พบสาวอะโกโก้พัทยา วัย 24 ปีเป็นศพตายอืดปริศนา 4-5 วัน ในห้องเช่ากลางเมืองพัทยา  พบสภาพท่อนล่างเปลือยขาสองข้างกางออกคล้ายถูกข่มขืน  เพื่อนร่วมงานระบุไม่ออกไปทำงานมาหลายวันสงสัยเลยมาดูที่ห้องก็พบเป็นศพ     ด้าน ตร.ยังไม่ระบุสาเหตุที่แน่ชัดว่า เกิดจากการเสียชีวิตเอง หรือถูกข่มขืน หรือฆ่าชิงทรัพย์ หรือไม่

      เมื่อเวลา 05.30 น. วันที่ 30 พ.ย. 52  พ.ต.ท.ทัยเลิศ ลือปือ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา สาขาย่อยโค้งดงตาล จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุพบศพคนตายที่ แมนชั่นให้เช่ารายวัน-รายเดือน  ตั้งอยู่ที่อาคารเลขที่ 315/133  ริมถนนทัพพระยาก่อนถึงแยกแกรน 100 เมตร  ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี  จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสานแพทย์เวร รพ.บางละมุง เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา  ตำรวจชุดสืบสวนจำนวนหนึ่งไปตรวจสอบทันที

     ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น ซึ่งแบ่งเป็นห้องเช่าพักรายวัน-รายเดือน   ตรวจสอบเบอร์ 5 ชั้นที่ 2  ภายในห้องพบศพ ผู้เสียชีวิตเป็นหญิงสาวทราบชื่อต่อมา  นางสาวหนูหลิ่ง  แวดรัมย์ หรือหอย   อายุ 24 ปี  (อาชีพสาวเต้นอะโกโก้แห่งหนึ่งย่านชายหาดจอมเทียน ) อยู่บ้านเดิมเลขที่ 128  ม.12 ต.ดอนอะราง อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์  สภาพศพนอนหงายอยู่ที่พื้นห้องติดกับประตูห้อง ร่างกายท่อนล่างเปลือย สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีน้ำเงินและสวมกระโปรงสีขาวลายลายสลับดำ ซึ่งกระโปรงที่สวมอยู่นั้นมีร่องรอยถลกขึ้นไปอยู่ที่เอว และขาทั้งสองข้างกางออก ศพเริ่มเน่าอืดร่างดำคล้ำส่งกลิ่นเน่าไปทั่วบริเวณ  ตรวจสอบภายในห้อง พัดลมเปิด ไฟเปิดปกติ ไม่มีร่องรอยการถูกรื้อค้นทรัพย์สินหรือร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใด  แต่พบกางเกงในสีลายแดง ถอดวางอยู่ใต้ผ้าห่มบนเตียงนอน  ที่พื้นปลายเตียงนอนยังพบ ผงซักฟอกสำหรับซักเสื้อผ้าวางอยู่ 4 ถุง      โดยเจ้าหน้าที่แพทย์เวร รพ.บางละมุง ได้ทำการชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น พบว่าที่อวัยวะเพศมีร่องรอยเปิดและมีเลือดไหลออกมา แต่ยังไม่ระบุว่าเป็นการถูกข่มขืนหรือไม่  และที่ศีรษะด้านหลังมีร่องรอยฟกช้ำและมีเลือดไหลออกมาเช่นเดียวกัน  คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4--5 วัน  จึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานอย่างละเอียดก่อนนำศพไปชันสูตให้แน่ชัดอีกครั้งหนึ่ง

