โครงการไทยเข้มแข็ง ให้งบกว่า 50 ล้าน ปรับปรุงท่าเทียบเรือเกาะลอยศรีราชา-เกาะสีชัง
โครงการไทยเข้มแข็ง ให้งบประมาณกว่า 50 ล้านบาท ก่อสร้างปรับปรุงท่าเทียบเรือเกาะลอยศรีราชา-เกาะสีชัง และต่อเรือเพื่อการท่องเที่ยว อีก 2 ลำ เพื่ออำนวยความสะดวกและรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น วันนี้ (19 ก.ค. 2553) ที่ท่าเทียบเรือเกาะลอยศรีราชา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ ประธานคณะกรรมาธิการแก้ไขปัญหาหนี้สินแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎร พร้อมคณะ ได้เดินทางมาตรวจสอบความคืบหน้า โครงการไทยเข้มแข็ง ที่ให้งบประมาณจำนวนกว่า 50 ล้านบาท ในการปรับปรุงท่าเทียบเรือเกาะลอยศรีราชา-ท่าเทียบเรือเกาะสีชัง พร้อมต่อเรือเพื่อการท่องเที่ยว จำนวน 2 ลำ เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการท่องเที่ยวทางทะเล โดยมีนายยุติศักดิ์ เอกอัคร นายอำเภอศรีราชา พร้อมด้วยนายฉัตรชัย ทิมกระจ่าง นายกเทศมนตรีเมืองศรีราชา ให้การต้อนรับ การปรับปรุงครั้งนี้ เป็นงบประมาณ จากโครงการไทยเข้มแข็ง ในการก่อสร้างปรับปรุงท่าเทียบเรือเกาะลอยศรีราชา จำนวน จำนวน 10 ล้านบาท และปรับปรุงท่าเทียบเรือเกาะสีชัง จำนวน 19 ล้านบาท นอกจากนั้นยังให้งบประมาณอีก 25.7 ล้านบาท ในการต่อเรือเพื่อการท่องเที่ยวจำนวน 2 ลำด้วย โดยรวมงบประมาณครั้งนี้จำนวน 54.7 ล้านบาท นายสามารถ กล่าวต่อไปว่า การเดินทางมาในครั้งนี้ เพื่อมาให้กำลังใจและติดตามความคืบหน้าของโครงการ เพื่อให้เป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ โดยไม่มีปัญหาและอุปสรรค ซึ่งโครงการดังกล่าว ได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญทางด้านนี้ นายพิสุทธิ์ อมรยุทธ์ หัวหน้าสำนักงานการขนส่งทางน้ำที่ 6 สาขาชลบุรี กล่าวถึง โครงการท่าเทียบเรือเกาะลอยศรีราชาและเกาะสีชังนั้น เปิดให้บริการมานานนับ 10 ปีแล้ว ปัจจุบันเกิดชำรุดทรุดโทรม และคับแคบ ดังนั้นทางกระทรวงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้ของบจากโครงการไทยเข้มแข็ง มาดำเนินการก่อสร้างและปรับปรุง พร้อมมอบหมายให้ทางกรมฯเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ การดำเนินการปรับปรุงก่อสร้างท่าเทียบเรือทั้ง 2 แห่ง นั้น โดยท่าเทียบเรือเกาะลอยศรีราชา ได้ขยายท่าเรือเพิ่มขึ้นขึ้นอีก 390 ตารางเมตร เพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งจะแล้วเสร็จในเดือนเมษายน 2544 นี้ รวมระยะเวลาดำเนินการ 12 เดือน ส่วนการต่อเรือจำนวน 2 ลำนั้น เป็นเรือขนาด ยาว 24 เมตร กว้าง 5 เมตร สามารถบรรจุผู้โดยสารได้ 50 คน โดยใช้เวลาในการต่อเรือ 300 วัน ซึ่งหากโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จจะสามารถรองรับนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น และสะดวกสบายยิ่งขึ้น นายพิสุทธิ์ กล่าวว่า สำหรับนักท่องเที่ยว ที่เดินทางมาใช้บริการท่าเทียบเรือทั้ง 2 แห่ง มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ทำให้สถานที่ในการรองรับไม่เพียงพอ ดังนั้นจึงต้องมีการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิ์ภาพในการรองรับ เนื่องจากในช่วงเดือนที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวและพักผ่อนกว่า 20,000 คน และหากในช่วงเทศกาลจะมีปริมาณเพิ่มมากยิ่งขึ้น 2010-07-20 |