ไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องเรื่องเงินกู้การศึกษา |
|
ศาลแขวงชลบุรี จัดกิจกรรมไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องลูกหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ณ ห้องประชุมชั้น 5 ศาลแขวงชลบุรี จังหวัดชลบุรี โดยมีนางศิริพร เปรมาสวัสดิ์ สุรมณีผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงชลบุรี เป็นประธานเปิดโครงการ 
ศาลจังหวัดชลบุรีมีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนการนำระบบไกล่เกลี่ยและระงับข้อพิพาทมาปรับใช้ควบคู่ไปกับการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีของศาล เพื่อให้คู่ความได้เจรจาไกล่เกลี่ยและหาทางยุติข้อพิพาทร่วมกัน อันเป็นการเพิ่มทางเลือกในการระงับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นนอกจากการพิจารณาชี้ขาดคดีโดยผู้พิพากษา ทำให้คดีเสร็จสิ้นไปด้วยความรวดเร็ว สะดวกและเกิดความพึงพอใจกับคู่ความทุกฝ่ายมากที่สุด ทั้งนี้ ศาลแขวงชลบุรีได้เห็นว่าสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันเกิดปัญหาทางการเงินในสังคมมากขึ้น อันอาจเกิดการฟ้องร้องคดีของสถาบันการเงินต่อศาลเป็นจำนวนมาก ศาลแขวงชลบุรีได้จัดโครงการไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องขึ้น เพื่อให้คู่ความได้มีโอกาสเจรจาไกล่เกลี่ยและยุติข้อพิพาทที่เกิดขึ้นโดยไม่ต้องนำคดีมาฟ้องต่อศาล นายคมกริช พัฒระพิทักษ์ ผู้พิพากษาศาลแขวงชลบุรี กล่าวว่า สืบเนื่องจากที่ศาลยุติธรรมได้มีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนระบบการไกล่เกลี่ยและระงับข้อพิพาททั้งก่อนและหลังฟ้องคดีต่อศาล ศาลแขวงชลบุรีได้จัดโครงการไกล่เกลี่ยก่อนฟ้อง ขึ้นเพื่อให้คู่ความได้มีโอกาสเข้ามามีส่วนร่วมในการเจรจาไกล่เกลี่ยและตัดสินใจระงับข้อพิพาทด้วยตนเองก่อนนำคดีขึ้นสู่ศาล เป็นการแก้ไขที่ต้นเหตุข้อพิพาทระหว่างประชาชนกับสถานบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการฯ เพื่อลดปริมาณคดีที่เข้าสู่กระบวนพิจารณาของศาลและลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีของคู่ความทุกฝ่าย อันเป็นการสร้างความพึงพอใจแก่ประชาชนผู้มีอรรถคดีและสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นในสังคม ตลอดจนเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ระบบการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายในหมู่ประชาชนมากยิ่งขึ้น และในวันนี้ศาลแขวงชลบุรี ได้จัดกิจกรรมไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องลูกหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ระหว่างวันที่ 22 – 24 มีนาคม 2552 ซึ่งเป็นการไกล่เกลี่ยระหว่างกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษากับลูกหนี้ที่ครบกำหนดชำระหนี้รุ่นปี 2542 – 2547 และถูกดำเนินคดีในปี 2552 จำนวน 155,000 ราย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้คู่ความได้ยุติข้อพิพาทก่อนนำคดีขึ้นสู่ความและเพื่อเผยแพร่ระบบการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแก่ประชาชนทั่วไป นางศิริพร เปรมาสวัสดิ์ สุรมณี ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงชลบุรี กล่าวว่า ภารกิจหลักของศาลยุติธรรม คือ การอำนวยความยุติธรรมไห้แก่ประชาชน โดยมีเป้าหมายสำคัญในการยุติข้อพิพาทให้เป็นไปโดยสะดวก รวดเร็วและเป็นธรรม แต่ในระยะเวลาที่ผ่านมา ศาลยุติธรรมประสบปัญหาในการพิจารณาพิพากษาคดี เนื่องจากจำนวนผู้พิพากษาและเจ้าหน้าที่ไม่ได้สัดส่วนกับปริมาณคดีที่ฟ้องร้องต่อศาล ทำให้การดำเนินคดีในศาลต้องใช่เวลานาน มีขั้นตอนยุ่งยาก ทั้งประชาชนผู้มีคดีต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี ดังนั้น การที่ศาลแขวงชลบุรีและกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาได้ร่วมกันนำระบบการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนฟ้องมาใช้ นับว่าเป็นโอกาสอันดีที่ประชาชนได้เลือกใช้ช่องทางการยุติข้อพิพาทด้วยความสมัครใจและพึงพอใจร่วมกัน ส่งผลให้ปริมาณคดีที่เข้าสู้ศาลลดลงทำให้ลูกหนี้ผู้มีรายได้น้อยได้มีหนทางผ่อนปรนลดภาระหนี้หรือปลดหนี้ ด้วยความสะดวก รวดเร็วและลดภาระค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีอันเป็นประโยชน์แก่คู่ความทุกฝ่าย และประหยัดค่าใช้จ่าย อันเป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติเป็นอันมากด้วย 

 |