ออฟฟิตมนตรารี จอมเทียน บีบ วิว แต่ประเด็นหลักน่าจะเกิดจากการขัดแย้งทางผลประโยชน์ทางธุรกิจก็เป็นไปได้ พล.ต.ต.ธเนตร พิณเมืองงาม ผบ.ก.ภ.จว.ชลบุรี ในเบื้องต้นหลังจากรับรายงานเหตุการณ์ดังกล่าวก็ได้ทำการรายงานให้ผู้บังบัญชาระดับสูงทราบแล้วพร้อมทั้งได้สังการให้ชุดวิทยาการพร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าเคลียพื้นที่ และจะเร่งให้ทำการสืบสวนสอบสวนหาผู้ที่กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วเนื่องจากการก่อเหตุในครั้งนี้เป็นการกระทำที่อุกอาจมากเพราะดูแล้วว่าผู้กระทำไม่คิดเกรงกลัวต่อกฎหมายแต่อย่างใดและหากทำการสืบทราบว่าเป็นใครแล้วจะดำเนินคดีในขั้นรุนแรงที่สุดอีกด้วย นิราช ทิพย์ศรี ภาพ / ข่าว 2009-11-22 |