พายุงวงช้างพัดผ่านช่องแสมสารสัตหีบเรือประมงจม 4 ลำ ไต๋เรือพร้อมลูกเรือสังเวย 2 ศพ
ทัพเรือภาคที่ 1 กองทัพเรือ สัตหีบ ส่งกำลังพลเรือตรวจการณ์ เรือยาง ชุดปฎิบัติการพิเศษช่วยเหลือลูกเรือประมงที่รอดชีวิตกลางดึกท่ามกลางสายฝนดำน้ำค้นหาเจ้าของเรือสูญหายหลังพายุฝนตะวันตกเฉียงใต้พัดโหมกระหน่ำอ่าวสัตหีบเรือประมงจับปลาเต็มลำมุ่งหน้าเข้าฝั่งท่าเทียบเรือแสมสารจมดิ่งลงใต้ทะเล 4 ลำ เสียหายกว่า 8 แสน ตาย 1 สูญหาย 1 รอดชีวิต 3 เมื่อเวลา 01.30 น.ของวันที่ 9 มิถุนายน 2553 นาวาเอก อาทร เคลือบมาศ รองเสนาธิการ ทัพเรือภาคที่ 1(รองเสธ.ทรภ.1)ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจาก นายศักดา บุญศิริ อายุ 30 ปีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 236/2 ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดระยองเจ้าของเรือประมงอวนลอย ชื่อเรือทรัพย์ประสิทธิ์ว่าขณะนี้เรือประมงชนิดอวนลอย สีเขียวตองอ่อน ขนาด 5 วา 3 ศอกชื่อเรือลาภอรุณทรัพย์ ถูกพายุฝนกระหน่ำจมลงสู่ใต้ทะเล พิกัด แลตติจูด12องศา 35 ลิปดา 411 ฟิลิปดา ลองติจูด 100 องศา 57 ลิปดา 348 ฟิลิปดา จึงได้รายงานให้ พลเรือตรี ทวีป สุขพินิจ รองผู้บัญชาการ ทัพเรือภาคที่1 ทราบ พร้อมได้สั่งการมอบหมายให้ นาวาโท อำพล หมื่นหาญ หัวหน้าศูนย์ปฎิบัติการ ทัพเรือภาคที่ 1 นำเรือตรวจการณ์ หมายเลข 219โดยมี เรือเอก ฤทธิรงค์ อยู่เจริญ ผู้ควบคุม พร้อมกำลังพลประจำเรือพร้อมชุดปฎิบัติการพิเศษ นำเรือยาง และอุปกรณ์ดำน้ำ รุดไปยังพิกัดดังกล่าว โดยมี นาวาเอก อาทร เคลือบมาศ รองเสนาธิการทัพเรือภาคที่ 1 เป็นผู้อำนวยการ และสั่งการในการช่วยเหลือและค้นหาผู้สูญหาย ต่อมาเรือตรวจการณ์ หมายเลข 219 และ เรือยางพร้อมอุปกรณ์ดำน้ำชุดปฎิบัติการพิเศษได้เดินทางไปถึงที่หมายท่ามกลางสายฝนและกระแสน้ำเชี่ยวกราก เจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการพิเศษได้ดำน้ำลงไปตรวจสอบเรือที่จมอยู่ใต้ทะเล และค้นหา นายอรุณ เชาวนวรังอายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 236/2 ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง เจ้าของและไต๋เรือ เพราะได้รับการยืนยันจาก นายพยุงศักดิ์ พวงหิรัญ อายุ26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/21 ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดระยองลูกเรือว่าขณะที่เรือถูกคลื่นลมโหมกระหน่ำไต๋เรือกำลังพูดวิทยุมดดำกับเรืออื่นๆ ในเครือภายในห้องเดินเรือไม่ได้หนีออกมาจากเรือ คาดว่ายังอยู่ภายในเรือแต่เมื่อชุดปฎิบัติการพิเศษได้ดำน้ำลงไปค้นหาปรากฏว่าไม่พบศพหรือร่างของนายอรุณ แต่อย่างใดพลเรือตรี ทวีป สุขพินิจ รองผู้บัญชาการ ทัพเรือภาคที 1 เปิดเผยว่าหลังจากที่ทราบเรื่องนี้ จึงได้รายงานให้ พลเรือโท ฆนัท ทองพูลผู้บัญชาการ ทัพเรือภาคที่ 1(ผบ.ทรภ.1)และผู้อำนวยการศูนย์ปฎิบัติการทัพเรือภาคที่ 1(ผอ.ศปก.