จับลักลอบส่งออกน้ำเข้าสินค้า-พระฯ |
|
สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง แถลงข่าว การจับกุมสินค้าลักลอบนำเข้าและส่งออกไปนอกราชอาณาจักร
ตามนโยบายของ ดร.สมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร เรื่องการป้องกันและปราบปรามการลักลอบและหลีกเลี่ยงอากร เพื่อสร้างความเป็นธรรมทางการค้า การปกป้องสังคม เพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ เพื่อให้การป้องกันและปราบปรามของกรมศุลกากร สำเร็จตามนโยบายของกรมศุลกากร ดร.ฉวีวรรณ คงเจริญกิจกุล รองอธิบดีด้านภาษีอากรและสิทธิประโยชน์ จึงมอบหมายให้ นายยุทธนา หยิมการุณ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง สั่งการให้นายศรชัย สร้อยหงษ์พราย ผู้อำนวยการส่วนควบคุมทางศุลกากร เร่งรัดดำเนินการปราบปรามสินค้าหลีกเลี่ยงหนีศุลกากร ของต้องห้ามต้องกำกัด ที่อยู่ในพื้นที่ของสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2553 สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ได้ทำการตรวจสอบสินค้าตามใบขนสินค้าขาออกเลขที่ A026-1-5303-17843 ของบริษัท อัล-ฮาราเมน แทรเวล แอนด์ เทรด จำกัด สำแดงชนิดสินค้าเป็นของเบ็ดเตล็ดจำพวกเครื่องอุปโภคบริโภค รวม 38 รายการ ส่งไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา จากผลการนำตู้ไปตรวจสอบด้วยเครื่องเอกซเรย์ พบว่ามีพระพุทธรูปซุกซ่อนปะปนมากับสินค้าที่สำแดง เจ้าหน้าที่ศุลกากรจึงได้ทำการตรวจค้นพบว่าเป็นพระพุทธรูป รวม 18 องค์ มูลค่าของกลางประมาณ 1 ล้านบาท และได้ทำการจับกุมสินค้าตามใบขนสินค้าขาเข้าเลขที่ A001-0-5304-05187 สำแดงสินค้าเป็นมันฝรั่งสำหรับบริโภค ปริมาณ 2,700 หีบห่อ น้ำหนัก 27 ตัน นำเข้าจากประเทศจีน โดยบริษัท คิมไพศาล การเกษตร จำกัด พบสินค้าเกินจากสำแดง จำนวนประมาณ 3,000 กิโลกรัม มูลค่าของกลางประมาณ 1 ล้านบาท และสินค้าดังกล่าวที่เกินโควต้า ต้องชำระอากรในอัตรา 125% (กรณีขอใบอนุญาตจากกระทรวงพาณิชย์นอกโควตาได้) ทั้งสองกรณีเป็นความผิดฐานสำแดงเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงอากร ข้อห้ามข้อกำกัด อันเป็นความผิดตามมาตรา 99, 27 พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2469 ประกอบกับมาตรา 16, 17 พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2482 จึงได้จับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป -2- ในรอบ 6 เดือน ของปีงบประมาณ 2553 (1 ตุลาคม 2552-31 มีนาคม 2553) สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง มีผลงานการจับกุม รวม 91 รายการ เป็นสินค้าขาเข้า จำนวน 87 ราย สินค้าขาออก จำนวน 4 ราย มูลค่ารวมทั้งสิ้น 29,748,605 บาท ประชาสัมพันธ์ สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง 2010-04-02 |