เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี

Quick Nav - Menu

KKOPenZoo
the park buffe 499
runsmitivaj
Thaioil
PacificPark
U-BAR
pub 10
Somsri Kitchen
งานกองข้าว2559
แห่พญายม2559
PM-Silalert
ChonburiTV
P'Chun Coffee
JoJo Perfume
สายด่วนพญาไทย

User Menu

Gameboy

Login Form






ลืมรหัสผ่าน?

Started 14 Feb, 2009

 This site has seen 177,509,770 hits to-date.   This site has seen 177,509,770 hits to-date.   This site has seen 177,509,770 hits to-date.   This site has seen 177,509,770 hits to-date.   This site has seen 177,509,770 hits to-date.   This site has seen 177,509,770 hits to-date.   This site has seen 177,509,770 hits to-date.   This site has seen 177,509,770 hits to-date.   This site has seen 177,509,770 hits to-date.
powered_by.png, 1 kB

Home
เรือหลวงจักรีนฤเบศซ้อมรบทะเลไทย พิมพ์

เรือหลวงจักรีนฤเบศร ออกฝึกเตรียมความพร้อมรบปกป้องอาณาเขตน่านน้ำทะเลไทย

Image

     เรือหลวง จักรีนฤเบศร เตรียมความพร้อมทั้งด้านองค์บุคคล องค์วัตถุ และองค์ยุทธวิธี สำหรับการออกปฏิบัติภารกิจในการปกป้องอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติทางทะเล

     พลเรือตรี พังพล ศิริสังข์ไชย ผู้บัญชาการกองเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ในฐานะ ผู้บัญชาการหมวดเรือฝึกได้เดินทางมาเยี่ยมชมการฝึกความพร้อมรบของเรือหลวงจักรีนฤเบศร บริเวณอ่าวไทยตอนล่าง โดยมีการฝึกรับส่งอากาศยาน รับส่งสิ่งของกลางทะเล การฝึกยิงปืนประจำเรือใส่หินสันฉลาม เพื่อให้กำลังพลและยุทธโธปกรณ์มีความพร้อมรบตลอดโดยมีนาวาเอก สุวิน แจ้งยอดสุข ผู้บังคับการเรือหลวงเรือหลวงจักรีนฤเบศร และกำลังพลกว่า 500 นาย ร่วมในการฝึกดังกล่าว

     นาวาเอก สุวิน แจ้งยอดสุข ผู้บังคับการเรือหลวงเรือหลวงจักรีนฤเบศร กล่าวว่าหมวดเรือฝึกความพร้อม เรือหลวงจักรีนฤเบศร และอากาศยานประจำเรือ เป็นชื่อที่คุ้นเคยของการฝึกความพร้อมหรือการออกเรือฝึกในทะเล ซึ่งเป็นสิ่งที่มีความสำคัญยิ่ง และจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติอยู่เป็นประจำ เนื่องด้วยความที่เป็นเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ซึ่งมีกำลังพลประจำเรือจำนวนมากถึง 500 นาย และมีการปฏิบัติการร่วมกับอากาศยาน และเรือผิวน้ำในกระบวนเรือในตลอดห้วงเวลาที่ออกปฏิบัติภารกิจ จึงจำต้องมีหลักการปฏิบัติงาน และรายละเอียดของการปฏิบัติงานร่วมกันที่ต้องใช้ความชำนาญเฉพาะด้านเป็นพิเศษ โดยรูปแบบการฝึกในต้นปีงบประมาณ จะมีกำลังพลส่วนหนึ่งซึ่งได้รับการบรรจุลงเรือเป็นครั้งแรก และยังไม่มีความคุ้นเคยในการปฏิบัติงาน ดังนั้นการฝึกความพร้อมของเรือและอากาศยานประจำเรือจะมีความมุ่งหมายเพื่อตรวจสอบความพร้อมในด้านองค์บุคคล องค์วัตถุ และองค์ยุทธวิธี รวมไปถึงบรรณสารคู่มือที่ใช้ประกอบการปฏิบัติต่างๆ จากนั้นห้วงต่อไปจะเป็นขั้นการเพิ่มระดับการฝึกที่มีความยุ่งยากและซับซ้อนมากขึ้น โดยเป็นการฝึกร่วมในระดับกองเรือ ซึ่งมีเรือต่างประเภทเข้ามาฝึกร่วม ระดับกองทัพเรือเป็นการฝึกทดสอบแผนตามที่กองทัพได้จัดทำขึ้น และกองทัพไทยเป็นการฝึกร่วมระหว่างเหล่าทัพ รวมทั้งในบางครั้งอาจจะมีการฝึกร่วมกับเรือจากกองทัพเรือมิตรประเทศ เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพเรือมิตรประเทศ

