หน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อม เร่งตรวจสอบเกลือ ริมทะเลแหลมฉบัง หวั่นประชาชนได้รับอันตรายหากนำไปบริโภค คาดจะทราบผล 15 พ.ค.นี้

     หลายหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อม เร่งเข้าทำการตรวจสอบเกลือที่พบบริเวณริมทะเลแหลมฉบัง นำโดย นางอารีย์ ตรีรัตนเวช ผู้อำนวยการสำนักงานสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลตำบลแหลมฉบัง การท่าเรือแหลมฉบัง , อุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี , สำนักงานสิ่งแวดล้อมสิ่งแวดล้อมภาคที่ 13 ชลบุรี , สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดชลบุรี และสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี ได้ร่วมเดินทางไปตรวจสอบพื้นที่ที่ชาวบ้านพบเกลือทะเลเป็นจำนวนมาก เพื่อนำเกลือไปทำการตรวจสอบว่า เกลือที่พบนั้นมีสารเคมีเจือปนหรือไม่ 

     การเดินทางลงพื้นที่ในครั้งนี้ ต้องการมาชี้แจงและทำความเข้าใจกับประชาชนที่มาขุดเกลือ เพื่อนำไปบริโภค เนื่องจากหวั่นประชาชนจะได้รับอันตรายจากเกลือดังกล่าว เพราะสภาพเกลือที่พบเห็นตามท้องตลาดนั้น จะมีลักษณะสีขาวขุ่น แต่เกลือที่พบเห็นในครั้งนี้ มีสีใสมาก จึงหวั่นจะมีสารเคมีบางชนิดผสมอยู่ และเมื่อนำไปบริโภคแล้วจะเกิดอันตรายได้

     นางอารีย์ กล่าวต่อไปว่า ในเบื้องต้นได้ส่งเกลือไปตรวจสอบแล้ว โดยพบว่ามีปริมาณโซเดียมคลอไรด์อยู่ร้อยละ 55 ส่วนเกลือแกงทั่วไปที่นำมารับประทานนั้น จะมีปริมาณโซเดียมคลอไรด์อยู่ร้อยละ 90 ขึ้นไป ซึ่งสามารถนำมารับประทานได้ ซึ่งเกลือที่พบนั้นมีความเค็มมากกว่าเกลือแกงที่มีขายอยู่ตามท้องตลาดและเม็ดใสขาว แต่แปลกตรงที่ว่าเกลือที่พบดังกล่าวนั้นอยู่ใต้เลนซึ่งลึกประมาณ 5-10 เซนติเมตร เมื่อเก็บได้ต้องนำไปร่อนก่อน ไม่เหมือนการทำนาเกลือทั่วไปที่ต้องนำน้ำทะเลมาตากแดดจึงจะได้เกลือและทำกรรมวิธีก่อนนำจำหน่ายสู่ท้องตลาด

     ที่ผ่านมาประชาชนในพื้นที่อำเภอศรีราชา และบางละมุง ต่างเดินทางเข้าไปในพื้นที่ชายหาดแหลมฉบังวันละ 70-100 คน เพื่อไปเก็บเกลือขายกันเนื่องจากเห็นว่ารายได้ดี และมีผู้ไปรับซื้อถึงที่ ซึ่งเรื่องนี้ทางหน่วยงานที่รับผิดชอบวิงวอนถึงประชาชนที่มาขุดเกลือหรือเก็บเกลือเหล่านี้ไม่ควรนำไปบริโภคอย่างเด็ดขาด เพราะยังไม่มั่นใจว่าจะเป็นเกลือ โดยไม่มีสารเคมีอันตรายผสมอยู่ ดังนั้นควรจะต้องรอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบตรวจวิเคราะห์ให้ทราบแน่ชัดเสียก่อน โดยจะใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบประมาณ 10 วัน คาดว่าในวันที่ 15 พ.ค. นี้ จะทราบผลที่ชัดเจน

     “จากการดูด้วยสายตาแล้ว คิดว่าน่ามีความผิดปกติ เนื่องจากมีลักษณะที่ใสมาก เมื่อเปรียบเทียบกับเกลือแกงตามท้องตลาด ดังนั้นจึงไม่ควรนำไปปรุงอาหารหรือรับประทานอย่างเด็ดขาด และหากเมื่อทราบผลในการตรวจสอบ จะแจ้งให้ประชาชนได้รับทราบทันที” นางอารีย์ กล่าว

2010-05-08