ทัพเรือสิงคโปร์ ประชุมวางแผนกับทัพเรือไทย ฝึกร่วม สิงสยาม 2010 น่านน้ำสิงคโปร์ คุ้มกัน ไล่ล่า ค้นหา ทำลายศัตรู

     ผู้แทนกองทัพเรือประเทศสิงคโปร์ เดินทางเข้าไทย  ประชุมร่วมกองทัพเรือไทย ฝึกสิงสยาม 2010 น่านน้ำสิงคโปร์ เตรียมกำลังพล ยุทโธปกรณ์  ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลง กองเรือยุทธการ กำหนดให้ เรือหลวงจักรีนฤเบศร และเรือหลวงตากสิน เดินทางฝึกร่วมในการคุ้มกัน ไล่ล่า ค้นหา ทำลายศัตรู

     วันนี้ นาวาเอก โฆษิต เจียมศุภกิตต์ เสนาธิการ กองเรือฟริเกตที่ 2 กองเรือยุทธการ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ผู้อำนวยการฝึกร่วมสิงสยาม 2010 ฝ่ายไทย และ นาวาเอก เงียม หอก คุณ (COL.Giam  Hak Koon) ผู้บังคับการเรือ 185 กองทัพเรือประเทศสิงคโปร์ ผู้แทนกองทัพเรือประเทศสิงคโปร์ ประธานการประชุมนายทหารเรือไทย และนายทหารของทหารเรือสิงคโปร์ ณ ห้องประชุม สโมสรสัญญาบัตร กองเรือยุทธการ  เพื่อร่วมกันวางแผนในการจัดกำลังพล อาวุธยุทโธปกรณ์ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเรื่องของการพัฒนาการฝึกให้ก้าวหน้ากว่าทุกปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการแก้ไขสถานการณ์เร่งด่วน ที่เกิดขึ้นตามกระแสโลกในขณนี้

    นาวาเอก โฆษิต เจียมศุภกิตต์ เสนาธิการ และผู้อำนวยการฝึกสิงสยาม 2010 ครั้งที่ 16 กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจาก พลเรือตรี ไชยยศ สุนทรนาค  ผู้บัญชาการ กองเรือฟริเกตที่ 2 กองเรือยุทธการ ให้ดำเนินการเปิดการประชุมร่วมกับผู้แทนกองทัพเรือประเทศสิงคโปร์ เพื่อหาข้อยุติ การเตรียมการฝึก สิงสยาม 2010 ซี่งปีนี้ กองทัพเรือ ประเทศสิงคโปร์ เป็นเจ้าภาพการฝึก กองทัพเรือไทยจะต้องนำเรือรบ กำลังพล ยุทโธปกรณ์ ไปร่วมฝึกในน่านน้ำสิงคโปร์ ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลง ประมาณวันที่ 25 สิงหาคม 2553 ถึง 3 กันยายน 2553 กองทัพเรือต้องนำเรือหลวงจักรีนฤเบศร และเรือหลวงตากสิน บรรทุกยุทโธปกรณ์ กำลังพลที่เกี่ยวข้องในการฝึกไปยังท่าเรือชางงี เพื่อทำพิธีเปิดฝึกร่วมกัน

    และเปิดเผยว่า การที่ทางด้าน นาวาเอก เงียม หอก คุณ และคณะนายทหาร ที่เดินทางเข้ามาประชุมหารือ ในประเทศไทย ต้องการให้กองทัพเรือไทย เดินทางไปประชุมร่วมครั้งสุดท้ายอีกครั้ง ณ ประเทศสิงคโปร์ เพื่อหาข้อยุติรายละเอียดทั้งหมดในการฝึก แม้แต่การนำยุทโธปกรณ์ทางทหาร  กำลังพล เดินทางไปทำการฝึกร่วมไทย-สิงคโปร์ สิงสยาม 2010 โดยเรือรบไทยจะต้องเข้าเทียบท่าเรือชางงี ซึ่งการฝึกร่วมในแต่ละครั้งถือว่าเป็นโอกาสของกำลังพลที่ได้มีการพัฒนาเรื่องขององค์ความรู้ ประสบการณ์ และได้ล่วงรู้ถึงการพัฒนากำลังพลของกองทัพเรือมิตรประเทศ เกิดความเข้าใจในเรื่องการติดต่อสื่อสาร การใช้ภาษาให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน เกิดผลดีต่อการปฎิบัติการร่วมในทะเล ถ้าเกิดวิกฤตที่ต้องพึ่งพาอาศัยกันอย่างมีประสิทธิภาพ

อุดมเกียรติ   ทิพย์ศรีกุล    ภาพ / ข่าว  2010-06-04