สุดสลด! สาวใหญ่กระเตงหอบลูก ขายยาบ้าหาเงินซื้อชุดนักเรียนใหม่ให้ลูก ถูกรวบคาโรงแรม

     สุดสลดใจ สาวใหญ่กระเตงหอบลูกสาววัย 10 ขวบ ลูกชายวัย 8 ขวบ ส่งยาบ้าให้ลูกค้าถูกรวบคาโรงแรม พร้อมยาบ้า 30 เม็ด ลูกเห็นแม่ถูกจับ ร้องไห้แทบขาดใจ สารภาพทำไปเพื่อต้องการหาเงินซื้อชุดนักเรียนใหม่ให้ลูกก่อนเปิดภาคเรียน

     เรื่องนี้ได้ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 00.20 น.วันที่ 11 พ.ค.53 นายชายชาญ เอี่ยมเจริญ นายอำเภอสัตหีบ นาวาเอก สุรนันท์ แสงรัตนกูล หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์ต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด ฐานทัพเรือสัตหีบ (หน.ชปพ.ศตส.ฐท.สส.) นาวาโท ณัฎฐชัย วิจิตรพันธุ์ นายสุรเชษฐ์ แก้วคำ ปลัดอำเภอสัตหีบ พร้อมด้วยอาสาสมัครชุดป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ได้ร่วมกันวางแผนล่อซื้อยาบ้าจาก นางสุนันท์ รอดจำปา หรือเจ๊ ปู อายุ 35 ปี พักบ้านเลขที่ 37 ม.1 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เอเย่นต์ยาบ้าในเขตพื้นที่ตลาดกิโลเมตรที่ 10 ต.พลูตาหลวง

     จากการเข้าล่อซื้อยาบ้าเจ้าหน้าที่ได้วางแผนให้สายลับ ติดต่อสั่งซื้อยาบ้า จำนวน 20 เม็ด ในราคา 4,800 บาท และนัดส่งยาบ้ากันภายในห้องพัก หมายเลข 02 ของโรงแรมเท็น ม.1 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ เมื่อถึงเวลานัดหมาย นางสุนันท์ ได้ขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ 100 สีแดง – ดำ ทะเบียน คฉต – 169 ชลบรี โดยมีบุตรสาววัย 10 ขวบ และบุตรชายวัย 8 ขวบ นั่งซ้อนท้ายเข้ามาจอดยังหน้าห้องพัก จากนั้นนางสุนันท์ ได้นำยาบ้าเข้าไปส่งให้กับสายลับภายในห้องพัก เจ้าหน้าที่ที่ซุ่มโปร่งอยู่โดยรอบจึงแสดงตัวเข้าจับกุม เมื่อบุตสาว และบุตรชาย ของนางสุนันท์ เห็นแม่ของตนเองถูกเจ้าหน้าที่จับกุม ต่างพากันร้องไห้ด้วยอาการหวาดผวา ทำให้เจ้าหน้าที่สลดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้น จากการจับกุมได้ของกลางยาบ้า 20 เม็ด เงินสดล่อซื้อ 4,800 บาท และจากการตรวจค้นยังพบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในเสื้อชั้นในอีกจำนวน 10 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บของกลางไว้เป็นหลักฐาน พร้อมควบคุมตัวมาทำการสอบสวน

     จากการสอบสวน นางสุนันท์ ผู้ต้องหา ได้ให้การรับสารภาพว่า ยาบ้าที่นำมาจำหน่ายรับมาจากสาวประเภท 2 ชื่อ นายเดช อายุ 40 ปี เอเย่นต์ยาบ้าในตลาดสัตหีบ ราคาเม็ดละ 200 บาท และนำมาจำหน่ายในราคา 240 – 300 บาท

     และยังกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาได้อยู่กินกับสามีซึ่งมีอาชีพทำประมง จนมีบุตรด้วยกัน 2 คน รายได้ที่ได้มาไม่เพียงพอที่จะมาเลี้ยงครอบครัว จึงได้ลักลอบค้ายาบ้าให้กับกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่มานานหลายปี แต่ไม่เคยถูกจับกุม จึงได้ชะล่าใจยึดเป็นอาชีพหลักโดยไม่คิดหาอาชีพสุจริตทำ เพื่อนำเงินมาจุนเจือครอบครัว และที่สำคัญอีกไม่ถึง 3 วัน บุตรทั้งสองคนต้องเปิดภาคเรียน จึงมีความต้องการนำเงินไปซื้อชุดนักเรียนให้กับบุตร แต่มาถูกจับกุมเสียก่อน

อุดมเกียรติ   ทิพย์ศรีกุล ภาพ / ข่าว  2010-05-11