     การออกเรือทำการฝึกในทะเลแต่ละครั้งนั้น ฝ่ายอำนวยการของกองเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ ในทุกสายงาน ทั้งด้านกำลังพล ยุทธการ การข่าว การส่งกำลังบำรุง และการสื่อสาร จะร่วมประชุมเพื่อวางแผนทำการฝึก และเสนอขออนุมัติผู้บัญชาการกองเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ จัดตั้งหมู่เรือฝึกความพร้อมของเรือและอากาศยานประจำเรือขึ้น และประสานขอรับการสนับสนุนเรือ/อากาศยานที่ออกปฏิบัติราชการต่างๆเข้าร่วมสมทบในบางหัวข้อการฝึก เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการฝึก ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะกำหนดพื้นที่ฝึกในบริเวณอ่าวไทย โดยมีห้วงเวลาในการฝึกประมาณ 3-4 วัน และมีหัวข้อการฝึก หรือการปฏิบัติที่สำคัญดังนี้ การเตรียมการก่อนการออกเรือ,  การจัดโครงสร้างในการฝึก  , การประจำสถานีออก-จอดเรือ,การฝึกรับ-ส่งสิ่งของในทะเล ,  การฝึกการรบในสาขาต่างๆ, การป้องกันภัยทางอากาศ, การป้องกันภัยจากเรือดำน้ำ

     พลเรือตรี พังพล ศิริสังข์ไชย ผู้บัญชาการกองเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ในฐานะ ผู้บัญชาการหมวดเรือฝึกกล่าวว่าจากวันนั้น 20 มีนาคม 2540 วันที่เรือขึ้นระวางประจำการ จวบจนถึงวันนี้ เป็นเวลากว่า12 ปีแล้ว ที่เรือลำนี้อยู่เคียงคู่กองทัพเรือไทย เพื่อเป็นกำลังรบสำคัญในการป้องกันประเทศ รักษาอธิปไตย และคุ้มครองผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และยังคงอยู่เคียงข้างปวงชนชาวไทยเพื่อคอยช่วยเหลือยามประสบภัยพิบัติ อย่างมิรู้จักเหนื่อยเหน็ด ไม่เพียงแต่ประชาชนคนไทยเท่านั้น ที่รู้ซึ้งถึงคำว่าที่สุดของเรือลำนี้ ทหารเรือทุกนายก็คงไม่แตกต่าง เพียงแต่สามารถสัมผัสเรือรบที่มีประสิทธิภาพสูงระดับแนวหน้าของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้มากกว่าเท่านั้น ตั้งแต่ที่กองทัพเรือมีเรือลำนี้ไว้ประจำการได้ไม่นาน จักรีนฤเบศร ชื่อพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็ได้สร้างแสนยานุภาพมาสู่ราชนาวีไทยได้อย่างต่อเนื่อง เพราะในทุกๆภารกิจที่กองทัพเรือมอบหมายมาตลอด 12 ปีนั้น เรือหลวงลำนี้สามารถปฏิบัติได้อย่างเยี่ยมยอด จนเป็นที่ยอมรับของประชาชนตลอดมา

     ฉะนั้นกับคำว่า ที่สุด สำหรับเรือหลวงจักรีนฤเบศรแล้ว คู่ควรอย่างไม่ต้องสงสัย ผู้เขียนขอรับอาสาบรรยายถึงสิ่งที่เป็นที่สุด เพื่อให้ได้ทราบพอสังเขป  ร.ล.จักรีนฤเบศร เป็นเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ที่ดีที่สุด ใหญ่ที่สุด มีศักยภาพมากที่สุดในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ประเทศไหนๆก็มิอาจเทียบได้ ด้วยขีดความสามารถในการบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ขนาดกลางได้ถึง 15 เครื่อง หรือเครื่องบินขึ้นลงทางดิ่ง (Vertical/Short Take Off and Landing: V/STOL) ได้ 12 เครื่อง ทำให้เพิ่มขีดความสามารถของกำลังทางเรือด้านการลาดตระเวน การเฝ้าตรวจและหาข่าว การป้องกันภัยทางอากาศให้กับกองเรือ รวมทั้งใช้อาวุธสำหรับการปฏิบัติการทางเรือตามสาขาต่างๆได้เป็นอย่างดี โดยมีคุณลักษณะที่พิเศษ ดังนี้ตัวเรือแข็งแรง มีความคงทนทะเลได้ถึง ระดับ Sea State 9 (ความสูงของคลื่น 13.8 เมตร)   รัศมีปฏิบัติการ ไกลถึง 10,000 ไมล์ทะเล และสามารถปฏิบัติการในทะเลได้อย่างต่อเนื่องนานถึง 45 วัน โดยไม่ต้องรับการส่งกำลังบำรุงเพิ่มเติม

