วันพฤหัสบดีที่ 22 กรกฎาคม 2553 ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานเปิดงานแห่เทียนเข้าพรรษา ณ บริเวณหอพระพุทธสิหิงค์ฯ
สืบเนื่องจากในวันที่ 27 กรกฎาคม 2553 นี้ เป็นเข้าพรรษา จังหวัดชลบุรี ได้จัดงานแห่เทียนเข้าพรรษา เพื่อนำเทียนไปถวายตามวัดต่างๆ ในจังหวัดชลบุรี งานถวายเทียนพรรษา เป็นประเพณีโบราณสืบมาแต่ครั้งกรุงสุโขทัย เป็นราชธานี คนไทยได้ช่วยกันประคับประคองงานประเพณี สืบมาจนถึงปัจจุบัน จังหวัดชลบุรี ร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดชลบุรี เทศบาลเมืองชลบุรี ยุวพุทธิกสมาคมชลบุรี ในพระสังฆราชูปถัมภ์ และภาครัฐภาคเอกชน ร่วมแห่เทียนเข้าพรรษาซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 54 ของการดำเนินงานร่วมกันมา เพื่อธำรงรักษาไว้ ซึ่งโบราณประเพณีและสาสนพิธีของชาวพุทธ ให้สืบทอดเป็นสมบัติของชาติ และ มรดกทางวัฒนธรรมไทยต่อไป สำหรับการจัดกิจกรรมงานแห่เทียนพรรษานั้น จังหวัดได้จัดพิธีมอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนและนักศึกษา ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอุดมศึกษา รวมทั้งหมด 120 ทุน จากนั้นได้มอบเทียนพรรษาถวายเป็นพุทธบูชา เนื่องในเทศกาลเข้พรรษา ประจำปี 2553 ให้แก่วัดต่างๆ ในจังหวัดชลบุรี จำนวน 377 ต้น โดยมอบให้นายอำเภอแต่ละอำเภอนำไปถวายวัดเป็นพุทธบูชาเทศกาลเข้าพรรษา ประจำปี 2553 มีดังนี้ อำเภอพนัสนิคม จำนวน 76 ต้น 76 วัด อำเภอศรีราชา จำนวน 61 ต้น 61 วัด อำเภอบางละมุง จำนวน 47 ต้น 47 วัด อำเภอพานทอง จำนวน 28 ต้น 28 วัด อำเภอบ้านบึง จำนวน 34 ต้น 34 วัด อำเภอบ่อทอง 30 ต้น 30 วัด อำเภอสัตหีบ จำนวน 18 ต้น 18 วัด อำเภอหนองใหญ่ จำนวน 11 ต้น 11 วัด อำเภอเมืองชลบุรี จำนวน 52 ต้น 52 วัด อำเภอเกาะสีชัง จำนวน 2 ต้น 2 วัด อำเภอเกาะจันทร์ จำนวน 13 ต้น 13 วัด และเทศบาลเมืองชลบุรี 5 ต้น 5 วัด รวมเป็น 377 ต้น จากนั้นมอบของที่ระลึก พร้อมเงินสนับสนุนหน่วยงานที่ส่งเทียนพรรษา เข้าร่วมกิจกรรมหน่วยงาน สถานศึกษาแห่ละ 2,000 บาท และสุดท้ายเป็นพิธีมอบถ้วยรางวัล พร้อมด้วยเงินรางวัลขบวนแห่เทียนพรรษา โดยมี 5 รางวัล ได้แก่ รางวัลชมเชย มี 2 รางวัล คือ โรงเรียนชลราษฎรอำรุง และโรงเรียนธรรมวาที รางวัลที่ 3 โรงเรียนปีชานุศาสตร์ รางวัลที่ 2 โรงเรียนชลกันยานุกูล และรางวัลชนะเลิศ โรงเรียนประภัสสรวิทยา และโรงเรียนเทคโนโลยีชลบุรี นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า การจัดงานแห่เทียนพรรษา แม้จะมีการปรับปรุงพัฒนาไปตามยุคตามสมัย แต่ก็ยังจำเป็นต้องร่วมมือร่วมใจกันรักษาประเพณีโบราณไว้ให้ปรากฏสืบไปเพื่อความภาคภูมิใจ ในประเพณีไทย เอกลักษณ์ไทย เพราะถ้าคนไทยไม่ช่วยกันรักษาวัฒนธรรมประเพณีไทยไว้แล้วจะปล่อยให้ชาติไหนมารักษาการที่สถาบันการศึกษาต่างๆ ได้ร่วมกันประดิษฐ์ตกแต่งเทียนพรรษเข้าประกวด นอกจากเป็นการแสดงน้ำใจที่จะร่วมรักษาประเพณีอันดีงามของชาติไว้ ยังเป้นการแสดงออกที่ชี้ให้เห็นถึงศักยภาพในการร่วมมือร่วมใจของแต่ละสถาบันการศึกษาด้วยว่า ทำด้วยใจรัก ด้วยแรงศรัทธา หรือทำพอเป็นพิธี ประชาชนที่ชมขบวนแห่จะให้คำตัดสินได้การได้รับรางวัลหรือไม่นั้น อย่าถือเป็นปัญหาในการทำงาน ขอให้ถือหลักการและอุดมการณ์ในการทำงานว่า ทำเพื่อเป็นการส่งเสริมรักษาวัฒนธรรมประเพณีไทย ให้คงอยู่ และเป็นการประกาศว่าพวกเราทุกคนทุกท่าน ยักรักประเพณีไทยอยู่ และจะร่วมกันสืบสารต่อไป ปริญญา/ข่าว/ภาพ 2010-07-24 |