ปชช.นับร้อยยื่นหนังสือ นอภ.สัตหีบ แก้ไขความเดือดร้อนจากการขุดท่อระบายน้ำของกรมทาง

     ชุมชนชาวเตาถ่านสัตหีบ นับร้อยคนไม่พอใจ หมวดการทางหลวงสัตหีบ ไม่สนใจแก้ไขปัญหา ผู้รับเหมาทำท่อระบายน้ำริมถนนสายหลักสุขุมวิท ทิ้งงาน บ้านเมืองสกปรก เสียหาย ภาพพจน์การท่อง เที่ยวพังยับเยินปัญหาเก่ายังไม่สะสาง เตรียมสร้างปัญหาเปิดแผนใหม่ ขยายแนวเขตขุดท่อระบายน้ำเข้าไปในบ้านเรือนประชาชนชาวบ้านลุกฮือยื่นหนังสือถึงนายอำเภอสัตหีบได้ตรวจสอบและแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชนให้ในโอกาสแรก  

     เรื่องนี้ถูกเปิดเผยขึ้นในวันนี้ (11 ก.ค.53)    นายชายชาญ เอี่ยมเจริญ นายอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ได้รับทราบว่ามีประชาชนจำนวนมากมาชุมนุม เพื่อประท้วงและยื่นหนังสือที่ร่วมกันลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐานว่าได้รับความเดือดร้อนจากการก่อสร้างของกรมทางหลวง  ในกรณีที่เจ้า หน้าที่กรมทางหลวงไปวัดขยายพื้นที่การวางท่อระบายน้ำลุกล้ำเข้าไปในบ้านพักของประชาชนที่อาศัยอยู่ริมถนนสุขุมวิท สายบางนา-ตราด บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 172 ทั้ง 2 ฝั่ง เส้นทางสัตหีบ-พัทยา หมู่ที่ 8 ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ และ พัทยา-สัตหีบ หมู่ที่ 4 ตำบลสัตหีบ ซึ่งทั้ง 2 ฝั่งเป็นชุมชนตลาดสินค้าเก่าแก่ของชาวบ้านชุมชนบ้านเตาถ่าน จึงได้รุดไปตรวจสอบ พบว่าเจ้าหน้าที่ของหมวดการทางสัตหีบได้ไปวัดพื้นที่เพื่อจะดำเนินการขุดท่อระบายน้ำริมถนนชุมชนตลาด ด้วยการพ่นสีขาวลุกล้ำเข้าไปในบริเวณบ้านพัก ร้านค้า เกินจากหมุดที่ทางหลวงปักไว้ ก่อให้เกิดความเดือนร้อนอย่างแน่นอนหากมีการดำเนิน การ  และที่สำคัญนอกจากประชาชนจะไม่สามารถใช้วิถีชีวิตค้าขาย และทำมาหากินได้ตามปกติแล้ว บ้านอาจจะต้องทรุดเพราะการดำเนินการก่อสร้างอย่างแน่นอน และชาวบ้านยังได้กล่าว ถึงเรื่องที่ผู้รับเหมาทำงานไม่เสร็จตามสัญญา รัฐบาลสามารถเรียกร้องให้ชดเชยค่าเสียหายให้รัฐได้ ส่วนประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการที่ต้องงดการทำมาค้าขาย หรือการประกอบอาชีพในบริเวณดังกล่าวจะสามารถเรียกร้องค่าเสียหายกับใครได้  

     นายชายชาญ เอี่ยมเจริญ นายอำเภอสัตหีบ กล่าวว่า หลังจากที่รับทราบปัญหาเบื้องต้นแล้ว ได้เชิญ นายณรงค์ บุญบรรเจิดศรี นายกเทศมนตรีเมืองสัตหีบ นาย พลพจน์ เชนวิทยา ผู้จัดการประ ปาสัตหีบ และ นาย นราพงษ์ อินทรลักษณ์ หัวหน้าหมวดการทางสัตหีบ มาร่วมรับฟังปัญหาของประ ชาชน และร่วมกันชี้แจงเพื่อลดกระแสความเดือดร้อน โดยใช้หลักมนุษยธรรมเข้าพูดคุย ตกลง และทำความเข้าใจกัน ตลอดจนหาแนวทางการดำเนินการที่ดีที่สุดโดยทางราชการไม่เดือดร้อน และประชาชนก็ไม่เดือดร้อนจนเกินไป ด้วยการหาทางออกที่เหมาะสมที่สุด ไม่ขัดต่อข้อกฎหมาย ไม่ขัดต่อระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี อีกทั้งไม่ขัดต่อความรู้สึกของประชาชนที่กำลังมองการทำงานของ หน่วยงานภาค รัฐว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้มากน้อย เพียงใด

