เฒ่ามะกันนักดำน้ำฆ่าตัวตายพิสดารจุดเตาถ่านรมควันตัวเองในรถยนต์ดับกลางหุบเขา

      เฒ่ามะกันนักดำน้ำโชว์ตายพิสดารขับรถยนต์ แจ็ส ขึ้นกลางเขาก่อนก่อเตาจุดถ่านหินทิ้งในรถให้เกิดควันขโมงปิดกระจกล็อคประตูแน่นทิ้งกุญแจหายขาดอากาศหายใจดับขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นมากว่า 4 วัน

      เหตุการณ์รายนี้ได้ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา   08.00 น. ของวันนี้  ( 30 พ.ย. 52 )  ร.ต.ท.เอกชัย   มูลลี  พนักงานสอบสวนประจำวัน  สภ.สัตหีบ  ได้รับแจ้งจากทางศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ ว่า มีคนหาของป่าเข้าไปพบศพคนนอนเสียชีวิตอยู่ภายในรถยนต์เก๋ง  กลางป่าเขาวังปลา 1 ใกล้ๆ  เข้าชีจรรย์  ม.11  ต.บางเสร่  อ.สัตหีบ  จ.ชลบุรี   ขอให้มาตรวจสอบหลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยกำลังเดินทางไปตรวจสอบ

      ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านและคนหาของป่าต่างพากันยืนมุงดูเหตุการณ์ด้วยความตกใจภายในที่เกิดเหตุพบรถยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้าแจ๊ส  สีเทา หมายเลขทะเบียน กย 4513  ชลบุรี  ตรวจสอบพบว่าประตูทั้งสี่ด้านถูกล็อคไว้ทั้งหมดจึงได้ให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ทำการงัดกระจกเพื่อเปิดประตูโดยใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงจึงเปิดประตูออกมาได้จากการตรวจสอบภายในรถยนต์ พบศพชายชาวต่างชาตินั่งเสียชีวิตอยู่ที่เบาะคนขับด้านหน้าในสภาพศพขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นเน่าไปทั่วโดยคาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 วัน ใส่เสื้อยืดคอกลมสีน้ำเงิน  สวมกางเกงขาสั้นสามส่วนสีขี้ม้าและสวมหมวกแก๊ปสีแดง  ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบร่องรอยของการถูกทำร้ายแต่อย่างใดพบแต่เพียงเอกสารที่ระบุได้ว่าเป็นใครโดยทราบชื่อต่อมาคือ Mr.Kenneth  Earl   Steube   อายุ  49 ปี  สัญชาติอเมริกันประเทศสหรัฐอเมริกา  ตรวจสอบในรถยนต์ยังพบชุดอุปกรณ์ดำน้ำที่วางอยู่บนเบาะด้านหน้าซ้ายและเตาถ่านที่มีเศษขี้เถ้าซึ่งถูกจุดใช้งานไปแล้วถูกวางอยู่ไว้ที่ท้ายรถยนต์

     ในเบื้องต้นจึงได้ประสานงานไปยัง พ.ต.ท.อรรณนพ   ตะปานนท์  นักวิทยาศาสตร์   สบ.3  งานตรวจพิสูจน์หลักฐาน ชลบุรี  ให้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุและได้สันนิษฐานเบื้องต้นว่าเหตุการณ์รายนี้น่าจะเป็นการฆ่าตัวตายมากกว่าการถูกฆ่าตกรรม โดยที่ผู้ตายน่าจะขับรถยนต์คันดังกล่าวมายังที่เกิดเหตุซึ่งเป็นป่าก่อนที่จะลงมือจุดถ่านใส่เตาที่เตรียมมาวางไว้ด้านหลังรถแล้วกลับมานอนหลับอยู่ด้านหน้ารถยนต์ก่อนที่จะปล่อยให้ควันลอยเต็มรถยนต์จนตัวเองขาดอากาศหายใจและเสียชีวิตดังกล่าวซึ่งในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุพร้อมทั้งยังให้ทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยนำร่างของผู้เสียชีวิตส่งพิสูจน์ยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ฯ เพื่อหาสาเหตุของการตายที่แน่ชัดส่วนสาเหตุของการฆ่าตัวตายในครั้งนี้นั้นต้องให้ทางเจ้าหน้าที่พนักงานทำการสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

นิราช   ทิพย์ศรี  ภาพ / ข่าว  2009-11-30