     ขีดความสามารถด้านการปฏิบัติการบิน ประกอบด้วยดาดฟ้าบิน สถานที่สำหรับรับ-ส่งอากาศยาน และมีสถานีรับ-ส่งน้ำมันเชื้อเพลิงและสถานีจ่ายกระแสไฟฟ้าไว้บริการแก่อากาศยานที่นำเครื่องจอดลงบนดาดฟ้า ซึ่งดาดฟ้าบินนี้สามารถรับ-ส่งเฮลิคอปเตอร์ได้ทุกประเภทสามารถรับ-ส่งเฮลิคอปเตอได้ 5 เครื่องพร้อมกัน  การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเล เป็นอีกหนึ่งกิจสำคัญในยามสงบ ร.ล.จักรีนฤเบศร เป็นเรือขนาดใหญ่สามารถทนคลื่นลมในทะเลได้ดี เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัยสามารถค้นหาและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเลได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังสามารถขยายพื้นที่ในการลาดตระเวนและระยะเวลาในการปฏิบัติการในทะเลได้เป็นเวลานาน ทำให้ภารกิจการช่วยเหลือผู้ประสบภัยมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น

     ภายในเรือยังมีโรงพยาบาลขนาด 15 เตียง ซึ่งมีอุปกรณ์พร้อมใช้สำหรับรักษาผู้ป่วย มีทั้งห้องผ่าตัด ห้องทันตกรรม และห้องเอ็กซเรย์ โดยมีคณะแพทย์ที่มีความสามารถพร้อมปฏิบัติภารกิจได้ตลอด 24 ชม. เวลา 12 ปีที่ผ่านไปนั้น เรือลำนี้ได้มีบทบาทช่วยเหลือประชาชนคนไทยจากความไม่สงบและภัยพิบัติทางธรรมชาติมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง อาทิพายุไต้ฝุ่นซีตาห์ ที่จังหวัดชุมพร เมื่อ 24 สิงหาคม พ.ศ.2540 ,พายุไต้ฝุ่นลินดา ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที 4-7 พฤศจิกายน พ.ศ.2540 ,น้ำท่วมที่จังหวัดสงขลา วันที่ 23-29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543 ,เหตุการณ์ความไม่สงบในกรุงพนมเปญ เมื่อวันที่ 26 มกราคม พ.ศ.2546 ,เหตุการณ์ธรณีพิบัติคลื่นยักษ์ Tsunami บริเวณชายฝั่งทะเลอันดามัน เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ.2547   กำลังพลกว่า 500 ชีวิตของกำลังพลบนเรือ เปรียบเสมือนคนในครอบครัวเดียวกัน เป็นสิ่งสำคัญยิ่งต่อการขับเคลื่อน ให้ภารกิจของเรือเดินทางไปสู่เป้าหมาย เรือเป็นสิ่งไม่มีชีวิต แต่บุคคลเหล่านี้ต่างหากที่มีชีวิต เขาคือชีวิตของเรือ กว่า 12 ปีที่กำลังพลผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนบรรจุลงเรือ มาจนถึงวันนี้คงนับได้ไม่หมด และประจำเรือทุกคนต่างทราบดี ว่าตนเองมีหน้าที่อะไร ต้องเชี่ยวชาญในด้านใด จะปฏิบัติตนอย่างไร เพื่อให้เรือสามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มกำลัง   เข้าใจในความหมายของความเป็นที่สุดอยู่ทุกขณะจิต เพราะวันแล้ววันเล่าที่ผ่านไป ไม่เคยเสียเปล่า ประจำเรือทุกคนต่างเร่งฝึกฝนตนเอง ให้พร้อมเสมอสำหรับวันใหม่ เพราะยามใดที่เรือเคลื่อนตัวออกจากท่า นั่นหมายถึง ภาระสำคัญที่จะบกพร่องมิได้ให้สมกับที่ผู้บังคับบัญชาไว้วางใจ 

นิราช ทิพย์ศรี ภาพ / ข่าว  2009-11-30

Image

Image

Image

ImageImage

ImageImage

Image

 
< ก่อนหน้า   ถัดไป >

Date

จันทร์, 29 เมษายน 2024
Phyathai
The park Hotel
thailand base 2563
Robinson Sriracha
SRC-monopoly
SS-monopoly
Bangpra-monopoly
LCB-monopoly
ม.บูรพา
PChonburi
แปซิฟิคโฮม-แปซิฟิคซิตี้โฮม
sizzler
kartsพ่นกันสนิมรถยนต์

Who's Online

The park Hotel
เมนูอร่อย 399 แปซิฟิคพาร์ค โฮเทล
(C) 2024 Buraphanews.com
www.buraphanews.com All rights reserved.