พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พระราชทานแก่ช้าราชการพลเรือน
เนื่องในโอกาสวันข้าราชการพลเรือน ปีพุทธศักราช 2553

      การทำความดีนั้น แม้จะไม่มีใครรู้เห็น แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพื่อให้ผลดีที่เกิดขึ้นยิ่งเพิ่มพูนและแผ่ขยายกว้างออกไป เป็นประโยชน์เป็นความเจริญมั่นคงที่แท้แก่ตน แก่ส่วนรวม ตลอดถึงชาติบ้านเมืองพ้อมทุกส่วน ข้าราชการทุกคนจึงต้องตั้งใจให้หนักแน่นเที่ยงตรง ทีจะกระทำความดีทั้งในการพระพฤติตนและการปฏิบัติงานด้วยความอุตสาหะเสียสละ โดยไม่หวั่นไหวย่อท้อต่ออุปสรรคปัญหา หรือความลำบากเหนื่อยยาก

พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน

วันที่ 31 มีนาคม พุทธศักราช 2553

       วันพฤหัสบดีที่ 1 เมษายน 2553 เนื่องในโอกาสวันข้าราชการพลเรือนที่เวียนมาบรรจบครบรอบปีอีกว่าระหนึ่ง จังหวัดชลบุรี ได้จัดงานวันข้าราชการพลเรือน ประจำปี 2553 ซึ่งได้ส่งความระลึกถึงและความปรารถนาดี พร้อมทั้งกำลังใจข้าราชการพลเรือนด้วยความจริงใจ และได้มอบพิธีประกาศเกียรติคุณข้าราชการพลเรือนดีเด่นของจังหวัดชลบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานพิธี ณ ศาลาเฉลิมพระเกียรติฯ อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี

       เนื่องด้วยวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2471 เป็นวันที่พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนพุทธศักราช 2471 มีผลใช้บังคับ เป็น การจัดระเบียบข้าราชการฝ่ายพลเรือนให้เป็นมาตรฐาน จึงกำหนดให้วันที่ 1 เมษายนของทุกปี เป็นวันข้าราชการพลเรือน การจัดงานในวันข้าราชการพลเรือน มีเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2522 หัวใจของงานส่วนใหญ่ เป็นการมอบเกียรติบัตรยกย่อง สดุดีข้าราชการดีเด่น ในส่วนกลางนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในส่วนภูมิภาค ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน

       นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ประธานในพิธีได้อ่านพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระวรธรรมคติจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และสารจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสวันข้าราชการพลเรือน ในวันที่ 1 เมษายน 2552 โดยมีใจความดังนี้

     พระวรธรรมคติ จากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในวันข้าราชการพลเรือน พุทธศักราช 2553

      วันที่ 1 เมษายน ถือว่าเป็นวันข้าราชการพลเรือน ส่วนราชการฝ่ายพลเรือนจึงได้จัดกิจกรรมและบำเพ็ญกุศลเพื่อความเป็นสิริมงคล และเพื่อเป็นการรำลึกตรวจสอบภาระหน้าที่ในความรับผิดชอบที่ได้ปฏิบัติมาในรอบปีหนึ่งว่า มีผลเป็นอย่างไร มีส่วนใดที่บรรลุความสำเร็จตามเป้าหมาย และส่วนใดยังบกพร่องต้องปรับปรุงแก้ไขบ้าง การจัดกิจกรรมต่างๆ ในโอกาสเช่นนี้จึงนับว่าเป็นการดี

