ฆ่าปาดคอสาวโรงงาน คาดเป็นการฆ่าล้างหนี้สิน
เมื่อเวลา23.45 น. ( 29 ก.ค.53) ร.ต.ท.อาทิตย์ สุนทวนิค ร้อยเวรสภ.บ่อวิน อ.ศรีราชาได้รับแจ้งเหตุฆ่าปาดคอสาวโรงงานที่คอนโดอมตะ หมู่ 3 ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา ตึกT5 ห้อง210 ให้ไปสอบสวนยังที่เกิดเหตุ หลังรับแจ้งจึงได้รายงานให้พ.ต.ท.สมนึก หาญตา สวญ.สภ.บ่อวิน พ.ต.ต.ภูมิสิทธิ์ สิงห์เถื่อน สว.สส. ทราบพร้อมร่วมเดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ ในที่เกิดเหตุที่ช่วงระเบียงห้องพักหน้าห้องน้ำพบศพนางยุพิน นิจรมย์ อายุ 31 ปี เป็นพนักงานบริษัทวอลเคโน่ เทคไทยแลนด์ จำกัด สวมเสื้อวอร์มแขนยาวสีดำ นุ่งกางเกงขาสั้น นอนหงายอยู่ที่ลำคอมีรอยบาดแผลถูกของมีคมปาดจนคอเกือบขาด สภาพภายในห้องนอนมีร่องรอยถูกรื้อค้นทรัพย์สิน และพบมีดปังตอขนาดใหญ่วางซุกซ่อนอยู่ในตระกร้าเสื้อผ้าโดยมีเสื้อสีฟ้าที่คนร้ายได้นำเช็ดเลือดผู้ตายที่ติดตามตัววางซุกซ่อนอยู่ด้วย จากการสอบสวนนายฉัตรชัย นิจรมย์ อายุ 30 ปี น้องชายของผู้ตาย ได้ให้การว่าพักอยู่ตึกเดียวกันห้องพักไม่ไกลกันเท่าไรก่อนเกิดเหตุพี่สาวได้เดินไปหาพูดคุยธุระหลังจากนั้นก็เดินกลับมาที่ห้องหลังจากนั้นตนเองก็ได้ยินเสียงพี่สาวร้องตะโกนขอความช่วยเหลือเสียงดังลั่นเมื่อวิ่งไปดูก็พบว่าประตูห้องล็อคจากด้านในจึงได้วิ่งไปตามรปภ.ของตึกเพื่อให้นำกุญแจสำรองมาเปิดห้องเมื่อตนและรปภ.วิ่งกลับมาก็พบว่าประตูห้องได้เปิดทิ้งไว้แต่คนร้ายได้สับเบรคเกอร์ไฟไว้ทำให้เปิดไฟไม่ติดหลังจากที่ได้แก้ไขเบรคเกอร์แล้วเมื่อเปิดไฟก็พบว่าพี่สาวถูกฆ่าปาดคอแล้วจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกตัวนายสิวกร พุทธทารัก อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นสามีผู้ตายและไปเข้ากะอยู่ที่บริษัทโยโกฮาม่า ภายในนิคมอมตะซิตี้ มาสอบปากคำ ซึ่งก็ได้ให้การว่าเดินทางไปทำงานตั้งแต่ 2 ทุ่มปล่อยให้ภรรยาอยู่ที่ห้องคนเดียว ซึ่งเพิ่งแต่งงานอยู่กินกันแค่เพียง 6 เดือน ไม่เคยทะเลาะเบาะแว้งกันแต่อย่างไร หลังจากนั้นพ.ต.ต.ภูมิสิทธิ์ สิงห์เถื่อน สว.สส.และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้พากันเดินตรวจสอบที่บริเวณรอบอาคารต่างๆภายในคอนโดอมตะ เพื่อหาหลักฐาน ก็พบชายต้องสงสัยมีพิรุธเดินไปมาสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้ที่พักอาศัยอยู่ในคอนโด และยังมีบาดแผลที่หน้าแข้ง หน้าผาก และมือทั้ง 2 ข้าง ซึ่งเป็นบาดแผลซึ่งเกิดใหม่ จึงนำตัวมาสอบสวนทราบชื่อว่านายวิรัตน์ แสนสุวรรณ อายุ 27 พักอยู่ที่ตึกT4ห้อง301 และพบว่าเป็นเพื่อนสนิทกับสามีผู้ตาย แถมยังเป็นลูกหนี้เงินกู้นางยุพินผู้ตายอยู่ 30,000 บาทและไม่ได้ส่งดอกเบี้ยมาแล้ว 2 เดือน เนื่องจากตกงานหางานทำไม่ได้ และเมื่อพาไปตรวจค้นภายในรถยนต์เก๋งก็พบว่ามีบัตรเอทีเอ็มของผู้ตายซ่อนไว้จำนวน 3 ใบ และบัตรประชาชนอีก 1 ใบ เมื่อทางตำรวจได้นำตัวมาสอบสวนได้ให้การว่าพบบัตรเอทีเอ็มและบัตรประชาชนของผู้ตายตกอยู่ข้างตึกที่เกิดเหตุ ตอนเดินมาจึงเก็บไว้ในรถก่อนที่จะเดินมาดูเหตุการณ์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ ในคำให้การเนื่องจากมีพิรุธและให้การวกวนอีกทั้งยังเป็นหนี้ผู้ตายอยู่อีกด้วย ซึ่งจากรูปการต่างๆแล้วคาดว่าจะเป็นการฆ่าล้างหนี้ สิน ซึ่งหลักฐานต่างๆนั้นปรากฏเด่นชัดแน่ว่าเป็นฆาตกรที่ลงมือฆ่าปาดคอนางยุพิน ในครั้งนี้ แต่ในเบื้องต้นนั้นยังไม่ให้การรับสารภาพ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ขอหมายจับจากศาลจังหวัดพัทยา เพื่อจับกุมตัวไปดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป 2010-07-31 |