|
ชาวบ้านแหลมฉบัง-บางละมุงนับ100 คน แห่ขุดเกลือทะเล ที่เกิดขึ้นบริเวณชายหาดแหลมฉบัง บริเวณพื้นที่ถมทะเลของท่าเรือแหลมฉบัง หลังเกิดปรากฎการณ์โลกร้อน ทำให้พื้นที่ดังกล่าวกลายเป็นเกลือ เนื้อที่กว่า 100 ไร่ 
เมื่อเวลา 14.30 น. ( 5 พ.ค.53) ผู้สื่อข่าวได้ทราบว่ามีชาวบ้านในพื้นที่ศรีราชา-บางละมุงเดินทางไปขุดเกลือที่บริเวณการถมที่ของท่าเรือแหลมฉบัง หมู่ 3 ต.ทุ่งศุขลา อ.ศรีราชา ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นรอยต่อของอ.ศรีราชากับอ.บางละมุง เมื่อเดินทางไปก็พบ นางเพ็ญศรี คุ้มคง อยู่บ้านเลขที่ 62/10 หมู่ 9 ต.ทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี กล่าวถึง การพบเกลือทะเลดังกล่าว มาเป็นเวลา 4-5 วันแล้ว โดยมีชาวประมงพื้นที่แหลมฉบังออกมาหากุ้ง หอย ปู และปลา และเมื่อเดินถึงบริเวณที่พบเกลือทะเล ก็พบว่ามีก้อนอะไรลักษณะแข็งและแทงที่ฝ่าเท้า จึงใช้มือจับดูก็พบว่าเป็นก้อนสีขาวขนาดใหญ่ทั่วพื้นที่บริเวณนั้นที่ทางท่าเรือแหลมฉบังได้ถมไว้บริเวณชายทะเล จึงได้ไปบอกเพื่อนบ้าน เพื่อมาดูและขุดก็พบว่าเป็นก้อนเกลือ ซึ่งมีความเค็มทั่วไป หลังที่ชาวบ้านในพื้นที่แหลมฉบังและบางละมุงทราบว่ามีเกลือเกิดขึ้นที่บริเวณดังกล่าว ก็แห่กันมาขุด โดยลักษณะที่เกิดขึ้น จะอยู่ใต้ดินเลนประมาณ 5-10 ซ.ม. จากนั้นจะต้องโกยเกลือดังกล่าวใส่ตระกร้า เพื่อร่อนให้เหลือแต่ก้อนเกลือ จากนั้นก็นำขึ้นฝั่งและบรรจุใส่ถุงต่อไป โดยในแต่ละวันจะมีชาวบ้านออกมาขุดเกลือกว่า 50 คน โดยแต่ละคนจะได้เกลือคนละประมาณ 1-2 ตัน นางเพ็ญศรี กล่าวต่อไปว่า สำหรับปรากฎการณ์ครั้งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในเขตพื้นที่แหลมฉบังเลย แต่เกิดขึ้นในครั้งนี้ อาจเนื่องมาจากภาวะโลกร้อนซึ่งในปีนี้ร้อนจัด จนทำให้น้ำทะเลบริเวณดังกล่าวแห้งเหือดไป จนทำให้เกิดเกลือดังกล่าวขึ้นมา แต่อย่างไรก็ตามชาวบ้านก็ยังหวั่นวิตกต่อปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นว่าสามารถนำไปใช้ประกอบอาหารได้หรือไม่ เพราะไม่เคยพบเห็นเช่นนี้มาก่อน สำหรับเกลือที่ขุดได้ในครั้งนี้ มีความขาวใส และเค็มจัดกว่าเกลือที่พบเห็นในปัจจุบัน ทำให้ชาวบ้านที่ขุดขึ้นมาหวั่นเกิดอันตรายต่อร่างกายหากทำไปประกอบอาหาร หรือ นำไปใช้หมักอาหารทะเล ซึ่งเรื่องนี้ต้องการให้เจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ทางด้านนี้มาตรวจสอบ เพื่อสร้างความสบายใจต่อชาวบ้านที่ขุดเกลือดังกล่าวขึ้นมา นางเพ็ญศรี กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ยังไม่มีชาวบ้านทราบเรื่องการขุดพบเกลือทะเลในครั้งนี้ และที่สำคัญ เกลือที่ขุดพบนั้นอยู่บริเวณพื้นที่ที่มีการถมทะเลของท่าเรือแหลมฉบังมานานหลายปีแล้ว จนเกิดการตกผลึกของน้ำทะเลและกลายเป็นเกลือดังกล่าว นอกจากนั้นก็ยังหวั่นเจ้าหน้าที่ของการท่าเรือ สั่งห้ามเข้ามาดำเนินการเพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ แต่เรื่องนี้เจ้าหน้าที่ก็ไม่สมควรที่จะห้ามชาวบ้าน เนื่องจากจะเป็นการสร้างรายได้ให้กับประชาชน ในพื้นที่ใกล้เคียงกับท่าเรือแหลมฉบัง ขณะนี้เริ่มมีผู้ประกอบการ เข้ามาติดต่อสอบถามและขอซื้อเกลือดังกล่าวแล้วซึ่งทำรายได้ให้คนละกว่า 1,000 บาท ต่อคน โดยในช่วงนี้ สามารถจำหน่ายได้ กิโลกรัมละ 3-5 บาทแล้ว และหากมีพ่อค้ามาแย้งกันรับซื้อก็อาจจะทำให้ราคาเกลือเพิ่มสูงขึ้น สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านวันละเป็นหมื่นบาทอย่างแน่นอน ดังนั้นควรจะให้การสนับสนุนหรือส่งเสริมให้ชาวบ้านมีรายได้จะดีกว่าห้ามเข้ามา เพราะพื้นที่บริเวณดังกล่าวยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ในขณะนี้ และคงไม่สร้างความเสียหายต่อพื้นที่ เนื่องจากเป็นการทำด้วยมือโดยไม่มีเครื่งอจักรแต่อย่างไร นางเพ็ญศรี กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ชาวบ้านแหลมฉบัง ยังไม่ต้องการจะบอกให้ใครรับรู้รับทราบ เพราะหวั่นคนจากที่อื่นมามาขุด ทำให้ชาวบ้านในแหลมฉบังและบางละมุงไม่มีรายได้ แต่อย่างไรก็ตาม ในอนาคตคงปิดไม่ได้ เพราะขณะนี้ก็เริ่มมีประชาชนส่วนใหญ่ทราบเรื่องแล้ว และเดินทางมาขุดในช่วงเช้าถึงเย็น วันละเกือบ 100 คนแล้ว และคงจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจากพื้นที่มีเกลือนั้นกว้างเป็น 100 ไร่ และเป็นเกลือที่สวยมากเม็ดใสละเอียดทีเดียว 2010-05-05 
|
