ความคืบหน้าเหตุ 2 แม่ลูกถูกฆาตกรฆ่าอย่างโหดเหี้ยมภายในร้านขายอุปกรณ์ตกปลาบางพระ

เมื่อร่างที่ไร้วิญญาณ 2 แม่ลูกที่ถูกฆาตกรโหดฆ่ามาถึงที่วัดบรรดาญาติๆของผู้เสียชีวิตเห็นศพทั้ง 2 ต่างพากันร้องไห้ออกมาระงมพร้อมทั้งอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมตัวฆาตกรรายนี้มาดำเนินคดีให้ได้เร็วที่สุดและยังพากันสาปแช่งคนร้ายที่ก่อเหตุอุกฉกรรจ์รายนี้อีกด้วย

     ที่วัดบางพระวรวิหารศาลา2 ต.บางพระ บรรดาญาติๆของ 2 แม่ลูกที่ถูกฆาตกรฆ่าอย่างโหดเหี้ยมนั้นได้พากันยืนรออย่างใจจดใจจ่อและเมื่อรถที่รับศพ 2 แม่ลูกกลับมาจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์โรงพยาบาลตำรวจกรุงเทพฯมาถึงที่วัดแล้วนำศพทั้ง 2 ลงบรรดาญาติๆต่างพากันร้องไห้ระงมเมื่อเห็นศพทั้ง 2

     และเมื่อลงพื้นที่เกิดเหตุได้สอบถามรายละเอียดกับนางกัลยา บุญหว่าน อายุ 36ปี เจ้าของร้านเกมส์ติดกับร้านที่เกิดเหตุเล่าว่าตอนเกิดเหตุนั้นไม่เห็นว่าใครแต่ได้ยินเสียงตุ๊บๆก็ไม่ได้สนใจคิดว่าคงทำอะไรหล่นแล้วก็มีลูกค้ามาซื้อของยืนเรียกตั้งนานไม่มีใครออกมาแต่เมื่อตัวเองเดินออกมาจากหลังร้านลูกค้าคนนั้นก็วานให้เข้าไปเรียกจึงได้เข้าก็พบว่านอนจมกองเลือดอยู่จึงรีบวิ่งออกมาร้องให้คนช่วย

     ส่วนนางจิ๋ม ตีอุโภก อายุ 44ปี เพื่อนบ้านที่เปิดร้านซักอบรีดถัดไป 3 ร้านเล่าว่าครอบครัวนี้ตั้งแต่มาเซ้งร้านนี้ได้ 5 เดือนก็ไม่เคยเห็นมีเรื่องมีราวกับใครถึงเวลาก่อนไปทำงานสามีก็เปิดร้านให้หลังเลิกงานก็รีบกลับบ้านมาหาลูกและเมียไม่ค่อยยุ่งกับใครตัวเองยังอิจฉาเลย ซึ่งทั้งสองยังบอกอีกว่าหลังจากเกิดเหตุแล้วประมาณ 2 ทุ่มก็ได้รีบพากันปิดบ้านแล้วซึ่งทุกวันยังไม่เกิดก็เปิดคุยกันกว่าสี่ห้าทุ่มเนื่องจากกลัวแต่ไม่ได้กลัวผีหรอกแต่กลัวโจรก่อนหน้านี้ก็มีกลุ่มวัยรุ่นเสพยาขับรถผ่านกันทั้งคืนพอเจ้าหน้าที่เข้ามาก็พากันหนีตามเส้นทางที่มักคุ้นแล้วบางครั้งก็กระชากกระเป๋ากันเห็นๆแล้วยิ่งมาเกิดเรื่องอย่างนี้อีกยิ่งกลัวเข้าไปอีกนางจิ๋มยังบอกอีกว่าถ้ามีที่ไปย้ายหนีไปตั้งนานแล้ว

     ด้านนายนรากร สามีผู้ตายและพ่อเด็กให้การว่าตนเองและภรรยาได้อยู่กินกันมาประมาณ7ปีแล้วซึ่งตอนนั้นภรรยาทำงานอยู่โรงงานจึงได้ช่วยกันทำเก็บจนมีเงินก้อนหนึ่งก็เลยเอามาเซ้งร้านนี้จากลูกพี่ลูกน้องกันก็เปิดขายตามปกติก่อนไปทำงานก็เปิดร้านให้หลังเลิกก็รีบกลับบ้านและไม่เคยไปมีเรื่องหรือหาเรื่องใคร ส่วนเรื่องเงินกู้นั้นมันเป็นการยืมมากกว่าเพราะที่ยืมไปนั้นเป็นเพื่อนที่สนิทกันจริงๆเข้าออกร้านได้ง่าย 7-8คนเงินก็ประมาณ26,000บาทแต่เขายืมไปเขาก็มาคืนไม่มีก็กลับมายืมเป็นประจำจึงคาดว่าผู้ที่ก่อเหตุครั้งนี้น่าจะเป็นวัยรุ่นที่ติดยามากกว่าหวังเพียงทรัพย์สินเพื่อนำไปซื้อยามาเสพแต่ภรรยาอาจต่อสู้และกลัวจำได้จึงถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม จึงอยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเร่งติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุรายนี้ให้ได้โดยเร็ววันอย่าปล่อยให้ไปก่อคดีที่อื่นเลยเพราะเหตุการณ์นี้ผู้หญิงสู้ไม่ได้มันยังทำได้แล้วลูกสาวตัวเองอีกอายุแค่ขวบกว่าก็ยังทำอย่างโหดเหี้ยม

    ซึ่งที่ สภ.ศรีราชา เจ้าหน้าที่ตำรวจและชุดสืบสวนประชุมเครียดหลายชั่วโมงเพื่อเร่งวางแผนหาตัวผู้ก่อเหตุรายนี้แล้วส่วนชุดสืบสวนภาคได้ลงพื้นที่หาเบาะแสคนร้ายรายนี้จำนวนหลายชุดเพื่อเร่งรัดคดีให้ได้

ชำนาญ  สวนศรี ภาพ / ข่าว  2009-12-20