ชาวบ้านแห่มอบดอกไม้ให้กำลังใจตำรวจห้วยใหญ่ หลังมีกระแสข่าวผู้อิทธิพลในพื้นที่ ลงขันบีบให้ย้ายออกนอกพื้นที่ทั้งโรงพัก 
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 ธ.ค.52 ที่สถานีตำรวจภูธรห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี นายสมยศ นานาประเสริฐ ประธานอาสาสมัครสาธารณสุข สถานีอนามัยบ้านชากแง้ว ต.ห้วยใหญ่ นายอนิรุจน์ สันติโชตินันท์ ประธานสหกรณ์การเกษตรธรรมชาติ วัดญาณฯ จำกัด พร้อมด้วยชาวบ้านในพื้นที่กว่า 50 คน ได้นำกระเช้าดอกไม้และช่อดอกไม้ ไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยมี พ.ต.ท.ประกอบ แสงพริ้ง สวญ. พ.ต.ท.วศพล แสนเทพ สวป. พ.ต.ต.ภาคสุวัฒน์ ชมถนอม สว.สส. และกำลังตำรวจในสังกัดกว่า 50 นาย คอยรับมอบและให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยนายสมยศ ในฐานะตัวแทนชาวบ้าน เปิดเผยว่า นับตั้งแต่เริ่มมีพระราชกฤษฎีกาก่อตั้งสถานีตำรวจภูธรห้วยใหญ่ เมื่อปี พ.ศ.2551 ซึ่งได้ใช้ป้อมตำรวจบ้านชากแง้ว เป็นที่ทำการชั่วคราว หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจโดยการนำของ พ.ต.ท.ประกอบ แสงพริ้ง ได้ปฏิบัติหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุข และดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชนมาตลอด 1 ปีเต็ม จนทำให้มีผลงานต่างๆเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาชาวบ้าน โดยเฉพาะในเรื่องการปราบปรามยาเสพติดและอาชญากรรมในพื้นที่ จนมีสถิติการจับกุมได้ในหลายคดีสำคัญๆ นายสมยศ กล่าวต่ออีกว่า อย่างล่าสุดทางตำรวจห้วยใหญ่ได้จับกุมผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นลูกชายกำนันคนดังใน ต.เขาไม้แก้ว ที่มีอิทธิพล จากการจับกุมดังกล่าวทำให้มีกระแสข่าวว่ามีผู้มีอิทธิพลร่วมกันลงขันเพื่อโยกย้ายนายตำรวจระดับสัญญาบัตรออกนอกพื้นที่หมดทั้งโรงพัก ทำให้ชาวบ้านไม่สบายใจ เกรงว่าจะเสียนายตำรวจดีๆ ไป จึงรวมตัวกับเข้ามอบกระเช้าดอกไม้เพื่อเป็นกำลังใจ และพร้อมจะเป็นกำแพงแก้วเพื่อปกป้องตำรวจที่ทำงานรับใช้ประชาชนอย่างจริงจัง ทางด้าน พ.ต.ท.ประกอบ แสงพริ้ง สวญ. เปิดเผยว่า “ขอขอบคุณชาวบ้านทุกคนที่เดินทางมาให้กำลังใจ ตนเองพร้อมผู้ใต้บังคับบัญชาขอสัญญาว่า จะทำหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ให้ดีที่สุด โดยมีกฎเหล็กที่ได้ตั้งปณิธานไว้ทั้งกับตัวเองและลูกน้องว่า จะไม่เอาตัวไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งหมายถึงไม่เรียกรับเงิน หรือปล่อยปละละเลยให้ยาเสพติดในพื้นที่ นอกจากนี้ยังได้ร่วมประชุมวางแผนกับผู้ที่เกี่ยวข้อง คาดว่าราวๆ ต้นปีหน้าจะผุดโครงการที่เกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการโจรกรรมทรัพย์สินในบ้านพัก เพื่อให้ชาวบ้านได้อุ่นใจ ทั้งนี้การทำงานหากไม่ได้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ทางตำรวจก็คงต้องทำงานกันลำบากขึ้น ฉะนั้นประชาชนจึงเป็นสิ่งสำคัญ ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีผู้มิอิทธิพลและผู้ค้ายาเสพติดบางราย พยายามช่วยกันลงขันหาทางบีบย้ายนายตำรวจทั้งหมดออกนอกพื้นที่ หากเป็นเรื่องจริงตนก็ไม่ได้เกรงกลัวอะไร เพราะการโยกย้ายเป็นเรื่องปกติธรรมดาอยู่แล้ว แต่ถ้าหากโดนกลั่นแกล้งหรือไม่ได้รับความเป็นธรรม ตนกับลูกน้องก็พร้อมที่จะต่อสู้กับอิทธิพลเถื่อน” พ.ต.ท.ประกอบ กล่าว. นิราช ทิพย์ศรี ภาพ / ข่าว 2009-12-15 

 |