ทรภ.1)ทราบซึ่งท่านได้สั่งการให้ดำเนินการช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถในเรื่องของการช่วยเหลือ ค้นหาเจ้าของเรือประมงที่สูญหาย และเรือที่จมอยู่ใต้ทะเล และ เมื่อเวลา 11.30 น.ของวันนี้ (9 มิ.ย.53) ร.ต.ท.ปิติชน เทิดเกียรติกุล ร้อยเวรประจำวัน สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งจาก เรือโท สุชาติ หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ ทัพเรือภาคที่ 1 กองทัพเรือว่า พบศพนาย อรุณ เชาวนรัง อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 236/2 ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระยอง ไต๋และเจ้าของเรือ ลาภอรุณทรัพย์ เรืออวนลอยปลาโม่งขนาด 6 วา 2 ศอก หลังจากได้รับแจ้งว่า ได้ถูกพายุงวงช้างพัดผ่านระหว่างเกาะแรดและเกาะแสมสาร ทำให้เรือประมงอับปราง มีไต๋เรือและลูกเรือประมงสูญหาย จนสามารถพบศพ นาย อรุณ เชาวนรัง เสียชีวิตอยู่ในทะเล จึงนำศพเข้ามาที่ท่าเรือผู้ใหญ่ระพิน ต.แสมสาร ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบเพื่อชันสูตรในเบื้องต้น นาง ฉะอ้อน วงศ์ศิริ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 236/2 ม.3 ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระยอง ที่มารับศพ นาย อรุณ เชาวนรัง ไต๋เรือลาภอรุณทรัพย์ลูกเขย ที่สะพานท่าเรือผู้ใหญ่ระพิน แสมสาร ได้กล่าวว่า ได้รับแจ้งเหตุว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา ได้เกิดลมฝนพายุลักษณะคล้ายพายุงวงช้างพัดผ่านช่องทางเดินเรือระหว่างเกาะแรดและเกาะแสมสาร จนเป็นเหตุให้เรือ ลาภอรุณทรัพย์ ที่มีลูกเรือ 5 คน รวมกับลูกเขย ได้ถูกคลื่นลมพัดจมในทะเล เป็นเหตุให้ นาย อรุณ เชาวนรัง ลูกเขยและนาย หมู ไม่ทราบชื่อสกุลจริงลูกเรือ สูญหายไป และเมื่อคืนที่ผ่านมาได้พบร่างของนายหมูแล้วหน่วยกู้ภัยฯ ได้รีบนำตัวส่งรักษาที่ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ฯ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา จนกระทั่งเมื่อเวลา 11.30 น.ของวันนี้ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ ทัพเรือภาคที่ 1 ได้ดำน้ำค้นหาจนพบและนำศพมาขึ้นที่ท่าเรือระพินช่องแสมสาร ดังกล่าว นาย ปราโมทย์ โถวสกุล กำนันตำบลแสมสาร กล่าวว่า เมื่อเวลาเที่ยงคืนเศษของเมื่อคืนที่ผ่านมาได้เกิดพายุคลื่นลมกระหน่ำในพื้นที่สัตหีบอย่างรุนแรง และมีพายุลักษณะคล้ายงวงช้างพัดผ่านช่องปลาไว ซึ่งอยู่ระหว่างเกาะแรดกับเกาะแสมสาร ห่างจากช่องแสมสารประมาณ 800 เมตร จนเป็นเหตุให้ เรือประมงลาภอรุณทรัพย์ จากจังหวัดระยอง และเรือประมงในช่องแสมสาร อ.สัตหีบ รวม 4 ลำ ถูกพายุคลื่นลมพัดกระหน่ำจนอับปราง จนเป็นเหตุให้ไต๋และลูกเรือประมงเสียชีวิตจำนวน 2 คน ดังกล่าว ขณะนี้เจ้าหน้าที่และเจ้าของเรือกำลังอยู่ในระหว่างการกู้ซากเรือที่อับปางอยู่ในขณะนี้ ส่วนสาเหตุที่แท้จริงกำลังอยู่ในระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ อุดมเกียรติ ทิพย์ศรีกุล ภาพ / ข่าว 2010-06-09 |