ฐานทัพเรือสัตหีบ จัดกำลังพล ข้าราชการ ทหาร ลูกจ้างบำเพ็ญประโยชน์ ถวายเสด็จเตี่ย เนื่องในวันอาภากร
กองทัพเรือรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ เสด็จเตี่ย วันสิ้นพระชนม์พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ บิดาแห่งราชนาวีไทย บำเพ็ญสาธารณประโยชน์ เทน้ำชีวภาพ 20,000 ลิตร ลงอ่างเก็บน้ำหนองตะเคียน ทำความสะอาดสวนกรมหลวงชุมพร และชายทะเลอ่าวสัตหีบ ถวายเป็นพระราชกุศล วันนี้ ( 18 พ.ค. 53 ) พลเรือตรี ศุภพงษ์ ศิริสนธิ เสนาธิการ ฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ประธานในพิธีเปิดกิจกรรมทำความสะอาดสวนกรมหลวงชุมพร และเก็บขยะชายหาด ฟื้นฟูสภาพแวดล้อม โดยมีกำพลจาก กองรักษาความปลอดภัย ฐานทัพเรือสัตหีบ ข้าราชการ ลูกจ้าง พลทหาร จากหน่วยขึ้นตรง จำนวน 200 นาย มาร่วมกันดำเนินกิจกรรมเพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และสร้างคุณงามความดีถวายแด่ ดวงพระวิญญาณ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ 19 พฤษาคม ด้วยการเทน้ำยาชีวภาพ จำนวน 20,000 ลิตร ลงอ่าวเก็บน้ำหนองตะเคียน หมู่ที่ 2 ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพราะขณะนี้สภาพน้ำในอ่างเริ่มมีสีเขียว เพราะน้ำไม่ได้มีการหมุนเวียน จึงจำเป็นต้องช่วยปรับสภาพน้ำก่อนที่ปลา และสัตว์น้ำจะตายหมด พลเรือตรี ศุภพงษ์ ศิริสนธิ กล่าวว่า พระกรณียกิจของพระองค์ที่ทรงทำคุณประโยชน์ให้แก่กองทัพเรืออย่างมหาศาลนั้น ทำให้กิจการของกองทัพเรือเจริญก้าวหน้ามาจนทุกวันนี้ พระองค์ทรงริเริ่มวางรากฐานกิจการ ทหารเรือไทยให้มีความเข้มแข็ง มั่นคงมีสมรรถภาพ สามารถทำหน้าที่เป็นรั้วของชาติทางทะเลได้ เป็นอย่างดีตลอดมา จนทหารเรือตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันต่างก็ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระองค์อย่างมิรู้ลืม จึงพร้อมใจกันถวายสมัญญานาม พระองค์ท่านว่า "องค์บิดาของ ทหารเรือไทย" และถือเอาวันที่ ๑๙ พฤษภาคมของทุกปี เป็น "วันอาภากร" ในวันที่ 19 พฤษภาคม ของทุก ๆ ปี ทหารเรือ หน่วยงานภาครัฐ เอกชน กลุ่มพลังมวลชน ประชาชนทุกหมู่เหล่า ได้ร่วมกันรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณเสด็จเตี่ย เพราะพระองค์ท่านได้ทิ้งประวัติศาสตร์ไว้ให้คนไทย กองทัพเรือ ได้ศึกษา และเชิดชูพระองค์ท่านอย่างแพร่หลาย นอกจากพระองค์ทรงเป็นนักยุทธศาสตร์แล้ว พระองค์ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญทาง ด้านการแพทย์แผนโบราณ พระองค์ก็ทรงศึกษาค้นคว้าอย่างจริงจัง โดยในขณะที่เสด็จในกรมฯ ได้ทรงออกจากประจำการชั่วคราว ระหว่างปี พ.ศ.๒๔๕๔ - พ.ศ.๒๔๕๙ พระองค์ได้ทรงศึกษาวิชาแพทย์แผนโบราณ ทรงเขียนตำรา ยาแผนโบราณลงในสมุดข่อยด้วยฝีพระหัตถ์ของพระองค์เอง โดยทรงตั้งชื่อตำรายาเล่มนี้ว่า "พระคัมภีร์อติสาระวรรคโบราณะกรรมและปัจจุบันนะกรรม" ซึ่งสมุดเล่มดังกล่าวปัจจุบันได้ถูก เก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีที่พิพิธภัณฑ์ทหารเรือสมุทรปราการ ส่วนในด้านการรักษาพยาบาล พระองค์ได้ทรงรักษาโรคภัยไข้เจ็บแก่คนทั่วไป โดยไม่เลือก คนจนหรือคนมี และมิได้คิดค่ารักษาหรือค่ายาแต่อย่างใด ทุกคนที่มีความเดือนร้อนจะต้องได้รับ ความเมตตาจากพระองค์ จนเป็นที่นับถือของบุคคลทั่วไปในนามพระองค์ว่า "หมอพร" จนเมื่อวันที่ ๑๗ เมษายน พ.ศ.๒๔๖๖ เนื่องจากพระองค์ทรงมีสุขภาพไม่สมบูรณ์ และประชวร กระทรวงทหารเรือ ได้สั่งการให้จัดเรือหลวงเจนทะเลถวายเป็นพาหนะ และกรมแพทย์ทหารเรือ ได้จัดนายแพทย์ประจำพระองค์ ๑ นาย พร้อมด้วยพยาบาลตามเสด็จไปด้วย เสด็จในกรมฯ ได้เสด็จออกจากกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ ๒๑ เมษายน พ.ศ.๒๔๖๖ ไปประทับอยู่ด้านใต้ปากน้ำชุมพร ขณะที่พระองค์ประทับอยู่นี้ก็เกิดพระโรคหวัดใหญ่เนื่องจาก ถูกฝน ประชวรอยู่เพียง ๓ วัน ก็สิ้นพระชนม์ที่ตำบลหาดทรายรี ในวันที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๖๖ สิริพระชนมายุได้ ๔๔ พรรษา อุดมเกียรติ ทิพย์ศรีกุล ภาพ / ข่าว 2010-05-19 |