พ่อค้ายาบ้ายิงตำรวจตาย 1 เจ็บ 1 ก่อนไปยิงชาวบ้านบาดเจ็บชิงรถจักรยานยนต์หลบหนี

      พ่อค้ายาบ้าอุกอาจเย้ยกฎหมาย ยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจขณะเข้าทำการจับกุมตาย 1 บาดเจ็บสาหัส 1 ก่อนหลบหนีไปยิงชาวบ้านบาดเจ็บอีกราย เพื่อชิงรถจักรยานยนต์หลบหนีไปอย่างลอยนวล
 
      เมื่อเวลา 10.00 น. (4 มี.ค.53) ได้เกิดเหตุยิงกันเกิดขึ้นกลางถนนสุขุมวิท ฝั่งขาเข้าพัทยา หน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านแหลมฉบัง หมู่ที่ 10  ต.ทุ่งศุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซุซุ สีน้ำเงิน ทะเบียน บห-8641 ชลบุรี ซึ่งเป็นรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจจอดปาดหน้า รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบลอนทอง ทะเบียน ส ฉ-7692 กทม.  และรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีบรอนทอง ทะเบียน ศร 7957 กรุงเทพมหานครจอดชนท้ายกระบะโตโยต้าอยู่กลางถนน  โดยที่ข้างรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซุซุ สีน้ำเงิน ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีร่างของ  ด.ต.ทินกร จันทรา อายุ 38 ปี ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.แหลมฉบัง จ.ชลบุรี ถูกอาวุธปืนยิงเข้าตามร่างกายนอนฟุบอยู่ และ ด.ต.วัชรพล พิมพ์จันทร์ ผบ.หมู่ งานสืบสวน สภ.แหลมฉบัง จ.ชลบุรี ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่บริเวณตามลำตัวเช่นกัน โดยมี ด.ต.เสกสรรค์ ธรรมนิติเวช ผบ.หมู่ งานสืบสวน สภ.แหลมฉบัง ซึ่งเป็นคนขับรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซุซุ สีน้ำเงิน และไม่ถูกคนร้ายยิง ได้พยายามนำร่างของตำรวจที่ถูกยิงส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน ตรวจสอบพบยาบ้าจำนวน 4,000 เม็ดซุกอยู่ใต้ที่นั่งคนขับรถด้วย

      สำหรับ สภาพรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบลอนทอง ทะเบียน ส ฉ-7692 กทม.  ของคนร้าย กระจกด้านข้างฝั่งซ้ายรถมีร่องรอยกระสุนเจาะจำนวน 3 นัด  และที่ด้านท้ายกระบะมีรอยกระสุนจำนวน 2 นัด ส่วนคนร้ายหลังยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ ได้ทิ้งรถวิ่งหลบหนีไปตามถนนสุขุมวิท และเป็นจังหวะที่ นายสนอง ทมจังหรีด อายุ 43 ปี พนักงานโรงงานในย่านนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวป สีดำ ทะเบียน ฉงท-350 ชลบุรี จอดติดไฟแดงอยู่กลางถนน ได้ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนจ่อยิง 2 นัดจนรถจยย.ล้มลงและได้ชิงรถจยย.หลบหนี เข้าไปทางถนนสุขุมวิทฝั่งขาเข้าศรีราชา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 100 นาย สกัดจับตามพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อจับกุมตัว และในเวลาต่อมาได้รับรายงานว่า ด.ต.ทินกร จันทรา อายุ 38 ปี ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.แหลมฉบัง จ.ชลบุรี ทนพิษบาดแผลไม่ไหวและได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วน ด.ต.วัชรพล พิมพ์จันทร์ ผบ.หมู่ งานสืบสวน สภ.แหลมฉบัง จ.ชลบุรี ยังอาการสาหัส ส่วนนายสนอง ทมจังหรีด ถูกยิงเข้าที่หัวไหล่ซ้าย อาการปลอดภัยแล้ว

