รองนายก “กอร์ปศักดิ์” พร้อมคณะ ลงพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง ติดตามช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับสารพิษ จากท่าเทียบเรือบี 3 กำชับเจ้าหน้าที่ดูแลปัญหาตลอด 24 ชั่วโมง
ที่ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ได้เดินทางมาติดตามกรณีสารเคมีรั่วไหล เมื่อวันที่ 25 พ.ย. ที่ผ่านมา บริเวณท่าเทียบเรือบี 3 ท่าเรือแหลมฉบัง จนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก โดยมีนายเฉลิมเกียรติ สลักคำ ผู้อำนวยการการท่าเรือแหลมฉบัง ได้ให้การต้อนรับ พร้อมบรรยายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเวลานานกว่าครึ่งชั่วโมง นายเฉลิมเกียรติ ชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดสารเคมีรั่วไหลในวันนั้น ที่บริเวณท่าเทียบเรือบี 3 ในช่วงเวลา 15.00 น. หลังจากได้รับแจ้งก็เข้าไปดำเนินการควบคุมและสามารถควบคุมได้ในระดับหนึ่ง แต่ในเวลาต่อมาเกิดปัญหาขึ้นอีกจนไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ จึงต้องแจ้งให้ประชาชนบริเวณรอบข้างอพยพหนีภัยดังกล่าวในช่วงเวลา ตี 1 ระยะเวลาห่างจากสารเคมีรั่วไหล 10 ชั่วโมง ทำให้ชาวบ้านได้รับสารพิษจนเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากดังกล่าว “ในตอนแรก ทางการท่าเรือแหลมฉบังและหน่วยงานที่รับผิดชอบ คิดว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว แต่สารเคมีกลับมาปะทุขึ้นมาอีกครั้ง จนยากที่จะควบคุมได้ ทำให้เกิดปัญหาดังกล่าว” นายเฉลิมเกียรติ กล่าว ด้านนายกอร์ปศักดิ์ กล่าวถึง สาเหตุที่เดินทางมาในครั้งนี้ เพื่อมาช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากมีความกังวลชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว นอกจากนั้นมาดูแผนงานและมาตรการของการท่าเรือแหลมฉบัง เมื่อเกิดปัญหาขึ้นดำเนินการอย่างไร เพราะปัญหาเกิดขึ้นตั้งแต่ 3 โมงเย็น และมาแจ้งให้ชาวบ้านทราบหรือหนีในช่วงตี 1 โดยทิ้งระยะเวลานานถึง 10 ชั่วโมง ทำให้ชาวบ้านอพยพไม่ทันจนได้รับอันตรายจากสารเคมีดังกล่าวเป็นจำนวนมาก จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะเห็นได้ว่า ผู้ที่ประเมินสถานการณ์ว่าเหตุการณ์นี้จะไม่รุนแรง เกิดความผิดพลาด เพราะหากประเมินสถานการณ์ถูกต้อง ปัญหาคงไม่เป็นเช่นนี้ ดังนั้นควรจะต้องมาหามาตรการดังกล่าว ว่าใครเป็นผู้ที่สามารถประเมินสถานการณ์ได้ และหากประเมินสถานการณ์แล้วเกิดความผิดพลาด ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งเรื่องนี้จะต้องลงพูดคุยกันอีกครั้ง เพราะไม่เช่นนั้นปัญหาก็จะต้องกับประชาชนอีก นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ควรจะมีเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบ เฝ้าระวังพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง โดยหมุนเวียนเฝ้าระวังปัญหา ซึ่งไม่ทราบว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไร โดยให้เจ้าหน้าที่ของการท่าเรือแหลมฉบัง ,เจ้าหน้าที่ของท่าเทียบเรือเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประมาณ คน ผลัดเวรครั้งละ 8 ชั่วโมง ตรวจดูพื้นที่ตลอดเวลา เพื่อไม่ต้องการให้เกิดการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก แต่อย่างไรตนและคณะจะเดินทางมาลงอีกครั้งในช่วงปลายเดือนม.ค. 2553 นี้ เพื่อวางมาตรการที่เข้มงวดและเป็นรูปธรรมต่อไป ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ นายวิเชษฐ์ คำทอง ประชาชนชุมชนแหลมฉบัง ตัวแทนชาวบ้าน ได้เข้ายื่นหนังสือ กับนายกอร์ปศักดิ์ เพื่อขอความช่วยเหลือเยียวยาความเดือดร้อนของชาวชุมชน ประกอบด้วย 1. ให้ติดตั้งสัญญาณเตือนภัยระหว่างท่าเรือกับชุมชน 2. สร้างสถานีอนามัยที่มีลักษณะพิเศษเอื้อต่อการดูแลสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ 3. ดำเนินการจัดทำสำมโนประชาชกรของประชาชนในพื้นที่ และดำเนินการเร่งสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานให้เข้าถึงประชาชนในพื้นที่อย่างสมบูรณ์ (ทะเบียนบ้าน,ไฟฟ้า,ประปา) และ 4.แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเรื่องที่ดินของชาวชุมชนด้วยการจัดสรรที่ดินให้ถูกต้อง หรือออกโฉนดชุมชนให้กับชาวบ้าน เพราะชาวบ้านอยู่อาศัยบริเวณดังกล่าวมาเกิน 100 ปีแล้ว ซึ่งทางนายกอร์ปศักดิ์ รับหนังสือดังกล่าวและพร้อมจะลงมาให้การช่วยเหลือในครั้งนี้ 2009-12-21 |