ลงนามข้อตกลงร่วมบรรเทาสาธารณภัย |
|
จังหวัดชลบุรี จัดพิธีบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ระหว่างผู้อำนวยการจังหวัดและผู้บังคับบัญชาของทหารในพื้นที่
วันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พลเรือโทฆนัท ทองพูล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่1 และพลตรีวินัย สร้างสุขดี ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 14 ได้ร่วมกันลงนามในบันทึกความตกลงว่าด้วยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ณ ห้องประชุมพระพิพิธโภไคย ศาลากลางจังหวัดชลบุรี ด้วยพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 มาตรา 46 กำหนดเรื่องการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยภายในเขตทหาร หรือที่เกี่ยวกับกิจการ เจ้าหน้าที่ หรือทรัพย์สินในราชการทหารให้ทำเป็นบันทึกข้อตกลงร่วมกันระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะผู้อำนวยการจังหวัดกับผู้บังคับบัญชาของทหารในเขตพื้นที่ โดยทั้งสองหน่วยงานจะประสานความร่วมมือในการดำเนินการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อลดความสูญเสียที่จะเกิดแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนภายในเขตจังหวัดนั้นๆ และในวันนี้ นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ในฐานะผู้อำนวยการจังหวัด ตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 ร่วมกับพลเรือโทฆนัท ทองพูล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 1 และพลตรีวินัย สร้างสุขดี ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 14 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่14 ได้ร่วมบงนามในบันทึกความตกลงว่าด้วยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยทั้งสามหน่วยงานจะร่วมประสานความร่วมมือกันในการดำเนินงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนภายในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ทั้งนี้ เมื่อเกิดหรือคาดว่าจะเกิดสาธารณภัยขึ้นในเขตจังหวัด และมีความจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจากฝ่ายทหาร เช่น กำลังพล วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือสื่อสาร หรือสิ่งอื่นใดที่อยู่ในการควบคุมดูแลขอทหาร ให้จังหวัดแจ้งขอความช่วยเหลือจากฝ่ายทหารในเขตพื้นที่นั้น และหากเมื่อเกิดหรือคาดว่าจะเกิดสาธารณภัยในเขตพื้นที่ทหาร และจำเป็นต้องประสานความช่วยเหลือในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจากจังหวัด ให้ผู้บังคับบัญชาของทหารในเขตพื้นที่แจ้งของความช่วยเหลือจากผู้อำนวยการจังหวัดเพื่อเข้าไปดำเนินการในพื้นที่การควบคุมดูแลของทหารได้ รวมทั้งในกรณีเร่งด่วนหรือจะดัดแปลง ทำลาย หรือเคลื่อนย้ายสิ่งก่อสร้าง ที่จะเป็นอุปสรรคแก่การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือจำเป็นต้องมีการสั่งอพยพผู้ประสบภัย จะต้องได้รับความเห็นขอบจากผู้บังคับบัญชาของทหารในพื้นที่ก่อน นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า เนื่องจากจังหวัดชลบุรีมีพื้นที่กว้างขวางและมิใช่จะมีเฉพาะพื้นที่ทางบกเท่านั้น แต่จะมีพื้นที่ทางทะเลด้วย การทำบันทึกความตกบงครั้งนี้ จังหวัดได้ร่วมทำบันทึกข้อตกลงกับผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่1 ซึ่งจะช่วยรับผิดของสนับสนุนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ทางทะเลและพื้นที่ต่อเนื่อง การทำความตกลงว่าด้วยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยร่วมกับฝ่ายทหารนี้ เป็นไปตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 ซึ่งได้กำหนดเรื่องการบูรณาการและประสานการปฏิบัติงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นภายในเขตพื้นที่ของทหารหรือที่เกี่ยวกับกิจการทหาร โดยทุกจังหวัดต้องทำบันทึกความตกลงนี้กับฝ่านทหารในพื้นที่เช่นกัน อย่างไรก็ตาม จังหวัดมีความเชื่อมั่นและมั่นใจว่า เมื่อคราวใดที่เกิดหรือคาดว่าจะเกิดสาธารณภัยใหญ่ๆ จังหวัดจะร่วมกับฝ่ายทหารและทุกหน่วยงานปฏิบัติงานด้วยความรวดเร็ว ทั่วถึง และมีประสิทธิภาพ ในการป้องกันและดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนชาวชลบุรีอย่างแน่นอน 2010-02-04 |