สาวรุ่นใหญ่น้ำตาร่วงหลังต้องเสียบุตรสาวสุดที่รัก ชี้โรงพยาบาลรัฐไม่เหลียวแลปล่อยทิ้งไว้กับพยาบาลทำคลอดลำพังจนเป็นเหตุให้บุตรเสียชีวิต โดย รพ.ไม่ยอมให้ข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้น

      แต่ปรากฏว่าในช่วงกลางดึกของคืนที่ผ่านมารู้สึกปวดท้องอย่างรุนแรง จึงให้สามีพามาส่งที่โรงพยาบาล ซึ่งเมื่อมาถึงโรงพยาบาล พบพยาบาลได้แจ้งให้ทราบว่ามีอาการน้ำเดินและปากมดลูกเปิดแล้ว จึงพาตัวเข้าห้องคลอดเพื่อเตรียมตัวคลอด จากนั้นทางโรงพยาบาลก็ให้น้ำเกลือและยาเร่งคลอด ก่อนจะมีพยาบาล  5 คนมาช่วยกันดูแล ซึ่งช่วงนั้นไม่มีแพทย์รวมอยู่ด้วย โดยพยาบาลได้พยายามทำคลอดให้ โดยสั่งให้เบ่งก็ได้ทำตาม แต่เมื่อเวลาผ่านไปกว่า 1 ชม.เด็กก็ยังไม่ออก ขณะนั้นพยาบาลได้แจ้งให้ทราบว่าเด็กมีปัญหา เนื่องจากมีสายรกมาพันอยู่อาจทำให้เด็กขาดอากาศหายใจและเสียชีวิตได้จึงพยายามกระตุ้นให้เบ่งอย่างต่อเนื่องแต่สถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้น

     นางสีออน เล่าต่อว่า ถึงช่วงนี้ปรากฏว่ามีผู้ป่วยอีกรายหนึ่งที่กำลังจะคลอด พยาบาลทั้งหมดจึงได้ ไปดูแลผู้ป่วยคนดังกล่าว ทิ้งไว้เพียงพนักงานฝึกงานอยู่โดยลำพัง 1 คน ทั้งๆที่ตนเองมีปัญหาเกี่ยวกับตัวเด็ก จนเวลาผ่านเลยไปอีกกว่า 1 ชม.  ได้เกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรง และเด็กได้โผล่ศีรษะออกมา โดยมีสายสะดือพันหัวออกมาด้วย  พยาบาลได้ย้อนกลับมาช่วยและนำเด็กออกมาได้ พร้อมนำออกจากห้องไปแต่เมื่อกลับมาอีกครั้งได้แจ้งให้ทราบว่าเด็กเป็นเพศหญิงหน้าตาน่ารักแต่เด็กไม่หายใจและเสียชีวิตแล้ว

     จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากประคบประหงมลูกมานานหลายเดือน และหากทางโรงพยาบาลเห็นว่าท้องมีปัญหาและใส่ใจมากกว่านี้บุตรสาวก็คงจะไม่ตาย โดยก่อนคลอดทางโรงพยาบาลได้แจ้งว่าไม่สามารถใช้บัตรทองในการคลอดบุตรได้ เนื่องจากมีบุตรมาแล้ว 2 คน แต่เมื่อเกิดปัญหาได้มาแจ้งให้ทราบว่า จะไม่เก็บค่าใช้จ่ายใดๆ พร้อมกับจะดูแลนำศพบุตรสาวไปทำพิธีผ่านทางมูลนิธิฯ ให้  ซึ่งเรื่องนี้คงจะต้องปรึกษาครอบครัวและนำเรื่องไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นจะดูว่าทางโรงพยาบาลจะให้ความช่วยเหลืออย่างไรต่อไป  และเมื่อเวลา 18.10 น.ของวันนี้ (26 ม.ค.53)  ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อเพื่อขอทราบข้อมูลทางโทรศัพท์กับโรงพยาบาลที่หมายเลข 038-411552 และโอนสายไปที่ห้องคลอด ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้น

     และในช่วงเย็นของวันนี้ (26 ม.ค.53)  นายสุทิน จันทร์ติยะ อายุ 34 ปี สามีของนางสีออน พ่อของเด็ก ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อแจ้งความบันทึกเหตุการณ์ไว้เป็นหลักฐาน โดยนายสุทิน เปิดเผยว่ารู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องเสียบุตรสาวไป เนื่องจากรอคอยมานานหลายเดือน ส่วนสาเหตุนั้นจากการรับฟังจากภรรยารู้สึกว่าทางโรงพยาบาลทำไม่ถูกต้อง ทั้งๆที่รู้อยู่ว่าท้องมีปัญหาแต่กลับไม่มาใส่ใจดูแลปล่อยให้ภรรยาช่วยเหลือตัวเองจนผลสุดท้ายเด็กต้องมาเสียชีวิต จึงได้มาแจ้งความบันทึกไว้เป็นหลักฐานก่อนเป็นการเบื้องต้น และในวันพรุ่งนี้ (27 ม.ค.53) ทางโรงพยาบาลได้นัดเข้าไปไกล่เกลี่ยเจรจา ซึ่งหากไม่ยอมรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็จะร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย โดยคงจะให้นำศพเด็กไปตรวจพิสูจน์ถึงสาเหตุที่เสียชีวิตว่าเกิดจากความผิดพลาดของผู้ใด จากนั้นก็คงจะรอดูผลต่อไป

     นายสุทิน กล่าวต่อไปว่าที่ทำเช่นนี้ไม่ได้ต้องการทรัพย์สินเงินทอง เพียงแต่เสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และอยากให้โรงพยาบาลของรัฐมีมาตรฐานในการรักษาที่มากกว่านี้ ไม่ใช่ไม่ใส่ใจปล่อยปละละเลยจนเกิดเหตุร้ายขึ้น ซึ่งแม้ตนเองจะเป็นคนจนแต่ชีวิตหนึ่งก็ถือว่ามีคุณค่าเช่นกัน

นิราช  ทิพย์ศรี  ภาพ / ข่าว  2010-01-27