สุดสลด ชุดปปส. รวบแม่ย่าวัย 80 ปี จำหน่ายยาบ้าเลี้ยงชีพ วาระสุดท้ายต้องตายในเรือนจำ
ชุดปฎิบัติการพิเศษ ศูนย์ต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดฐานทัพเรือสัตหีบ และที่ว่าการอำเภอสัตหีบ วางแผนล่อซื้อยาบ้าในชุมชนแออัดซอยธรรมวิทยา สุดสลดเจอแม่ย่าวัย 80 ปี พร้อมของกลางธนบัตร และยาบ้า รวบพร้อมลูกสาว และผู้ซื้อเสพ รับสารภาพสิ้น ลูกสาวไม่เลี้ยงดูแต่ส่งยาบ้าให้ขายคืนทุน เงินผลกำไรเลี้ยงตัวเอง วันนี้ ( 8 มีนาคม 2553 ) นายชายชาญ เอี่ยมเจริญ นายอำเภอสัตหีบ นาวาเอก สุรนันท์ แสงรัตนกูล หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์ต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด ฐานทัพเรือสัตหีบ (หน.ชปพ.ศ.ตส.ฐท.สส.) นาวาโท ณัฎฐชัย วิจิตรพันธุ์ นายสุรเชษฐ์ แก้วคำ ปลัดอำเภอสัตหีบ พร้อมด้วยอาสาสมัครชุดป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ได้ร่วมกันวางแผนให้สายลับใช้ธนบัตรที่ลงบันทึกประจำวันไว้เข้าทำการล่อซื้อยาบ้าจาก นางแหวน ศรีสุข อายุ 80 ปี บ้านเลขที่ 34/39 หมู่ที่ 2 ซอยธรรมวิทยา ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จำนวน 3 เม็ด ราคา 740 บาท เมื่อสายลับให้สัญญาณว่าสามารถซื้อยาบ้าได้ เจ้าหน้าที่ซึ่งซุ่มโปร่งอยู่โดยรอบได้เข้าทำการควบคุมตัว และตรวจค้น พบธนบัตรที่สายลับใช้ในการล่อซื้อ พร้อมยาบ้าจำนวน 3 เม็ด จึงได้ตั้งข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำหน่าย และตรวจค้น นางสาวสมพิศ ศรีสุข อายุ 39 ปี พบยาบ้า จำนวน 6 เม็ด ตั้งข้อหามียาบ้าไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และทำการจับกุมตัว นางสาว น้ำฝน สร้อยสุวรรณ หรือเปรี้ยว อายุ 27 ปี ที่เข้ามาซื้อยาบ้าเพื่อเสพ จากการสอบสวน นางแหวน หรือแม่ย่าแหวน ซอยธรรมวิทยา ได้ให้การรับสารภาพว่า ได้ซื้อยาบ้ามาจาก นางสมพิศ ศรีสุข ลูกสาวในสายเลือดเม็ดละ 200 บาท มาขายให้ลูกค้าราคาเม็ดละ 250 บาท เมื่อขายหมดก็ต้องนำต้นทุนคืนลูกสาว ส่วนผลกำไรก็ต้องนำมาซื้ออาหาร จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ และใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ซึ่งลูกสาวได้รับยาบ้ามาจาก นายแฉะ หรือ นายสุรพล พุทธรักษา อายุ 52 ปี ในราคาเม็ดละ 160 บาทเป็นผู้มีอิทธิพลไม่มีใครกล้าแตะต้อง และไม่มีใครกล้าเป็นสายลับล่อซื้อยาบ้าเพราะกลัวถูกฆ่าตาย มีบ้านอยู่ในซอยธรรมวิทยา มีหมายจับจากสถานีตำรวจพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ ขณะนี้อยู่ในระหว่างหลบหนี แต่ก็ยังนำยาบ้าเข้ามาส่งให้ลูกค้าประจำ ขายในซอยธรรมวิทยา และพื้นที่สัตหีบโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย แถมเงินทุนหนาให้เครดิต ขายหมดแล้วถึงจะนำเงินต้นทุนส่งคืนให้พร้อมรับยาบ้าชุดใหม่มาจำหน่ายต่อไป นางแหวน เปิดเผยว่า ในอดีตเมื่อปี 2537 เคยต้องโทษคดีมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำ 11 ปี 4 วัน ยอมรับว่าชีวิตสุขสบาย มีหมอ มีคนคอยดูแลเพราะอายุมากที่สุดในเรือนจำ แต่พอออกมาใช้ชีวิตอยู่ในโลกภายนอกกับต้องพบกับความระทมทุกข์ ลูกทั้งหมด 17 คน และ หลาน ไม่มีใครดูแลเอาใจใส่ต้องเลี้ยงตัวเอง ดูแลตัวเอง จะซื้อยารักษาโรค ข้าว ก็ไม่มีเงิน จึงได้ตัดสินใจขอซื้อยาบ้าจากลูกสาวมาจำหน่ายให้ลูกค้า เพื่อหาผลกำไรมาซื้ออาหารหล่อเลี้ยงชีวิต ส่วนลูกสาวไปทำตลาดใหม่ที่พัทยาเพราะมี นายแฉะ เป็นนายทุนใหญ่ให้เครดิตก่อน พอถึงวันนี้ถูกจับอีกคงเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว นับต่อแต่นี้ไปก็คงรอวันตายอยู่ในเรือนจำอย่างแน่นอน นิราช ทิพย์ศรี ภาพ / ข่าว 2010-03-08 |