จังหวัดชลบุรีนำร่องสถานีบริการน้ำมันปลอดน้ำมันปลอมปนในภาคตะวันออก
ตร.ภ.2จัดประชุมผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมันปลอดน้ำมันปลอมปน โดยใช้จังหวัดชลบุรีเปฅ็นจังหวัดนำร่องในพื้นที่ภาคตะวันออก ที่อาคารสโมสรไทยออยล์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พ.ต.อ.ณัฐธวัช ทองใบ หน.ศูนย์ปนม.ตำรวจภูธรภาค2 ได้จัดการประชุมชี้แจงผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมันในพื้นที่จ.ชลบุรี ตามมาตรการสถานีบริการน้ำมันปลอดน้ำมันปลอมปนในเส้นทางสายหลักในพื้นที่ จ.ชลบุรี โดยที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 2 ซึ่งดูแลเขตพื้นที่ 8 จังหวัดในภาคตะวันออก จึงใช้พื้นที่จ.ชลบุรี เป็นจังหวัดนำร่อง ในการดำเนินการตามมาตรการสถานีบริการน้ำมันปลอดน้ำมันปลอมปน สืบเนื่องจากสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงมีแนวโน้มที่สูงขึ้นและและน้ำมันเชื้อเพลิงบางชนิดมีส่วนต่างของราคาอยู่มาก จึงทำให้มีผู้ลักลอบกระทำความผิดด้วยการผสมหรือปลอมปนน้ำมันเชื้อเพลิงนำมาจำหน่ายให้กับประชาชน เพื่อหวังผลกำไรในส่วนต่างของราคาที่มากขึ้น ที่ผ่านมานั้นทางศูนย์ ปนม.ตำรวจภูธรภาค 2 พบว่ามีผู้นำสารละลายประเภทไฮโดรคาร์บอน หรือน้ำมันเชื้อเพลิงชนิดอื่นที่มีราคาถูกกว่ามาปลอมปนเพื่อลดต้นทุน ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติเองได้มีนโยบายปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง รวมทั้งควบคุมการประกอบกิจการทั้งหลายเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิงให้อยู่ใต้กฎหมาย จึงได้สั่งการให้ตำรวจภูธรภาค 2 ร่วมกับสำนักงานสรรพสามิตรภูมิภาคที่ 2 และสำนักงานพลังงานจ.ชลบุรี ร่วมดำเนินการตามมาตรการสถานีบริการน้ำมันปลอดน้ำมันปลอมปน ซึ่งเรียกโดยย่อว่า ปปป. ด้วยการร่วมกันทำการตรวจสอบสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงในถนนสายหลักในพื้นที่จ.ชลบุรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการคุ้มครองประชาชนผู้บริโภคให้ได้รับน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีคุณภาพ และเป็นหลักประกันให้ประชาชนผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่นในคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิง ตลอดจนส่งเสริมให้ผู้ประกอบการสถานีน้ำมันมีส่วนร่วมในการควบคุมคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงที่เป็นสินค้าของตนให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของทรางราชการ โดยผู้ประกอบสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงที่อยู่ในเป้าหมายตั้งอยู่ริมถนนสายหลักของจ.ชลบุรี ตั้งแต่อำเภอเมืองชลบุรีไปจนถึงอำเภอสัตหีบ รวมทั้งหมด 54 สถานี ซึ่งก่อนที่จะเริ่มดำเนินการตามมาตรการสถานีบริการน้ำมันปลอดน้ำมันปลอมปน(ปปป.) ทางศูนย์ปนม.ตำรวจภูธรภาค 2 ได้ประชุมชี้แจงแนวทางการปฏิบัติงานตามมาตรการ ให้ผู้ประกอบการหรือตัวแทนสถานีบริการน้ำมันทั้ง 54 แห่ง ได้มีความเข้าใจและได้มีส่วนร่วมในการดำเนินการได้อย่างถูกต้อง และให้มีการตรวจสอบน้ำมันในถังของรถบรรทุกน้ำมันก่อนขนถ่ายน้ำมันเข้าแท็งค์ของสถานีบริการน้ำมันของตนเองเป็นอย่างแรกเพื่อเป็นการป้องการน้ำมันถูกปลอมปนมา โดยในครั้งนี้มีวิทยากรผู้มีความรู้และมีประสบการณ์งานปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานสรรพสามิตรภูมิภาคที่2 สำนักงานพลังงานจังหวัดชลบุรีมาร่วมชี้แจงและให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมันทั้ง 54 แห่ง เพื่อให้ไปดำเนินการตามมาตรการสถานีบริการน้ำมันปลอดน้ำมันปลอมปน สัมฤทธิ์ผล และ เป็นประโยชน์แก่ประชาชนผู้ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอย่างแท้จริง ซึ่งถ้าสถานีบริการน้ำมันแห่งใดที่ทางศูนย์ปนม.ตำรวจภูธรภาค 2 เข้าตรวจสอบพบว่าน้ำมันเชื้อเพลิงไม่มีสิ่งใดปลอมปนอยู่ก็จะติดป้ายรับรองขนาดใหญ่และใบประกาศติดไว้ที่บริเวณสถานีบริการน้ำมัน เพื่อให้ประชาชนที่ได้มาใช้การบริการได้พบเห็น ส่วนสถานีบริการน้ำมันที่ตรวจสอบพบว่ามีการปลอมปนในน้ำมันเชื้อเพลิงก็จะถูกดำเนินคดีหรืออาจถึงการถอนใบอนุญาตการประกอบการสถานีบริการน้ำมันก็ได้ ซึ่ง พ.ต.อ.ณัฐธวัช ทองใบ หน.ศูนย์ปนม.ตำรวจภูธรภาค2 ได้กล่าวว่า ทางสำนักงานตำรวจภูธรภาค 2 ซึ่งดูแลพื้นที่ 8 จังหวัดในภาคตะวันออก ใช้จังหวัดชลบุรี เป็นจังหวัดนำร่องในการดำเนินการตามมาตรการสถานีบริการน้ำมันปลอดน้ำมันปลอมปน และต่อไปนั้นจะเป็นจังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดปราจีนบุรี และต่อไปจนครบทุกจังหวัดในภาคตะวันออก ซึ่งมาตรการนี้เป็นการร่วมมือของ 3 หน่วยงาน เพื่อให้ผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมันได้ตรวจสอบน้ำมันเชื้อเพลิงทุกขั้นตอนและไม่ให้เกิดการเอาเปรียบแก่ผู้บริโภคที่มาใช้บริการในสถานีบริการน้ำมัน 2010-07-01 |