พี่น้องเมาซิ่งส่ายปาดหน้าโดนยิงสาหัส |
|
สองพี่น้องเมาซิ่งจยย.ส่ายทั่วถนน ปาดหน้า 2 ชายฉกรรจ์เจอชัก 9 มม. ยิงสวนนกเขาหวิดกระจุย
สองพี่น้องเมาจนขาดสติ ซิ่งจยย.ส่ายทั่วถนน ปาดหน้าจยย. 2 ชายฉกรรจ์ ถึงขนาดต้องเบรกชนิดเกือบชนท้าย ฉุนตามประกบกระหน่ำยิง 5 นัด สองพี่น้องล้มกลิ้งกลางถนน คนพี่ถูกกระสุนกลางหลังและแขน รวม 2 นัด คนน้องกระสุนเฉี่ยวปลายอวัยวะเพศหวิดกระจุย เรื่องนี้ได้ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 04.00 น.ของวันที่ 3 ม.ค.53 ร.ต.อ.บัณฑิต เตชะวงศ์ พนักงานสอบสวน สภ.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเกิดเหตุมีผู้ถูกอาวุธปืนยิงได้รับบาดเจ็บ จำนวน 2 ราย อยู่บนถนนสุขุมวิท กลางทางแยกหน้าโรงเรียนธัมมสิริศึกษา ม.3 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ หลังรับแจ้งได้รุดไปตรวจสอบ ในที่เกิดเหตุพบ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ กำลังทำการปฐมพยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 ราย คือ นายวิชัย เจือจันทร์ อายุ 37 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกอาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงเข้าที่แขนซ้าย 1 นัด กระสุนฝังใน และกลางหลัง 1 นัด กระสุนทะลุออกเอวด้านซ้าย ส่วนอีกรายคือ นายบัญญัติ เจือจันทร์ อายุ 26 ปี ถูกอาวุธปืนชนิดเดียวกัน ยิงเข้าที่บริเวณปลายอวัยวะเพศขาดแหว่ง ซึ่งทั้งสองรายเป็นพี่น้องกัน มีอาชีพก่อสร้างอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในตลาดบ้านเตาถ่าน เบื้องต้น ผู้ได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งรักษาต่อ ยังห้องฉุกเฉิน รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบปลอกระสุนขนาด 9 มม. จำนวน 1 นัด และแม็กกาซีน มีกระสุนค้างอยู่ในซองจำนวน 3 นัด ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้จอดรถติดสัญญาณไฟแดงอยู่บริเวณสี่แยกไฟแดงบ้านเตาถ่าน ขณะนั้นได้เห็น นายบัญญัติ นั่งซ้อนท้ายรถจยย.ของ นายวิชัย เลี้ยวออกมาจากทางบ่อสอง มุ่งหน้าเข้าตลาดสัตหีบ ด้วยความเร็ว และส่ายไปส่ายมาทั่วถนน คาดว่าอยู่ในอาการมึนเมา ก่อนจะตัดหน้ารถจยย.ยามาฮ่า มีโอ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ที่มีชายฉกรรจ์ จำนวน 2 คน สวมหมวกกันน็อคเต็มใบทั้งคู่ขับขี่มา ทำให้ถึงกับต้องเบรกชนิดเกือบชนท้ายกัน จากนั้น คนซ้อนท้ายรถจยย. ยามาฮ่า มีโอ ได้ชักอาวุธปืนกระหน่ำยิงจำนวน 3 นัด ซึ่งนายวิชัย พยายามขี่หนี แต่ไม่พ้นโดนไล่ติดตามมายิงอีก 2 นัด จนล้มกลิ้งกลางถนน ก่อนที่คนร้ายจะเลี้ยวรถกลับหนีหายลอยนวลไปทางตลาดบ้านเตาถ่าน นิราช ทิพย์ศรี ภาพ / ข่าว 2010-01-03 |