พบศพหนุ่มใหญ่ถูกฆ่าชิงรถพ่วง18 ล้อไปแล้วทิ้งศพข้างถนนสาย7ตอน2ขาเข้า กท.

     เมื่อเวลา18.00 น. ( 12 มิ.ย.53) พ.ต.ต.วีรฤทธิ์ ดิษเจริญ สารวัตรเวร สภ.ศรีราชา รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา ว่าพบศพผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 รายนอนคว่ำหน้าอยู่ป่าหญ้าข้างทางบนสายบายพาสสาย 7 ตอน 2 หลักกิโลเมตรที่ 82-83 ม.11 ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ฝั่งขาเข้ากรุงเทพ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมรายงานให้ พ.ต.อ.มนตรี รอดปราณี ผกก.สภ.ศรีราชา พ.ต.ต.ศิริศักดิ์ วงษ์วิวัฒน์ สว.สส. ร.ต.ท.เกรียงไกร มีแสง รองสว.สส.และได้ประสานไปยังแพทย์หญิงสิรินภา ณรงค์ชัยกุล แพทย์เวรโรงพยาบาลอ่าวอุดม ร่วมตรวจสอบในทีเกิดเหตุ
 
     ในที่เกิดเหตุพบศพชายไทยนอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่ข้างต้นไม้ข้างถนนสายบายพาสสาย7ตอน2ศพโดยสวมเสื้อเสื้อเชิตสีแดงกางเกงสแล็คสีกลมท่าขายาว กางเกงในสีชมพู ไม่ห่างกันพบอุปกรณ์เสพยาหล่นอยู่  จึงให้หน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชานำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาตรวจสอบด้านบน ทราบชื่อต่อมาคือนายประภาส พิลาด อายุ 51 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชนบ้านเลขที่ 96 ม.6 ต.ท่าศาลา อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น จากการตรวจสอบของแพทย์เวรโรงพยาบาลอ่าวอุดมพบว่าผู้เสียชีวิตถูกตีด้วยของแข็งเข้าที่ศรีษะด้านขวาแตกและที่ใบหน้ามีรอยบาดแผลถูกตีอีกหลายแห่งจากของแข็ง และจากการตรวจสอบข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่าญาตินายประภาสได้แจ้งความคนหายไว้ที่สภ.ศรีราชาแล้วว่าหายตัวไปตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาโดยทางญาติไม่สามารถติดต่อได้โดยที่ผู้ตายได้ขับรถพ่วงสิบแปดล้อยี่ห้อฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียนส่วนหัว 83-7363ขอนแก่น ส่วนหาง 83-7414 ขอนแก่นบรรทุกแร่เหล็กจากท่าเรือศรีราชาฮาเบอร์ไปส่งที่นิคมอุตสาหกรรมบ่อวิน และออกจากพื้นที่ศรีราชาในช่วงกลางคืนและเมื่อส่งแร่เหล็กเสร็จแล้วก็ได้หายตัวไปและทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบเพียงศพนายประภาสเท่านั้นส่วนรถพ่วงสิบแปดล้อได้หายไปซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้หน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชาส่งศพไปชันสูตรที่โรงพยาบาลอ่าวอุดมอีกครั้งและได้ติดต่อญาตินายประภาสและเพื่อนร่วมงานมาสอบสวนหาสาเหตุและได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณเส้นทางที่ผู้ตายขับรถบรรทุกเหล็กออกมาจากท่าเรือศรีราชาฮาเบอร์และกลับออกมาจากนิคมอุตสาหกรรมบ่อวินเพื่อเร่งติดตามฆาตกรที่ก่อเหตุอุกอาจครั้งนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

2010-06-13