แก๊ง อปพร.เมืองพัทยา ตีนโหด รุมกระทืบเหยียบหัวหนุ่มร้าน MK หมั่นไส้ขี่รถมอเตอร์ไซต์ท่อเสียงดัง
เหตุการณ์เจ้าหน้าที่ อปพร.เมืองพัทยา รุมกระทืบหนุ่มร้าน MK รายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 00:30 (วันที่ 3 มิ.ย.) พ.ต.ท.เริงวิชญ์ รักชาติ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก ได้มี นายอรุณ แซ่จู อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100/457 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. พนักงานร้าน MK สาขาโลตัสพัทยาใต้ เดินทางมาขอเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ในสภาพร่างกายมีรอยช้ำ และมีรอยเปื้อนดินเป็นรูปรองเท้าคอมแบ็ท ติดอยู่บนเสื้อเชิ้ตสีขาวอย่างเห็นได้ชัด นายอรุณ ได้เล่าเหตุการณ์ให้เจ้าหน้าที่ฟังว่า ได้ถูกเจ้าหน้าที่ชุด อปพร.เมืองพัทยา จำนวน 6-7 คน ตรงเข้ามาล็อคคอตนจากทางด้านหลัง แล้วกระชากตนจนหล่นลงจากรถ ก่อนกรูเข้ารุมทำร้ายร่างกาย เหยียบหัว และจับตนล็อกใส่กุญแจมือ เหตุเกิดขณะตนจอดรถติดไฟแดง อยู่บริเวณแยกถนนพัทยาสาย 3 ตัดถนนพัทยาใต้ ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี นอกจากนี้หลังถูกกลุ่ม อปพร. รุมทำร้ายแล้ว ตนยังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตามมา ยึดรถจักรยานยนต์ของตนไป โดยออกใบยึดรถให้ตน 1 ใบ อ้างว่ารถของตนนั้นท่อไอเสียเสียงดัง ให้นำท่อไอเสียเดิมมาเปลี่ยนเสียก่อน ตนจึงจะสามารถนำรถกลับไปได้ จากนั่นจึงยอมปล่อยตัวตนมา หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ตนจึงตัดสินใจเข้าร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม เพราะก่อนหน้านี้ ตนก็เคยได้ยินเรื่องราวแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาเจอกับตัวเองในวันนี้ และตนคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ น่าจะเป็นอุทาหรณ์ให้กับสังคมได้เป็นอย่างดี และไม่ต้องการให้เหตุการณ์อย่างนี้ไปเกิดขึ้นกับใครอีก หลังเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเรื่องดังกล่าว จึงได้เรียกตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ชุด อปพร. ดังกล่าว มาสอบสวนหาข้อเท็จจริง ด้าน ส.ต.ท.เอกชัย ศรีภพ ผบ.หมู่ งานป้องกันและปราบปราม ปฏิบัติหน้าที่สายตรวจรถจักรยานยนต์ เล่าว่า ขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่พบ นายอรุณ แซ่จู ผู้เสียหาย ขับขี่รถจักรยานยนต์มา ลักษณะท่อเสียงดัง จึงได้วิทยุแจ้งให้ชุด อปพร. ดังกล่าว ไล่ติดตามไป จนมาทันที่บริเวณจุดเกิดเหตุ จึงได้ขอตรวจค้นก็ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่เนื่องจากรถคันดังกล่าวท่อเสียงดัง ตนจึงได้ตรวจยึดไว้ในข้อหาดัดแปลงสภาพรถจริง ส่วนเรื่องเหตุการณ์ที่ผู้เสียหายกล่าวมาทั้งหมด ตนคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันมากกว่า ทางด้าน อปพร. ชุดที่เข้าจับกุม ได้ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำการทำร้าย นาย นายอรุณ แซ่จู แต่อย่างใด โดยเล่าเหตุการณ์ว่า ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ไล่ติดตามรถผู้ต้องสงสัย จนมาพบที่บริเวณสี่แยกไฟแดงสาย 3 พัทยาใต้ จึงเข้าไปจับตัวไว้ แต่ผู้ต้องสงสัยพยายามหลบหนี พวกตนจึงช่วยกันจับตัวไว้ จนทำให้รถพลิกคว่ำดังกล่าว ส่วนเรื่องการล็อกตัวผู้ต้องสงสัยนั้น เป็นการล็อกตัวเพื่อไม่ให้ผู้ต้องสงสัยนั้น สามารถหลบหนีได้ ส่วนเรื่องที่ผู้เสียหายอ้างว่า ถูกเจ้าหน้าที่ในชุดที่เข้าจับกุม เหยียบหัว แล้วใส่กุญแจมือนั้น ก็ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริงเพราะเหตุการณ์ในขณะนั้น ชุดจับกุมเข้าใจว่าผู้เสียหายกำลังคิดจะหลบหนี จึงทำให้เหตุการณ์เลยเถิดไปถึงขนาดนั้น ซึ่งทางชุดจับกุมรู้สึกเสียใจ และต้องขอโทษต่อผู้เสียหายไว้ ณ ที่นี้ด้วย หลังพนักงานสอบสวนได้เรียกทั้งสองฝ่ายมาพูดคุยปรับความเข้าใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดที่เกิดขึ้นไปแล้วนั้น เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทั้งหมด ได้กล่าวขอโทษต่อผู้เสียหาย ต่อหน้าพนักงานสอบสวน และสื่อมวลชนทุกแขนง ส่วนผู้เสียหายหลังพบและได้รับคำขอโทษจากชุดจับกุมดังกล่าว พร้อมทั้งทราบว่าเป็นการเข้าใจผิดกัน จึงไม่ติดใจเอาความแต่อย่างใด ส่วนรถที่ถูกเจ้าหน้าที่ยึดไปนั้น ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้เสียหายได้รับรถคืนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว... อุดมเกียรติ ทิพย์ศรีกุล ภาพ / ข่าว 2010-06-04 |