      ข้าราชการพลบเรือนนั้น นับว่ามีบทบาทสำคัญต่อความเจริญมั่นคงของประเทศชาติเป็นอย่างมาก เพราะข้าราชการพลเรือน ในฐานะผู้ปฏิบัติรับใช้ประเทศชาติในด้านต่างๆ ได้ประจำอยู่ในหน่วยงานสำคัญ ๆ ของรัฐ ซึ่งมีกระจายอยู่ในทุกส่วนของประเทศ เป็นเสมือนเส้นโลหิตน้อยใหญ่ที่แผ่ซ่านไปในทุกส่งนของร่ายกายคือประเทศชาติ สำหรับที่ขนถ่ายหรือดูดซึมเอาสิ่งที่ดีมีประโยชน์ไปห่อเลี้ยงและเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงและเจริญเติบโต หากเส้นดลหิตน้อยใหญ่ตีบตัน ร่างกายก็เป็นอัมพาต หรือถ้าเส้นโลหิตน้อยใหญ่ขนถ่ายหรือดูดซึมเอาสิ่งที่เป็นพิษเป็นภัยในแจกจ่ายให้ร่างกาย ร่างกายก็อาจจะเจ็บป่วยทุรพลภาพจนอาจถึงตามได้ ฉะนั้น ข้าราชการพลเรือนจึงนับว่ามีบทบาทสำคัญต่อความเสื่อมความเจริญของประเทศชาติบ้านเมืองเป็นอย่างมาก เพราะเป็นช่องทางสำคัญที่จะขนถ่ายหรือดูดซึมเอมสิ่งที่ดีหรือแล้วแจกจ่ายไปสู่ทุกส่วนของประเทศชาติได้โดยว่าย คล้ายกับเส้นดลหิตของร่างกายดังกล่าวแล้ว

      ข้าราชการนั้น โดยความหมาย ก็คือ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สนองพระเดชพระคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว องค์ประประมุขของชาติ และโดยหน้าที่ก็คือผู้ดูแลรับผิดชอบต่อความสุขทุกข์ของประชาน ข้าราชการจึงมีความเกี่ยวข้องอยู่กับบุคคลหลายฝ่าย คือ มีทั้งผู้บังบัคบัญชาที่ต้องรับสอนงงาน และมีทั้งผู้อยู่ในความปกครองดูแลซึ่งจะต้องรับผิดชอบดูแลให้ความเมตตาต่อไป

ขออนุโทนาอำนวยพร

สาร

นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  นายกรัฐมนตรี

เนื่องในวันข้าราชการพลเรือน ประจำปี 2553

วันที่ 1 เมษายน 2553

-------------------------------------------

    เนื่องในโอกาสวันข้าราชการพลเรือนที่เวียนมาบรรจบครบรอบปีอีกว่าระหนึ่งในวันที่ 1 เมษายน ศกนี้ ผมของส่งความระลึกถึงและความปรารถนาดี พร้อมทั้งกำลังใจมายังข้าราชการพลเรือนทุกท่านทั่งประเทศด้วยความจริงใจ

     “ข้าราชการ” หมายถึงผู้ที่ทำงานต่างพระเนตรพระกรรณของพระมหากษัตริย์ในการดูแลทุกข์สุขของประชาชน ตลอดจนทำหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดินและเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาชาติบ้านเมือง ปัจจุบัน ประชาชนยังคาดหวังให้ข้าราชการปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ และประพฤติปฏิบัติตนในทางที่ถูกต้อง ในการทำงานเพื่อเทศชาติและในการบริการประชาชน

      ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้าราชการจะให้โอกาสอันสำคัญแห่งวันข้าราชการพลเรือนนี้ สำรวจทบทวนการปฏิบัติงานในรอบปีที่ผ่านมาว่า ยังมีส่วนใดที่ต้องปรับปรุงอีกบ้าง และตั้งใจอย่างมุ่งมั่นที่จะทำหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ซื่อสัตย์สุจริต และมีคุณธรรม เพื่อดำรงไว้ซึ่งการเป็น “ข้าราชการ” ที่มีเกียรติและศักดิ์ศรีให้สมกับภารกิจที่สำคัญยิ่งนี้

     รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญของข้าราชการทุกคน จึงให้การส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาข้าราชการพลเรือนให้เป็นผู้รอบรู้ ด้วยการเพิ่มพูนทักษะและประสบการณ์ รวมทั้งเสริมสร้างให้มีสมรรถนะที่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมืออาชีพ ผมมีความเชื่อมั่นว่า ด้วยความตั้งใจจริงของรัฐบาลประกอบกับความร่วมมืออย่างแข็งขันของเพื่อนข้าราชการ จะทำให้การทำงานของข้าราชการประสบความสำเร็จเป้นอย่างดี โดยเฉพาะการเป็นที่เชื่อถือศรัทธาของประชาชน และการก่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจภาครัฐและประโยชน์สุขของประเทศชาติและประชาชนมากยิ่ง ๆ ขึ้นไป