     ด้าน นายณรงค์ บุญบรรเจิดศรี นายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองสัตหีบ กล่าวว่า ปัญหาที่พบอยู่ขณะนี้ก็คือ การดำเนินการก่อสร้างท่อระบายน้ำริมถนนสายหลักหน้าตลาดเตาถ่าน โรงเรียน ป้อมยามตำรวจ สารวัตรทหารเรือ และวัดเทพประสาท ซึ่งอยู่ในสภาพที่ถูกทอดทิ้งไม่มีหน่วยงานที่รับผิดชอบมาดูแล ประชาชนเข้าใจผิดคิดว่าเทศบาลเมืองสัตหีบรับผิดชอบและเป็นผู้ดำเนินการถึงกับด่าทอและแสดงความไม่พอใจอย่างมาก ทำให้ประชาชนขาดความมั่นใจในความรับผิดชอบ ของเทศบาลเมืองสัตหีบ ซึ่งแท้ ที่จริงแล้วเป็นเรื่องที่หมวดการทางสัตหีบต้องรับผิดชอบ ในเรื่องการทิ้งงานของผู้รับเหมา ทำให้เสียภาพพจน์ของการท่องเที่ยวเมืองสัตหีบอย่างมาก

     พร้อมกับกล่าวถึง กรณีที่เกิดน้ำท่วมขังในบริเวณชุมชนบ้านเตาถ่าน ว่ามีจุดที่ต้องแก้ไขเพียงไม่แก่จุด สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการปรับถมที่ดินบริเวณตลาด 700 ไร่  แล้วฝังกลบท่อทางระบายน้ำสาธารณะเก่า และถนนสาธารณะที่มีอยู่ดั้งเดิม ทำให้เกิดน้ำท่วมบางจุดบ่อยครั้งมาก ส่วนปัญหาเรื่องการขุดแนว เขตวางท่อระบายน้ำก็เช่นกัน ต้องร้องขอให้หมวดการทางให้ความเป็นธรรม และใช้หลักมนุษยธรรมดำเนินการให้กับประชาชนที่ดีที่สุดไม่เดือดร้อนด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย ไม่เช่นนั้นเรื่องก็จะบานปลายไม่มีที่สิ้นสุด ทุกคนจะต้องออกมาเรียกร้องสิทธิกันไม่รู้จักจบสิ้นอย่างแน่นอน

      และในช่วงสุดท้ายของวันนี้ประชาชนในชุมชนบ้านเตาถ่าน ที่มารวมตัวกันนับร้อยคนได้ร่วมลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐานพร้อมมอบหมายให้ นางสาว รัดใจ บันดิษฐศิลป์ กำนันตำบลสัตหีบ เป็นผู้ แทนยื่นหนังสือเรื่อง ความเดือดร้อนจากกรณีโครงการก่อสร้างทำท่อทางระบายน้ำของกรมทางหลวง ริมถนนสุขุมวิท บริเวณแยกไฟแดง บ้านเตาถ่าน ที่ทิ้งงาน ทำเสร็จแล้วไม่มีการฝังกลบ มิหนำซ้ำยังมีการกำหนดขุดแนวท่อทางระบายน้ำเข้าไปในบ้านเรือนราษฎรต่อนายอำเภอสัตหีบ ได้ตรวจสอบและพิจาร ณาแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชนให้ในโอกาสแรก ซึ่งนาย ชายชาญ เอี่ยมเจริญ นายอำเภอสัตหีบ ได้รับหนังสือไว้ พร้อมกับจะได้ร่วมปรึกษากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือในโอกาสต่อไป

อุดมเกียรติ  ทิพย์ศรีกุล  ภาพ / ข่าว  2010-07-11