|
2 ทหารเรือกินเหล้าฉลองช่วงปีใหม่ซิ่งเก๋งข้ามเกาะกลางถนนตีลังกาล้อชี้ฟ้าอัดเสาปูนดับอนาถ 
จ่าเอกลูกทัพเรือ พาพลทหารเดินสายเที่ยวดื่มฉลองส่งท้ายปีเก่า เมาจนขาดสติ ซิ่งเก๋งเหิรข้ามเกาะกลางถนน ก่อนพลิกคว่ำตีลังกาหลายตลบพุ่งชนอัดเสาไฟฟ้าอย่างจัง พลทหารทนพิษบาดแผลไม่ไหวดับอนาถ ส่วนจ่าคนขับ ไม่ได้รับบาดเจ็บรอดตายหวุดหวิด เจอตั้งข้อหา ขับรถโดยประมาท ขณะมึนเมา ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เมื่อเวลา 04.30 น. ของวันที่ 31 ธ.ค.52 ร.ต.ท. ปิติชน เทิดเกียรติกุล พนักงานสอบสวน สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งพุ่งชนเสาปูนป้ายประชาสัมพันธ์ข้างถนนบริเวณแยกสัตหีบ หลักกิโลเมตรที่ 175 ถนนสุขุมวิท ม. 2 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายรายหลังรับแจ้งจึงได้เดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค 3 ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน ธฉ-617 กทม อยู่ในสภาพหงายท้องล้อชี้ฟอัดก๊อปปี้ติดคาอยู่กับเสาไฟฟ้า ซึ่งพลเมืองดีได้ช่วยเหลือนำร่างผู้ได้รับบาดเจ็บออกมาจากตัวรถ ทราบชื่อ พลทหารศราวุธ จำปาศักดิ์ อายุ 24 ปี สังกัดเรือหลวงแรด กองทัพเรือ ในสภาพ แขนซ้ายหัก มีเลือดไหลออกจากปากและหูใกล้กันนั้นพบ จ่าเอกชลัช แย้มทรัพย์ อายุ 24 ปี สังกัดเรือหลวงแรด กองทัพเรือ ในสภาพมีอาการมึนเมาและตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยได้รับบาดเจ็บเพียงถลอกตามร่างกาย ก่อนเจ้าหน้าที่กู้ภัยจะนำทั้งคู่ ส่งรักษาตัวยังโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ก่อนที่พลทหารศราวุธ จำปาศักดิ์ อายุ 24 ปี จะทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา จากการสอบสวน จ่าเอกชลัช แย้มทรัพย์ อายุ 24 ปี ผู้ขับขี่รถยนต์เก๋งคันดังกล่าวในสภาพมึนเมาทราบว่าตนได้พาลูกน้องซึ่งเป็นพลทหารที่ทำงานไปกินเหล้าฉลองช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ที่ผับแห่งหนึ่งในพื้นที่สัตหีบหลังจากที่ดื่มกันจนมีอาการมึนเมาทั้งคู่ ได้พากันกลับเข้าที่พักในท่าเรือแหลมเทียน ขณะที่รถวิ่งมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางแยก ได้เกิดหลับในทำให้รถเสียหลักพุ่งเหิรข้ามเกาะกลางถนน และล่องละบายน้ำซึ่งมีความกว้างประมาณ 10 เมตร ก่อนจะพลิกคว่ำตีลังกาหลายตลบพุ่งอัดชนกับเสาไฟฟ้าดังกล่าว ร.ต.ท. ปิติชน เทิดเกียรติกุล ร้อยเวรสอบสวน สภ.สัตหีบ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ตั้งข้อหากับ จ่าเอกชลัช ในข้อหา ขับรถโดยประมาท ขณะมึนเมา เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และทำให้ทรัพย์สินของทางราชการเสียหาย ทั้งนี้ได้รอเรียกตัวมาทำการสอบสวน พร้อมดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป นิราช ทิพย์ศรี ภาพ / ข่าว 2010-01-01 
|