      ผมขอให้ข้าราชการน้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้พระราชทานแก่ปวงชนชาวไทยในโอกาสเสด็จออกมหาสมาคมในงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาเมืองวันที่ 5 ธันวาคน 2552 ที่ให้ทุกคนทุกฝ่ายมุ่งปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เต็มกำลัง ด้วยสติรู้ตัว ด้วยปัญญารู้คิด และด้วยความสุจริตจริงใจ โดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมยิ่งกว่าส่วนอื่น และขอให้ยึดถือแนวพระราชดำริซึ่งได้ถ่ายทอดมาเป็นกระแสพระราชดำรัสเมื่อปี 2549 จำนวน 5 ข้อ คือ เมตตาธรรม สามัคคีธรรม สุจริตธรรม และเที่ยงธรรม มาปฏิบัติใช้เพื่อให้เกิดความสำเร็จในการปฏิบัติหน้าที่ตามเป้าหมายต่อไป

      ในโอกาสอันเป็นมงคลนี้ ผมขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล อีกทั้งพระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โปรดดลบันดาลประทานพรให้ข้าราชการพลเรือนทั่วประเทศประสบแต่ความสุข ความเจริญ มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ มีพลังใจที่เข็มแข็ง พร้อมที่จะอุทิศปัญญาและเวลาเพื่อผลสัมฤทธิ์ของงานแผ่นดินตลอดไป

      จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้กับข้าราชการที่ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี อุทิศตนสร้างประโยชน์แก่ทางราชการและประเทศชาติ ในการนี้ นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการจัดงานวันข้าราชการพลเรือน ได้กำหนดให้มีการคัดเลือกข้าราชการพลเรือนดีเด่น เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติและประกาศเกียรติคุณให้กับผู้ซึ่งได้ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี อุทิศตนสร้างประโยชน์แก่ทางราชการและประเทศชาติ โดยพิจารณาคัดเลือกข้าราชการพลเรื่องและลูกจ้างประจำในสังกัดที่มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์และแนวทางที่กำหนด ทั้งนี้ให้นำข้อมูลบุคลากร ณ วันที่ 30 กันยายน 2552 มาพิจารณา ซึ่งในปีนี้คณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกข้าราชการพลเรื่อดีเด่น จังหวัดชลบุรี ประจำปี 2552 ได้พิจารณาจากข้าราชการและลูกจ้างประจำของส่วนราชการต่างๆ ที่เห็นว่ามีคุณสมบัติเหมาะสม จำนวนทั้งสิ้น 22 ราย และสมควรเป็นข้าราชการพลเรือนดีเด่น ประจำปี 2552 จำนวน 2 ราย ดังนี้

      กลุ่มที่ 1 ประเภทวิชาการ ระดับชำนาญการพิเศษ ได้แก่ นางอัจฉรา เกตุรัตนกุล พยาบาลวิชาชีพ ชำนาญการพิเศษ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี

       กลุ่มที่ 2 ประเภททั่วไป ระดับชำนาญงาน ได้แก่ นางสาวภาริณี  วัฒนะภาดา นักทรัพยากรบุคคล ปฏิบัติการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาชลบุรี เขต1 ซึ่งข้าราชการทั้ง 2 ราย จะได้เดินทางไปรับมอบเกียรติบัตรและเข็มเชิดชูเกียรติ (ครุฑทองคำ) ในวันที่ 1 เมษายน 2553 2553 ณ ห้องประชุมสุสุขนัยประดิษฐ์ สำนักงาน ก.พ. จังหวัดนนทบุรี

      สำหรับข้าราชการที่มีคุณสมบัติเหมาะสมได้รับการพิจารณาคัดเลือกว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ มีคุณธรรม จริยธรรม มีวิธีการดำรงชีวิตอย่างพอเพียง มีการปฏิบัติงานทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด สมควรได้รับการพิจารณายกย่องเชิดชูเกียรติเป็นข้าราชการพลเรือนดีเด่นของจังหวัดชลบุรี ประจำปี 2552 จำนวน 20 ท่านนั้น จะได้รับใบประกาศเกียรติคุณ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ และยกย่องเชิดชูเกียรติ โดยแบ่งประเภทออกเป็นดังนี้ ประเภทวิชาการ ระดับชำนาญการพิเศษ จำนวน 1 ท่าน ประเภทวิชาการ ระดับชำนาญการ จำนวน 10 ท่าน ประเภท ประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการ จำนวน 2 ท่าน ประเภททั่วไป ระดับชำนาญงาน จำนวน 3 ท่าน และประเภทลูกจ้างประจำ จำนวน 3 ท่าน

2010-04-01