ตึกศึกษาศาสตร์ ม.บูรพา ที่กำลังก่อสร้าง ถล่มลงมามีคนงานบาดเจ็บและเสียชีวิตติดอยู่ภายในซากตึกทาง เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยในพื้นที่ชลบุรีอยู่ระหว่างค้นหาผู้ที่เหลือ
เมื่อเวลา 20.30 น.(15 ส.ค. 2553 )พ.ต.ท.สมคิด เฮียงเสถียร สารวัตรเวร สภ.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยบูรพามีตึกถล่มข้างคณะศึกษาศาสตร์ บริเวณภายในมหาวิทยาลัยบูรพา หลังรับแจ้งจึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผกก.สภ.แสนสขุทราบพร้อมรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยไตรคุณธรรมชลบุรี เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบเป็นสถานที่ก่อสร้างตึกคณะศึกษาศาสตร์ ม.บูรพาหลังใหม่ พบผู้บาดเจ็บนอนร้องครวญครางขอความช่วยเหลืออยู่เป็นจำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยจึงได้เร่งกันนำร่างผู้ที่ได้รับบาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาล ประภาศรี จำนวนหลายราย โดยมีบาดแผลถลอกตามร่างกาย นอกจากนี้ยังพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ถูกเหล็กทับติดอยู่บริเวณภายในอาคารก่อสร้างที่พังลงมา ยังไม่ทราบว่าชื่อ โดยผู้เสียชีวิตนั้นรายหนึ่งเป็นหัวหน้าคนงานก่อสร้าง และจากการสอบสวนคนงานก่อสร้างที่รอดชีวิตแจ้งว่าภายในยังมีคนติดอยู่เป็นจำนวนกว่า 20 คน เพราะอยู่ระหว่างเร่งทำการก่อสร้างตึกดังกล่าวซึ่งกำลังก่อสร้างชั้นที่ 2 กันอยู่ โดยมีคนงานกว่า 20 คนทำงานกันอยู่ โดยทางหน่วยกู้ภัยไตรคุณธรรมชลบุรี ได้ร้องขอกำลังเจ้าหน้าที่ จากหน่วยกู้ภัยธรรมรัศมีมณัรัตน์ หน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา หน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์พัทยา และหน่วยกู้ภัยเพียวเยี้ยงไท้ศรีราชา ให้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครและอุปกรณ์ค้นหาเข้าไปช่วยค้นหาผู้ได้รับบาดเจ็บที่ถูกตึกทับอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่อาสาสมัครของหน่วยกู้ภัยในพื้นที่จ.ชลบุรี กว่า 100 คนพยายามเร่งกันค้นหาผู้ที่ติดอยู่ในซากตึก อีกกว่า 20 คน ที่ติดอยู่ภายในซากตึก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่คาดว่า ผู้ที่ติดอยู่ในซากตึกอาจจะเสียชีวิตจำนวนหลายราย ซึ่งการค้นหาของเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยนั้นจะทำจนกว่าจะพบผู้ที่ติดอยู่ ภายในครบทั้งหมด ตรวจสอบที่เกิดเหตุเบื้องต้นพบว่าสถานที่ดังกล่าวดำเนินการก่อสร้างโดย บ.บิลเลียนเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด มีนายสุรพล งามเลือง เป็นผู้อำนวยการโครงการ และมีนายประทวน ฤทธิบำรุง เป็นผู้จัดการโครงการ ในส่วนของคนงานที่ยังติดอยู่ภายในอาคารก่อสร้างทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้นำเครื่องมือและอุปกรณ์ในการค้นหา รีบเร่งค้นหาผู้บาดเจ็บที่ติดอยู่ภายในซากที่ถล่มลงมา โดยมีนายณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแสนสุข และ พ.ต.อ.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผกก.สภ.แสนสุข มาอำนวยการค้นหา และจากการตรวจสอบบริเวณแคมป์คนงานพบว่าผู้ที่เกี่ยวข้องได้หายไปหมดเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถติดตามใครมาสอบถามข้อมูลได้ ซึ่งคนงานก่อสร้างได้แจ้งว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องได้เดินทางออกไปหลังจากเกิดเหตุแล้ว โดยสาเหตุที่ตึกถล่มลงมานั้นเพราะว่าทางบริษัทได้เร่งทำการก่อสร้างตึกดังกล่าวทำ ให้พื้นนั้นรับน้ำหนักคนงานและปูนที่กำลังเทชั้น 2 อยู่ จึงเกิดเหตุตึกถล่มทำให้คนงานก่อสร้างได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เร่งติดตามผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป รศ.ดร.