เจ้าของช้างโวยการไฟฟ้าเลี่ยงอาญาขอจ่าย  1  แสนบาท พิสูจน์ซ้ำชี้ชัดไฟฟ้ารั่วช๊อตช้างล้มตาย

     การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอ้างเพื่อมนุษยธรรมเลี่ยงอาญาติดต่อขอจ่าย 1 แสน ปิดแฟ้มไฟฟ้ารั่วลงดินช๊อต พังแสงจันทร์ ล้มตาย เจ้าของช้างไม่หยุดนิ่งขอความร่วมมือภาคเอกชน ร่วมตำรวจขอพิสูจน์ซ้ำชี้ชัดสาเหตุช้างล้มตายเพราะไฟฟ้ารั่วแรงกว่า 150 โวลล์ รวบรวมหลักฐานฟ้องเรียกค่าเสียหายการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเขตนาจอมเทียน ปล่อยไฟรั่วนานนับปี

     จากกรณีที่ นางพรรณ ยุยรัมย์ อายุ 38 ปี เจ้าของช้าง นายอวย ยุยรัมย์ อายุ 61 ปี ควาญช้าง เข้าแจ้งความร้องทุกข์และเนินคดีกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเขตนาจอมเทียน ต่อ ร.ต.ท.อานนท์ อินทร์ฟอง พนักงานสอบสวน สภ.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2553 ว่าพังแสงจันทร์ อายุ 50 ปี  ช้างทัวร์ รับจ้างรับนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศชมทัศนียภาพ ประจำแค้มป์ช้างเนินนาจอมเทียน ถูกไฟฟ้าช๊อตล้มตายทันทีเมื่อเดินเข้าไปเหยียบแท่งกาล์วใกล้กับเสาไฟฟ้าแรงสูง และแรงต่ำขณะฝนตกและมีน้ำท่วมขังอยู่บริเวณดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าปฎิเสธว่าสาเหตุที่ช้างล้มตายไม่เกี่ยวกับกระแสไฟฟ้ารั่วแต่อย่างใด และในเบื้องต้นได้วัดกระแสไฟฟ้าแล้วปกติไม่มีไฟฟ้ารั่ว

     ความคืบหน้าในเรื่องนี้(21 กุมภาพันธ์ 2553) นางพรรณ ยุยรัมย์ กล่าวว่า เจ้าของช้าง ควาญช้างในแค้มป์ช้างอีกหลายสิบเชือก ไม่มั่นใจในความยุติธรรมของการตรวจสอบของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจึงได้ขอความร่วมมือจาก นายพีระพัฒน์ ลิ่มบุญพา อายุ 24 ปี วิศวกรไฟฟ้า บริษัทชื่อดังบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าแรงสูง เขตบางศรีเมือง จ.นนทบุรี และทีมงาน มาตรวจสอบปรากฎว่าพบกระแสไฟฟ้ารั่วจากเสาไฟฟ้าแรงต่ำ พื้นดิน และแท่งกาล์ว มากกว่า 150 โวลล์ จึงได้นำหลอดไฟฟ้า 2 หลอด และพัดลมตั้งโต๊ะ 1 ตัว มาทดลองปรากฏว่าไฟฟ้าและพัดลมทำงาน เมื่อเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าทราบเรื่องว่าสื่อมวลชนเก็บหลักฐานไปเสนอข่าว ทำให้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าติดต่อมาเพื่อขอช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรม จำนวนเงิน 1 แสนบาท ไม่ใช่การชดใช้ค่าเสียหายเรื่องไฟฟ้าช็อตช้างล้มตาย แต่ต้องสัญญาว่าจะไม่ดำเนินคดีกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งตนไม่ยอมรับข้อเสนอเพราะช้างราคาเชือกละ 7 แสนบาท ต้องฟ้องร้องดำเนินคดีหาผู้ชดใช้ค่าเสียหายให้ได้

     นายเอกชัย กาญจนภัทรกุล ผู้จัดการทั่วไป แคมป์ช้าง กล่าวว่าหลังจากเกิดเหตุได้พา เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขตนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ เข้ามาทำการตรวจสอบ และสำรวจกระแสไฟฟ้าทุกต้นในบริเวณนี้ ซึ่งทางการไฟฟ้าได้มีหนังสือแจ้งมาว่าให้ล้อมรั้วกั้นรอบบริเวณที่เกิดเหตุเพื่อป้องกันอันตรายแต่ไม่ได้ล้อมเพราะเกรงนักท่องเที่ยวต่างชาติหวาดกลัว ซึ่งความจริงแล้วต้องซ่อมไม่ให้มีไฟฟ้ารั่วออกมาอีก และขณะนี้หน่วยงานกลางพิสูจน์และยืนยันแล้วว่าช้างล้มตายเพราะไฟฟ้ารั่วจริง จะต้องประสานกับการไฟฟ้าให้มาจัดการกับเสาไฟฟ้า หม้อแปลงที่ยังมีจุดบกพร่องอีกหลายจุดมีไฟฟ้ารั่วได้ ส่วนการฟ้องร้องค่าเสียหายต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าของช้างกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ส่วนแค้มป์ช้างก็ยังจ่ายเงินเดือนให้กับนางพรรณ จนกว่าจะเสร็จเรื่องทั้งหมด

นิราช ทิพย์ศรี ภาพ / ข่าว  2010-02-22