      ก่อนเกิดเหตุทราบว่า ตำรวจทั้ง 3 นาย โดยมี ร.ต.ท.ปริญญา เอี่ยมกมล รอง สว.สส.สภ.แหลมฉบัง เป็นหัวหน้าชุด ได้วางแผนล่อซื้อยาบ้าจำนวน 4,000 เม็ด โดยให้คนร้ายมาส่งให้สายตำรวจที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าดังกล่าว หลังจากที่คนร้ายขับรถรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบลอนทอง ทะเบียน ส ฉ-7692 กทม.  มาจอด ปรากฏตัวตามที่สายรายงาน  ด.ต.เสกสรรค์ ธรรมนิติเวช จึงได้ขับรถแซงหน้าและขับปาดหน้าเพื่อไม่ให้คนร้ายหลบหนี จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกชุดได้ขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีบรอนทอง ทะเบียน ศร 7957 กรุงเทพมหานคร จอดดักท้าย และเป็นจังหวะที่  ด.ต.ทินกร จันทรา และ ด.ต.วัชรพล พิมพ์จันทร์ ได้กระโดดลงจากรถแสดงตัวเพื่อจู่โจมเข้าจับกุมคนร้าย แต่คนร้ายที่นั่งมาในรถไหวตัวทันและชักอาวุธปืนยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่ทันที โดยยิงออกมาจากในรถทะลุกระจกด้านข้างคนขับ ทำให้ ด.ต.ทินกร จันทรา และ ด.ต.วัชรพล พิมพ์จันทร์ ไม่ทันได้ระวังตัว จึงถูกกระสุนปืนของคนร้ายเข้าตามร่างกาย ล้มฟุบจมกองเลือดทันที แล้วรีบเปิดประตูรถวิ่งหลบหนีข้ามฝั่งถนนสุขุมวิทไป โดยมี ด.ต.เสกสรรค์ ธรรมนิติเวช  และ ร.ต.ท.ปริญญา เอี่ยมกมล  ไล่ตามคนร้ายไป และได้ยิงต่อสู้กับคนร้ายอย่างดุเดือดกลางถนน โดยคนร้ายได้วิ่งหลบหนีไปถึงสี่แยกท่าเรือแหลมฉบัง ก่อนไปพบ นายสนอง ทมจังหรีด ที่ขี่รถจักรยานยนต์ติดไฟแดงอยู่ จึงใช้อาวุธปืนจี้นายสนอง เพื่อชิงรถจักรยานยนต์ แต่นายสนองนึกว่าเป็นปืนปลอม จึงต่อสู้ขัดขืน จึงทำให้คนร้ายยิงใส่นายสนองจำนวน 3 นัด แต่กระสุนเจาะ เข้าที่ไหล่ขวาเพียงนัดเดียว แล้วคนร้ายจึงได้ชิงรถจักรยานยนต์หลบหนีไปตามถนนสุขุมวิท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงกระจายกำลังไล่ล่าสกัดจับคนร้ายต่อไป

      หลังจากเกิดเหตุ พล.ต.ต.นิวัฒน์ รัตนาธรรมวัฒน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร ภาค 2 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธเนศร์ พิณเมืองงาม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ได้เดินทางมาดูจุดที่เกิดเหตุและกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “ในปัจจุบันนี้คนร้ายในคดียาเสพติด ส่วนมากมีอาวุธ ทั้งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเราใช้ความระมัดระวังกันอยู่แล้ว ทั้งยังอยู่ในที่ชุมชน กลางวันแสก ๆ เมื่อถึงคราวจวนตัว คนร้ายสามารถกล้าทำอะไรได้ทุกอย่าง สำหรับคนร้ายรายนี้ก็ขอให้มอบตัวโดยเร็ว มิเช่นนั้นอาจจะต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด เพราะพฤติกรรมของคนร้ายกล้ายิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการจับกุมตัวก็คงต้องยิงต่อสู้ตำรวจอีก จึงจะต้องดำเนินการไปตามกระบวนการของกฎหมาย ในตอนนี้ก็ทราบรูปพรรณสัณฐานของคนร้าย โดยมีพยานที่เห็นเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก ก็จะรีบนำตัวมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด”

2010-03-04