มนตรี แย้มกสิกร คณบดีคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวว่า อาคารคณะศึกษาศาสตร์ที่ถล่มนั้น เป็นหนึ่งในอาคารที่คณะศึกษาศาสตร์ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 230 ล้านบาท ซึ่งจะประกอบไปด้วยอาคารเรียน 8 ชั้น อาคารปฏิบัติการ 3 ชั้น และอาคารหอประชุม 2 ชั้น อาคารที่ถล่มคืออาคารหอประชุม 2 ชั้น ซึ่งทางบริษัทรับเหมาก่อสร้างดำเนินการสร้างมาแล้วประมาณ 1 ปี และต้องสร้างให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2554 ส่วนสาเหตุที่ตึกที่กำลังก่อสร้างได้เกิดถล่มลงมานั้นยังไม่รู้สาเหตุรู้แต่เพียงว่าทางบริษัทได้เร่งทำการก่อสร้างและเทปูนอยู่ และนั่งร้านได้ทรุดตัวลงมา เนื่องจากรองรับอุปกรณ์ก่อสร้างไว้ไม่ได้ ทำให้คนงานที่อยู่ชั้นบนตกลงมาได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม การทรุดตัวพังถล่มของตัวตึกนั้นไม่มีนักศึกษาหรือบุคลากรของมหาวิทยาลัยได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีสังกะสีกั้นไว้ ไม่ให้นักศึกษา บุคลากร หรือผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปบริเวณดังกล่าว ดังนั้นเรื่องการถล่มของอาคารต้องให้บริษัทรับเหมาก่อสร้างเป็นผู้ดำเนินการ เพราะงานก่อสร้างครั้งนี้ยังไม่มีการส่งมอบงานมายังคณะ ยุติการค้นหาคนงานอาคารศึกษาศาสตร์ ม.บูรพา ถล่ม วันที่ 16 สิงหาคม 2553 เมื่อเวลา 09.45 น. ที่สำนักงานการก่อสร้างอาคารศึกษาศาสตร์ ม.บูรพา พล.ต.ต.สุวิระ ทรงเมตตา รอง ผบช.ภ2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศุภธีร์ บุญครอง รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผกก.สภ.แสนสุข และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.แสนสุข นำตัวนายลี และนายแพะ 2 คนงานชาวกัมพูชา ที่รอดชีวิตจากอาคารถล่มลงมา มาทำการสอบสวนและสอบถามถึงเพื่อนคนงานที่ลงมาทำงานด้วยกันก่อนเกิดเหตุว่ามีจำนวนทั้งหมดกี่คน ซึ่งนายลี ที่รอดชีวิตหวุดหวิดได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมเพื่อนคนงานจำนวน 5 คน แผนกค้ำยัน ลงมาทำงานกันตามปกติ ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงปูนลั่นเป๊ะ ๆๆ พวกตนจึงวิ่งหนีออกมาด้านนอก ส่วนนายรุ่ง วิ่งหนีเข้าไปข้างในจึงถูกเหล็กนั่งร้านที่ใช้ค้ำยันหล่นลงมาทับจนเสียชีวิตดังกล่าว ทางด้านพล.ต.ต.สุวิระ ทรงเมตตา รอง ผบช.ภ 2 กล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุเหล็กที่ใช้ค้ำยันที่ทำเป็นนั่งร้านบางอันเกิดคดงอ นายรุ่งผู้ตายพร้อมกับคนงานลงมาทำการเสริมคานให้หนาขึ้น ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับคนงานคนอื่นๆ ได้มีการเทปูนลงมายังคานด้านบน ทำให้เหล็กนั่งร้านที่นำมาเสริมแบกรับน้ำหนักไม่ไหว เกิดการพังลงมาโดยที่นายรุ่งผู้ตายวิ่งหนีคนละทางกับเพื่อน จึงถูกเหล็กทับจนเสียชีวิต ส่วนเพื่อนรอดชีวิตได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนข่าวที่เสนอไปนั้นว่ามีผู้สูญหาย 2 คน นั้นเป็นเรื่องเข้าใจผิดของคนงานเอง เบื้องต้นได้ทำการควบคุมนายกฤษดา วิศวกร และนายสำเนียง หัวหน้าคนงาน นำตัวมาสอบสวนหาสาเหตุในครั้งนี้ ว่าเกิดมาจากสาเหตุใด หลังจากนั้นพล.ต.ต.สุวิระ ทรงเมตตา รอง ผบช.ภ2 ได้ทำการขอบคุณเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยที่เข้ามาทำการค้นหาผู้สูญหาย ซึ่งได้ทำงานกันตลอดทั้งคืนจนเครื่องมือที่นำมาเกิดการเสียหายไปหลายชิ้น พร้อมกับกล่าวยุติการค้นหา ส่วนทางด้าน นายณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศมนตรีเมืองแสนสุข กล่าวว่า หลังจากการยุติการค้นหาก็ต้องเป็นหน้าที่ของผังเมือง จ.ชลบุรี ที่ต้องข้าตรวจสอบโครงสร้างของอาคารว่าส่วนไหนที่ยังพอดำเนินการก่อสร้างต่อไปได้ และส่วนไหนที่จะต้องรื้นถอน และหลังจากกนั้นบริษัทผู้รับเหมาต้องดำเนินการรื้อถอนโดยเทศบาลเมืองแสนสุขเป็นผู้ดูแลควบคุมเพื่อให้การรื้อถอนเสร็จสิ้น 2010-08-16 |