      จากการสอบสวน  นางสาวน้ำผึ้ง รักเขต์กิจ อายุ 30ปี  อยู่บ้านเลขที่ 31 ม.1  ต.วังซาน อ.แม่วงก์ จ.นครสวรรค์     ให้การว่า ตนทำงานเป็นพนักงานอะโกโก้อยู่ที่เดียวกันกับ นางสาวหนูหลิ่ง ผู้เสียชีวิต และสนิทกันมาก  แต่อยู่ดีๆก็ไม่เห็นนางสาวหนูหลิ่ง ออกไปทำงาน ก็คิดว่าจะมีแฟนหนุ่มต่างชาติออฟไปอยู่ด้วย ได้ประมาณ 4-5 วัน  ก็ติดต่อไม่ได้  จึงเกิดความสงสัย วันนี้หลังเลิกงานจึงมาดูที่ห้องพักของนางสาวหนูหลิ่ง เมื่อเปิดประตูห้องก็พบว่าไม่ได้ล๊อค และเปิดห้องดูก็พบว่า นางสาวหนูหลิ่ง เสียชีวิตศพอืดเน่าอยู่ในห้องพัก จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเรื่องทันที  นอกจากนี้ นางสาวน้ำผึ้ง ยังบอกอีกว่า นางสาวหนูหลิ่ง ผู้เสียชีวิตนั้น ไม่มีแฟนคนไทยและไม่คบกับใคร เนื่องจากมีแฟนหนุ่มชาวเยอรมัน รับเลี้ยงดูส่งเงินให้ใช้ตลอด และออกไปทำงานประจำทุกวัน หลังเลิกงานก็กลับมานอนพักที่ห้องคนเดียว 

      โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสอถามพยานแวดล้อมก็ให้การตรงกันว่าไม่มีใครพบเห็นอะไรผิดสังเกตุมาก่อนที่จะพบว่ามีคนตายอยู่ในห้อง ซึ่งตรงข้ามห้องพักของผู้เสียชีวิตมีกล้องวงจรปิดติดตั้งอยู่ ซึ่งตำรวจจะได้ทำการตรวจสอบว่ามีการบันทึกภาพการเข้าออกห้องพักของผู้เสียวีชิตหรือ อะไรที่ต้องสงสัยไว้บ้างหรือไม่เพื่อเป็นข้อมูลในการคลี่คายคดี        นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้สอบปากคำ นายคำรบ หอชื่อ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47/3 ม.9 ต.กังแอน อ.ประสาท จ.สุโขทัย   ซึ่งพักอยู่บนชั้นที่ 4 ห้องเบอร์ 17  หอพักเดียกวันนั้นที่มาดูเหตุการณ์และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามเพื่อหาข้อมูล ก็ให้การมีพิรุธตัวสั่น บอกออกมาว่า ไม่ได้ข่มขืนและไม่รู้จักกับผู้เสียชีวิตมาก่อน พร้อมกับบอกตำรวจว่าตนมาเช่าพักอาศัยอยู่ได้เพียง 1 เดือน เมื่อทราบว่ามีคนเสียชีวิตก็ตื่นมาดูเท่านั้น ซึ่งตำรวจก็ได้เชิญตัวไปสอบถามอย่างละเอียดอีกครั้งเนื่องจากมีอาการพิรุธ

      ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถสรุปสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดได้ว่า เกิดจากการเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุล้มในห้องพัก หรือเป็นการถูกข่มขืนและถูกฆ่า ชิงทรัพย์หรือไม่  ซึ่งจะต้องรอผลการตรวจชันสูตศพให้แน่ชัด ประกอบกับตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียดและสอบปากคำพยานแวดล้อม รวมทั้งกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ตรงข้ามกับห้องผู้เสียชีวิตอีกครั้งหนึ่งเพื่อเป็นการคลี่คลายคดีที่เกิดขึ้นให้แน่ชัด ซึ่งหากสงสัยว่ามีใครต้องสงสัยหรือเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตจะเรียกตัวมาสอบสวนทันที  พร้อมกับแจ้งเรื่องที่เกิดขึ้นให้ผู้บังคับบัญชาทราบเรื่องต่อไป

นิราช   ทิพย์ศรี  ภาพ / ข่าว  2009-11-30