|
ภรรยาและลูกสาววัย 10 ขวบ รอรับนักรบนาวิกโยธินถูกสะเก็ดระเบิดที่นราธิวาส 
ในวันนี้ (16 ธ.ค.52) พลเรือตรี พงษ์ศักดิ์ ภูรีโรจน์ รองผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กล่าวในโอกาสที่ นาวาเอก อรุณ ทองแท้ รองผู้บัญชาการกองพลนาวิกโยธิน พร้อมคณะนายทหาร และผู้แทนจาก กองการบินทหารเรือ นาง แพรวพรรณ ช่วยทอง และ ด.ญ.ศิรินทร ช่วยทอง บุตรสาว วัย 10 ขวบ มารอรับ พ.จ.อ.กิจฏิกรณ์ ช่วยทอง สามี ที่สนามบินอู่ตะเภา ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส จากสะเก็ดระเบิด ที่ผู้ก่อความไมสงบ ลักลอบวางไว้ในขณะเข้าตรวจสอบพื้นที่ในการรักษาความปลอดภัยให้กับคณะของนายกรัฐมนตรีไทย และ มาเลเซีย ในขณะเดินทางมาปฏิบัติราชการในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เหตุเกิดที่บ้านยาโง๊ะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.52 ที่ผ่าน และในวันนี้ กองทัพเรือ ได้นำเครื่องบินลำเลียงของกองทัพเรือ จากกกองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ สนามบินอู่ตะเภา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ไปรับ พ.จ.อ.กิจฏิกรณ์ ช่วยทอง ที่สนามบินนราธิวาส เพื่อนำตัวเข้ารับการรักษาต่อที่ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เนื่องจากอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว พร้อมกับพิจารณา ปูนบำเหน็จ ความดี ความชอบ จากกรณีที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ ตามระเบียบของทางราชการ และพิจารณาเลื่อนยศเป็นนายทหารสัญญาบัตร ตามนโยบายของ พลเรือโท สุวิทย์ ธาระรูป ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองทัพเรือ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ ตามที่ได้กำหนดไว้ต่อไปอีกด้วย พลเรือตรี พงษ์ศักดิ์ ภูรีโรจน์ ยังได้กล่าวต่ออีกว่า สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.52 เวลา 08.40 น. ในขณะที่ พ.จ.อ.กิจฏิกรณ์ ช่วยทอง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน กองทัพเรือ จังหวัดนราธิวาส ได้รับคำสั่งให้นำกำลังเข้าตรวจสอบและเคลียร์พื้นที่ บริเวณ บ้านยาโง๊ะ ม.5 ต.ลูโบ๊ะบือซา อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส เพื่อรองรับความปลอดภัยให้กับคณะของ นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีไทย และ นายกรัฐมนตรี โมฮัมหมัด นาจิบ บินตุน อับดุล ราซัก ของมาเลเซีย ที่เดินทางมามาติดตามความคืบหน้าโครงการความร่วมมือไทยมาเลเซีย ระหว่าง วันที่ 7- ธ.ค.52 ที่รัฐบาลมาเลเซียให้ความช่วยเหลือ การสร้างสะพานเชื่อมระหว่าง 2 ประเทศ นอกจากนี้ ยังจะมีความร่วมมือในการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หลายเรื่อง เช่น การสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ซึ่งมาเลเซียจะเป็นตลาดรองรับสินค้าเกษตร อุตสาหกรรม รวมทั้งอาหารฮาลาลจากไทย จากไทยอีกด้วย และในขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้น ได้ถูกคนร้ายลอบวางระเบิดเป็นเหตุให้ พ.จ.อ.กิจฏิกรณ์ ช่วยทอง ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณใต้เข่ากระดูกแตกทั้งสองข้าง อาการสาหัส และมีลูกน้องได้รับบาดเจ็บ อีก 2 ราย นำตัวส่งรักษาที่ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ จน พ.จ.อ.กิจฏิกรณ์ ช่วยทอง อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว จึงได้นำตัวมารักษาต่อ ที่ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ พ.จ.อ.กิจฏิกรณ์ ช่วยทอง กล่าวว่า ในขณะที่เข้าตรวจสอบป้าย ที่เขียนโจมตีนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ ฯ ณ จุดเกิดเหตุอยู่นั้นได้เกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว และรู้สึกได้ทันทีว่าที่ขาดโดนระเบิดครั้งแรกเข้าใจสะเก็ดระเบิดคงทำให้ขาขาขาดทั้งสองข้างอย่างแน่นอน แต่ก็ยังได้สติจึงใช้อาวุธปืนประกายยิงเข้าใส่ในบริเวณป่าที่คาดว่าน่าจะมีคนร้ายซุ่มอยู่ เพราะหลังเกิดเหตุทุกครั้งคนร้ายจะออกมาซ้ำ จนกระทั่งมีคนมาช่วยนำส่งรักษาที่ รพ. จึงได้โทรศัพท์บอกภรรยาว่าถูกระเบิดน่าจะขาขาดทั้งสองข้าง เนื่องจากที่ขาไม่มีความรู้สึกเลย จนมาทราบภายหลังว่า สะเก็ดระเบิดถูกบริเวณใต้เข่า กระดูกแตกทั้งสองข้างเท่านั้นเอง และสาเหตุที่ได้รับบาดเจ็บเพียงเท่านี้น่าจะเกิดจาก เหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชที่คล้องคอไว้ช่วยคุมครองให้หนักเป็นเบานั่นเอง ดีใจครับที่ไม่ต้องถูกตัดขาเป็นเดชอ้ายด้วน พ.จ.อ.กิจฏิกรณ์ ช่วยทอง พูดติดตลก พร้อมกล่าวอีกว่าหากหายป่วยมีโอกาสก็จะลงไปทำหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสอีกอย่างแน่นอน ด้าน นาง แพรวพรรณ ช่วยทอง ภรรยา ของพ.จ.อ.กิจฏิกรณ์ ช่วยทอง กล่าวว่าหลังเกิดเหตุ สามีได้โทรศัพท์มาและบอกว่าทำใจดีๆ นะ ตัวเองถูกระเบิดที่ขาและขาน่าจะขาดทั้งสองข้าง ตนเองรู้สึกตกใจมากจากคำพูดของสามี ที่พูดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลังรับโทรศัพท์จากสามีแล้วถึงกับเป็นลมหน้ามืดเลยทีเดียว และมาทราบอีกครั้งจากผู้บังคับบัญชาของสามีว่า อาการบาดเจ็บไม่ถึงกับต้องตัดขา เพียงแต่การรักษาต้องใช้เวลามากหน่อยเท่านั้นเอง ประกอบกับได้รับการเอาใจใส่ของผู้บังคับบัญชา ที่มีต่อครอบครัวและสามีแล้ว รู้สึกภูมิใจแทนสามีเป็นย่างมาก ที่มีผู้บังคับบัญชาที่เอาใจใส่ดูแลดีอย่างนี้ อุดมเกียรติ ทิพย์ศรีกุล ก012 สำนักข่าวไทย รายงานจากจังหวัดชลบุรี 2009-12-17 
|
