เปิดการฝึกร่วมผสมคอบร้าโกลด์ 2010 |
|
ไทย-อเมริกัน เปิดการฝึกร่วมผสมคอบร้าโกลด์ 2010 ท่ามกลางประเทศเข้าร่วมสังเกตการณ์กว่า 20 ประเทศ
ในวันนี้ (1 ก.พ.53 ) ที่สนามบินอู่ตะเภา กองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง พลเรือเอก วัลลภ เกิดผล รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ร่วมกับ นาย อีริค จี. จอห์น เอกอัคราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกร่วมผสมคอบร้าโกลด์ 2010 ครั้งที่ 29 โดยมี กำลังพลจากกองทัพไทย สหรัฐ อเมริกา และมิตรประเทศกว่า 20 ประเทศเข้าร่วมพิธีเปิดในวันนี้เป็นจำนวนมาก พลเรือเอก วัลลภ เกิดผล รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวว่า การฝึกร่วมผสมคอบร้าโกลด์ มีวัตถุประสงค์เพื่อ ดำรงความพร้อมรบ และขีดความสามารถทางทหารของกองทัพไทย ในการปฏิบัติ การร่วมกับกองทัพพันธมิตร การฝึกครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 29 ระหว่างวันที่ 1-11 ก.พ.53 มีประเทศเข้าร่วมการฝึกรวม 6 ประเทศ มีกำลังพลเข้าร่วมการฝึกกว่า 14,000 นาย นอกจากนี้แล้วยังมีมิตรประเทศต่างๆ จัดกำลังพลเข้าร่วมการฝึก ณ ปัญหาที่บังคับการ พร้อมส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมสังเกตการณ์ฝึกกว่า 20 ประเทศ โดยการฝึกร่วมผสมคอบร้าโกลด์ 2010 ในครั้งนี้ จะมีความแตกต่างจากการฝึกร่วมผสมคอบร้าโกลด์ทุกปีที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นปีแรกที่กองทัพ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และเกาหลีใต้ ได้จัดกำลังพลขนาดเล็กเข้าร่วมการฝึกปฏิบัติการ เพื่อสันติภาพ และฝึกการอพยพพลเรือนด้วย จึงนับเป็นก้าวสำคัญที่จะพัฒนาการฝึกไปสู่การฝึกในหลายๆ ชาติร่วมกันได้ต่อไปในอนาคตอันใกล้นี้ และพิธีเปิดในวันนี้ กองกำลังสหรัฐยังได้นำวิวัฒนาการด้านอาวุธยุทโธปกรณ์สมัยใหม่ อาทิ ปืนเรเซอร์ การตรวจค้นวัสดุแปลกปลอม และยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยระบบรีโมทคอนโทรลมาสาธิตให้ได้ชมอีกด้วย ด้าน พลโท เบญจามีน มิกสัน ผู้บัญชาการ กองกำลังทางบกสหรัฐอเมริกา ภาคพื้นแปซิฟิค ในฐานะรองผู้บัญชาการกองกำลังเฉพาะกิจร่วม/ผสมการฝึกคอบร้าโกลด์ 2010 กล่าวว่า หลายคนคิดว่าการฝึกร่วมผสมไทย-สหรัฐ ในคอบร้าโกลด์ นี้เป็นการแทรกทางทหารของสหรัฐอเมริกานั้น ไม่เป็นความจริง เป็นการฝึกร่วมกันในการแก้ไขปัญหาวิกฤติต่างๆ ของโลกในการร่วมมือกันให้ความช่วย เหลือมิตรประเทศในด้านต่างๆ ทั้งด้านการก่อการร้ายสากล ตลอดจนความร่วมมือในการให้ความช่วยเหลือมิตรประเทศที่ประสบภัยพิบัติขนาดใหญ่ต่างๆ เช่นล่าสุด อุทกภัยที่ประเทศฟิลิปปินส์ และแผ่นดินไหวที่ประเทศเฮติ เป็นต้น นอกจากนี้แล้วการฝึกที่มีหลายประเทศมาเข้าร่วมการฝึกเพิ่มมากขึ้น นับเป็นสี่งที่ดีในการก่อให้เกิดความสมานฉันท์ในภาคพื้นแปซิฟิคอีกด้วย นิราช ทิพย์ศรี ภาพ / ข่าว 2010-02-02 |