พระเพลิงพิโรธไหม้บ้านวอด 2 หลัง เด็กหญิงวัย 8 ขวบจูงมือน้องวิ่งหนีตาย คว้าได้เพียงกระเป๋านักเรียน

          เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 30 พ.ย.52 พ.ต.ท.ภัทศา เดชภาคย์กุล พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้บ้านไม่มีเลขที่ ตั้งอยู่ในซอย 29 ถนนพัทยา-นาเกลือ ม.6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงประสานหน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเมืองพัทยา นำรถน้ำดับเพลิงรวม 5 คัน เดินทางไปตรวจสอบ

          ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น พบว่าเพลิงได้ไหม้ไปแล้วหมดทั้งหลัง ทรัพย์สินภายในบ้านรวมถึงรถยนต์กระบะ ยี่ห้อมาสด้า ทะเบียน บธ 8102 ชลบุรี ที่จอดอยู่หน้าบ้าน ก็ถูกเพลิงเผาผลาญได้รับความเสียหายทั้งคัน นอกจากนี้เพลิงยังได้ลามไปไหม้บ้านไหม้ชั้นเดียวใต้ถุนสูงที่อยู่ติดกัน ซึ่งเป็นของนายสังคม โสติยา อายุ 57 ปี จนชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง ต่างช่วยกันหาอุปกรณ์ตักน้ำมาระงับเพลิง และบางส่วนได้ช่วยกันขนของออกจากบ้านจนเหตุการณ์เป็นไปอย่างโกลาหล ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลาฉีดน้ำสกัดเพลิงอยู่นาน 30 นาที เพลิงจึงสงบ ตรวจสอบพบว่าบ้านทั้ง 2 หลังได้ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด

          สอบปากคำ น.ส.วีนา กำกระโทก อายุ 26 ปี ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์และพักอาศัยอยู่บ้านต้นเพลิง เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนกับ ด.ญ.มะปราง คำคุ้ม หรือน้องแป้ง อายุ 8 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.1/4 ร.ร.บ้านเนินพลับหวาน กับ ด.ช.อัษฎาวุธ คำคุ้ม หรือน้องแบ๊ง น้องชายวัย 3 ขวบ ลูกเลี้ยง กำลังนั่งดูทีวีอยู่ชั้นล่างภายในบ้านหลังดังกล่าว ส่วนนายดิเรก คำคุ้ม อายุ 48 ปี เจ้าของบ้านอาชีพขายโรตี กำลังนอนหลับอยู่บริเวณแคร่หน้าบ้าน จู่ๆ เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อพบว่าเปลวเพลิงได้ลุกไหม้ขึ้นจากเสื้อผ้าที่กองอยู่ในบ้าน และลุกลามอย่างรวดเร็ว ด้วยความตกใจตนจึงตะโกนบอกให้ทุกคนหนี พร้อมกับพา ด.ญ.มะปราง ซึ่งในขณะนั้นตกใจกับเหตุการณ์เป็นอย่างมาก แต่ยังไม่ลืมจูงแขนน้องแบ๊ง น้องชายวัย 3 ขวบ วิ่งหนีตายออกมาด้วยกัน อีกทั้งยังไม่ลืมคว้ากระเป๋านักเรียนของรักของหวงออกมาจากบ้านด้วย ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ ชาวบ้านได้ช่วยกันขนออกมาได้เพียงบางส่วนเท่านั้น กระทั่งไฟได้ไหม้บ้านไปหมดทั้งหลังรวมทั้งลามไปไหม้บ้านข้างเคียงดังกล่าว

          ส่วน ด.ญ.มะปราง คำคุ้ม หรือน้องแป้ง เล่าด้วยความไร้เดียงสาว่า “ในระหว่างที่ไฟไหม้บ้าน สิ่งของที่คิดและต้องนำออกไปให้ได้ก่อนคือกระเป๋านักเรียน ที่บรรจุสมุด-หนังสือและอุปกรณ์การเรียน เพราะหากถูกไฟไหม้จะทำให้ไปโรงเรียนไม่ได้ เพราะไม่มีอุปกรณ์การเรียนเหมือนเพื่อนๆ และต่อไปนี้ก็ไม่รู้ว่าจะไปนอนที่ไหน”

          ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากที่ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ได้ฟังคำพูดของ ด.ญ.มะปราง หรือน้องแป้ง ต่างพากันสงสารและเห็นใจในชะตากรรมที่ต้องตกเป็นคนไร้บ้าน พร้อมกับรับปากว่าจะเร่งประสานหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องให้มาเยียวยาช่วยเหลือในเบื้องต้น

          ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า จากการสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์เบื้องต้นสันนิษฐานว่า สาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้น่าจะมาจากไฟฟ้าลัดวงจรหรือไม่ก็มีคนสูบบุหรี่แล้วทิ้งก้นลงไปในกองผ้า ทำให้เพลิงลุกลามไหม้บ้านวอดไป 2 หลัง อย่างไรก็ตาม จะได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจกองวิทยาการเขต 13 จ.ชลบุรี เพื่อให้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง ส่วนค่าเสียหายของเพลิงไหม้ในครั้งนี้น่าจะประมาณ 2 ล้านบาท.

 นิราช ทิพย์ศรี ภาพ / ข่าว  2009-12-01