ทหารเรือร่วมอำเภอสัตหีบ รวบเอเย่นต์สายพันธุ์ พระเครื่องแลกยาบ้า

       ทหารเรือ ร่วมปลัดอำเภอสัตหีบ สนธิกำลังกว่า 10 นาย บุกสมาคมส่งเสริมชาวเกาะไร่บางละมุง หลังสายลับเข้าล่อซื้อยาบ้าได้สำเร็จ ได้ตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาบ้า พร้อมตรวจยึดพระเครื่องกว่า 200 องค์ ที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด
      
     เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 27 พ.ย.52 นายสุรเชษฐ์ แก้วคำ ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกันและปราบปราม นำกำลังอาสาสมัครรักษาดินแดน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ร่วมกับ ชุดปฏิบัติการพิเศษศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด ฐานทัพเรือสัตหีบ ( ชปพ.ศตส.ฐท.สส. ) ภายใต้การอำนวยการของ นาวาเอก สุรนันท์ แสงรัตนกูล สนธิกำลังกว่า 10 นาย เข้าตรวจค้นสมาคมส่งเสริมชาวเกาะไร่บางละมุง ซึ่งเปิดเป็นโต๊ะสนุกเกอร์ ตั้งอยู่เลขที่ 77/11 ม.1 ซอย ตาโป๊ะ ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี และสามรถจับกุมตัว นายมาโนช ประกอบธรรม หรือลอย อายุ 34 ปี คนดูแล พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 20 เม็ด เงินสดที่ใช้ล่อซื้อ 1,200 บาท และตรวจยึดพระเครื่องกว่า 200 องค์ ที่คาดว่าได้มาจากการค้ายาบ้า
    
     นายสุรเชษฐ์ แก้วคำ ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกันและปราบปราม เปิดเผยว่า จากการเข้าจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจากได้รับแจ้งจากสายลับว่า ภายในสมาคมดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันได้ถูกปิดตัวลงแล้ว โดยมีผู้ต้องหาเป็นผู้ดูแล และได้ใช้พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่มั่วสุม และค้ายาเสพติด จึงได้มีการวางแผนโดยใช้สายลับที่เป็นเครือข่ายของผู้ต้องหา ที่ทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมมาได้ก่อนหน้า โทรศัพท์สั่งซื้อยาบ้าจำนวน 10 เม็ด ในราคา 1,200 บาท โดยมีการนัดส่งยาบ้าภายในสมาคมดังกล่าว หลังจากสายลับเข้าซื้อยาบ้าได้สำเร็จ ชุดจับกุมที่กระจายกำลังอยู่โดยรอบ ได้บุกเข้าจับกุมชนิดไม่ทันตั้งตัว พบยาบ้า 10 เม็ด ในตัวของสายลับ และพบเงินสดที่ใช้ล่อซื้ออยู่ในกระเป๋ากางเกงของผู้ต้องหา ซึ่งจากการตรวจค้นภายในบ้านยังพบยาบ้าอีกจำนวน 10 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในที่ชาร์ตโทรศัพท์มือถือภายในห้องนอน และตรวจยึดพระเครื่องกว่า 200 องค์ ที่คาดว่าได้มาจากการค้ายาบ้า จึงยึดของกลางทั้งหมดมาทำการตรวจสอบ พร้อมสอบสวนขยายผล
   
      จากการสอบสวนผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ได้ลักลอบค้ายาบ้ามานานนับปี โดยรับยาบ้ามาจากเอเย่นต์รายใหญ่ในพื้นที่อำเภอสัตหีบ ราคาเม็ดละ 150 บาท นำมาจำหน่ายต่อในราคาเม็ดละ 200 – 250 บาท และยังกล่าวอีกว่า พระเครื่องจำนวนนับร้อยองค์ที่พบ ไม่ได้มาจากการลักขโมย แต่เป็นของลูกค้านำมาแลกเปลี่ยนกับยาบ้า เพราะหากลูกค้าคนไหนไม่มีเงินซื้อยาบ้า ก็จะให้นำพระเครื่องมาแลกเปลี่ยนกับยาบ้าได้
  
     ยอมรับว่าที่ผ่านมาเป็นคนชอบพระเครื่อง แต่ไม่สามารถชี้ขาดได้ว่าพระองค์ไหนแท้หรือเก๊ ทำให้พระเครื่องที่นักเสพนำมาแลกกับยาบ้า เมื่อถูกนำไปตรวจสอบกับเซียนพระแล้ว กลับพบว่าเป็นของเก้แทบทุกองค์ ส่วนสาเหตุ ที่ต้องหันมาค้ายาเสพติด เนื่องจาก 2 ปี ที่ผ่านมา ได้มีภรรยาจนเกิดมีลูกน้อยขึ้น ประกอบกับสมาคมก็ถูกปิดลงด้วยพิษเศรษฐกิจ ทำให้หันมาค้ายาบ้าเพื่อนำเงินมาเลี้ยงตนเองและครอบครัว

2009-11-28

นิราช ทิพย์ศรี ภาพ / ข่าว