พัฒนาสุขาภิบาลอาหารในค่ายทหาร |
|
เทศบาลตำบลสัตหีบ สาธารณสุขอำเภอ กรมแพทย์ทหารเรือ พัฒนาสุขาภิบาลอาหารในค่ายทหาร
กระทรวงสาธารณสุข กรมแพทย์ทหารเรือ และเทศบาลตำบลสัตหีบ จัดสรรงบประมาณให้กองเวชกรรมป้องกัน โรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ ร่วมกองสาธารณสุข เทศบาลตำบลสัตหีบ และสาธารณสุขอำเภอสัตหีบ พัฒนาด้านสุขาภิบาลอาหาร ร้านค้าในค่ายฐานทัพเรือสัตหีบ หวังกำลังพลบริโภคอาหารสะอาด ถูกหลักอนามัย และ รองรับการท่องเที่ยวชายหาดสะอาดสวย เรือหลวงจักรีนฤเบศร และศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ วันนี้ ( 31 มี.ค. 53 ) พลเรือตรี สารนิติ์ ทองประสม ประธานอนุกรรมการกิจการภัณฑุปกรณ์สวัสดิการภายในฐานทัพเรือสัตหีบ เปิดการอบรมโครงการพัฒนาด้านสุขาภิบาลอาหาร เพื่อให้ความรู้กับผู้สัมผัสอาหาร ผู้ประกอบอาหาร ผู้ปรุง ผู้เสิร์ฟอาหาร ณ ใต้อาคารหน้าห้องสมุดอาคารพักส่วนกลาง กองทัพเรือ ในพื้นที่อำเภอสัตหีบ โดยมี นาวาเอก ปิยะชาติ เจริญวัฒนาพานิช ผู้อำนวยการกองเวชกรรมป้องกัน โรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ รายงานถึงความจำเป็นในการดำเนินโครงการ โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณ จากเทศบาลตำบลสัตหีบ กระทรวงสาธารณสุข และกรมแพทย์ทหารเรือ เพื่อเปิดการอบรมโครงการพัฒนาสุขาภิบาลอาหาร ให้กับผู้ประกอบการสโมสร ร้านค้า เจ้าหน้าที่ ผู้ประกอบอาหารอยู่ภายในหน่วยทหารของกองทัพเรือ พื้นที่อำเภอสัตหีบ โดยได้รับการสนับสนุนวิทยากรจาก สาธารณสุขอำเภอสัตหีบ กองสาธารณสุขเทศบาลตำบลสัตหีบ และกองเวชกรรมป้องกัน โรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ในการให้ความรู้ ความเข้าใจ ระบบตรวจสอบสารปนเปื้อนจากเชื้อโรค และสารเคมีต่าง ๆ ที่ติดมากับอาหาร พลเรือตรี สารนิติ์ ทองประสม กล่าวว่า ในปัจจุบันอำเภอสัตหีบกลายเป็นหัวเมืองสำคัญของจังหวัดชลบุรี ประชากรส่วนใหญ่เป็นข้าราชการ ทหาร ลูกจ้าง และครอบครัวของกองทัพเรือ รายได้ที่ทำให้เศรษฐกิจในท้องถิ่นดีขึ้นก็คือการท่องเที่ยวในค่ายทหาร ซึ่งมีหาดทรายสะอาด สวยงาม เหมาะสำหรับเล่นน้ำและพักผ่อน ต่อเมื่อมีผู้เข้ามาใช้บริการมากขึ้น สิ่งที่ต้องรองรับก็คือ เรื่องของอาหารที่ต้องถูกหลักอนามัย เป็นไปตามหลักสุขาภิบาล จึงได้มีการเปิดอบรมเพื่อให้บุคลากรผู้ปรุง ผู้ประกอบอาหาร ผู้สัมผัสอาหาร มีความรู้ ความเข้าใจด้านสุขาภิบาลอาหารอย่างถูกต้อง ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันหน่วยงานภาครัฐ เอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนทุกหมู่เหล่าได้ตื่นตัวในการเลือกสรรในการ เสาะหาอาหารสะอาด ปลอดภัย ไม่มีสารปนเปื้อน จากเชื้อโรค สารเคมีต่าง ๆ และตระหนักถึงสุขภาพ พลานามัยของตัวเองมากขึ้นก่อให้เกิดภูมิต้านทาน เพื่อให้หลีกพ้นจากการรุมเร้าของโรคที่แพร่ระบาด ลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล จะสามารถทำให้การบริหาร การพัฒนาท้องถิ่น องค์กร และประเทศชาติ เดินหน้าไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ชุมชนเข้มแข็ง เพราะเรื่องสุขภาพนอกจากจะต้องดูแลตัวเองแล้ว ประชาชนทุกคนควรต้องให้ความร่วมมือในการตรวจสอบ ผู้จำหน่ายอาหารให้ถูกหลักอนามัย ไม่ให้มีการใช้สารปนเปื้อน เช่นสารกันบูด สารบรอแร็กที่อยู่ในเนื้อสัตว์ ถ้าร้านค้าหรือผู้ประกอบอาหารยังไม่มีการปรับปรุง ก็ต้องแจ้งให้ทางสาธารณสุขทราบเพื่อเข้าตรวจสอบ และที่สำคัญถ้าร้านค้าใดไม่ปฎิบัติตามหลักสุขาภิบาลก็ไม่สมควรอุดหนุน เมื่อขายไม่ได้ก็ต้องเลิกไปเองโดยปริยาย อุดมเกียรติ ทิพย์ศรีกุล ภาพ / ข่าว 2010-04-01 |