หลายหน่วยสรุปการแก้ไขสารเคมีรั่ว |
|
หลายหน่วยงานสรุปการดำเนินการแก้ไขปัญหาสารเคมีรั่วไหล
วันที่ 30 พฤศจิกายน 2552 ที่วัดแหลมฉบังเก่า อ.ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี นายจินดา ถนอมรอด รองนายกเทศมนตรีตำบลแหลมฉบัง พร้อมเจ้าหน้าที่สาธารณะสุขเทศบาลตำบลแลหมฉบัง ,กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, กรมควบคุมมลพิษ, กระทรวงสาธารณะสุข ,สาธารณะสุขชลบุรี , สำนักงานสิ่งแวดล้อมที่ 13 ชลบุรี และการท่าเรือแหลมฉบัง ร่วมสรุปผลการดำเนินงานการแก้ไขปัญหากรณีเหตุการณ์สารเคมีรั่วไหล บริเวณ่าเรือ B3 ท่าเทียบเรือแหลมฉบัง ให้แก่ประชาชนแหลมฉบังที่กำลังวิตกกับเหตุกาณ์ที่เกิดขึ้นนั้นว่าเข้าสู่สภาวะปกติแล้วหรือไม่อย่างไร ซึ่งจากการายงานทางกรมควบคุมมลพิษ ได้ติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ บริเวณชุมชนวัดแหลมฉบังเก่า ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศ พบว่าอยู่ในระดับปกติ ส่วนอากาศบริเวณจุดเกิดเหตุและบริเวณโดยรอบ ไม่พบกลิ่นเหม็นแต่ประการใดและสภาพอากาศอยู่ในระดับปกติ ทางด้านคุณภาพน้ำทะเลบริเวณชายฝั่งท่าเรือแหลมฉบัง ผลการตรวจคุณภาพน้ำปกติ อีกทั้งยังได้ทำการตรวจวัดค่า pH จากกากของเสียที่หลงเหลือจากการเผาไหม้มีค่าอยู่ระหว่าง 8.9 – 9.3 ซึ่งพบว่าปกติ สำหรับกากของเสียจากการเผาไหม้ ทางกรมควบคุมลพิษ ร่วมกับบริษัท ESCO จำกัดได้ทำการเก็บกากของเสียตกค้าบริเวณจุดเกิดเหตุที่ ท่าเรือ B3 ได้รวบรวมกากของเสียบรรจุถุงดำ และบรรจุใส่ถังขนาด 200 ลิตร รวม 3 ตัน นำไปเก็บไว้ที่คลังสินค้าอันตราย JWD โดยบริษัท GENGO จะมารับไปกำจัดต่อไป สำหรับสิ่งที่ประชาชนชาวแหลมฉบังกังวลมากคือ สารตกค้างในอาหารทะเลแห้ง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้สรุปให้ประชาชนหายกังวลว่า สารเคมีที่ไหม้จะกลายเป็นก๊าซ ซึ่งก๊าซจะไม่มีการตกค้าง ตามหลังคาบ้าน ตามต้นไม้ หรือภาชนะกังเก็บน้ำไว้ใช้ โดยก๊าซจะสลาย และเจือจางไปในที่สุด มั่นใจได้ว่าก๊าซนี้ไม่เปื้อนในอาหารทะเลแห้ง ปลอดภัย สามารถรับประทานได้ตามปกติ ซึ่งทางเทศบาลได้นำรถบรรทุกน้ำมาฉีดล้างถนนภายในหมู่บ้านแหลมฉบัง เพื่อความสบายใจของประชาชน สำหรับการช่วยเหลือ นายบุญเลิศ น้อมศิลป์ นายกเทศมนตรีตำบลแหลมฉบัง กล่าวว่า การรับสิทธิ์การช่วยเหลือากภาครัฐและเอกชนครอบครัวละ 9,000 บาทนั้น จะสามารถช่วยได้เพียงครอบครัวที่มีทะเบียนบ้านอยู่ในเขตแหลมฉบังเท่านั้น ส่วนประชาชนที่มาประกอบอาชีพอยู่นานนับ 10 ปี แต่ชื่อไม่ได้อยู่ในเขตแหลมฉบังก็จะไม่ได้รับเงินช่วยเหลือจำนวนดังกล่าว แต่ทางเทศบาลก็ไม่ได้เมินเฉยประชาชนนอกเขตหรือต่างจังหวัดที่มาอาศัยอยู่ในพื้นที่แหลมฉบังและได้ผลกระทบจากเหตุการณ์สารเคมีรั่วไหลนี้ โดยผู้บาดเจ็บสามารถนำใบรับรองแพทย์และใบเสร็จมาเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ทุกคน 2009-11-30 |