แก๊งแขกขาว เลียนแบบโจรอยุธยา ขนอุปกรณ์ บุกเจาะบูธแลกเงินธนาคารกรุงเทพ โชคดีสัญญาณเตือนภัยดัง เลยต้องรีบเผ่น

      เมื่อเวลา 09.00 น. ( 17 ส.ค.53 )ร.ต.ท.เฉลียว บุญคุ้ม  ร้อยเวร สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีคนร้ายบุกเข้าไปเจาะผนังร้านสโตน โอเว่น เลขที่ 437/86-91 ปากซอย 6/1 ถ.เลียบชายหาดพัทยา หมู่ 9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อที่จะเข้าไปทำการโจรกรรมเงินในตู้เซฟของบูธแลกเงินธนาคารกรุงเทพ จำกัด ที่อยู่ติดกัน หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.นันทวุฒิ สุวรรณละออง ผกก. พ.ต.ท.ธราเทพ ตูพานิช รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.อรรณพ ตะปานนท์ รอง ผกก.วิทยาการเขต 13 จ.ชลบุรี นำกำลังชุดสืบสวนเดินทางไปตรวจสอบ

      ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น 3 คูหา เปิดเป็นร้านอาหารอินเดีย 2 คูหา และเป็นบูธแลกเงิน 1 คูหา พบ น.ส.กมลรัตน์ บัวไชโย อายุ 23 ปี พนักงานของบูธแลกเงิน ยืนรอตำรวจอยู่ ก่อนพาไปชี้จุดแรกบริเวณประตูเหล็กม้วนที่คนร้ายงัดเข้ามา ก่อนที่จะงัดเข้าไปในร้านสโตน โอเว่น และเจาะผนังกำแพงจนทะลุไปยังห้องบูธแลกเงิน โดยมีสายที่ต่อจากถังแก๊สลากเข้าไปด้านใน ตรวจสอบบริเวณตู้เซฟพบว่ามีร่องรอยถูกคนร้ายใช้แก๊สพ่นไฟเพื่อที่จะเจาะเข้าไปแต่ไม่สามารถเจาะเข้าไปได้

      นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุยังพบอุปกรณ์การงัดแงะจำนวนมากที่คนร้ายเตรียมมาประกอบด้วย แก๊ส 2 ถัง, แม่แรง 2 ตัว, ถุงมือผ้าประมาณ 20 คู่, คีมล็อค, สว่านมือ, ชแลง, ไขควง, ไม้หมอน 6 ท่อน กระเป๋าหิ้วใบขนาดใหญ่สีดำ จำนวน 3 ใบ ซึ่งจากการสังเกตพบว่าอุปกรณ์ที่เตรียมมาทั้งหมดเพิ่งจะซื้อมาเนื่องจากสภาพยังใหม่ๆอยู่ ส่วนกล้องวงจรปิดที่อยู่หน้าร้านสโตน โอเว่นที่มีอยู่ 2 ตัว ถูกคนร้ายหันเปลี่ยนทิศทาง ขณะที่กล้องวงจรปิดของบูธแลกเงินจำนวน 3 ตัว ปรากฏว่าเสียไม่สามารถใช้งานได้

      จากการสอบปากคำ น.ส.กมลรัตน์ ให้การว่า เมื่อช่วงบ่ายของวานนี้มีชายชาวต่างชาติจำนวน 2 คน ลักษณะคล้ายชาวตะวันออกกลาง คนหนึ่งสูง อีกคนหนึ่งเตี้ย อายุราวๆ 30-35 ปี เดินมาแลกเงินและทำทีเป็นพูดคุยตีสนิท สายตาสอดส่องเข้ามาด้านในบูธ แต่ตนก็ไม่ได้สนใจอะไร กระทั่งรุ่งเช้าของวันนี้มาเปิดบูธแลกเงินตามปกติจึงพบว่าถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนเจาะผนังกำแพงเพื่อเข้าไปโจรกรรมตู้เซฟดังกล่าว

      ด้าน พ.ต.ท.ธราเทพ ตูพานิช รอง ผกก.สส. เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 04.00 น.ของวันเดียวกัน ศูนย์วิทยุ สภ.เมืองพัทยา ได้ยินเสียงสัญญาณเตือนภัยจากบูธแลกเงินดังกล่าวดังขึ้น จึงได้สั่งการให้สายตรวจไปตรวจสอบ แต่พบว่าประตูเหล็กม้วนด้านหน้ายังปิดตามปกติ ตำรวจจึงได้ขับรถวนตรวจสอบอยู่นานพอสมควร เมื่อไม่มีสิ่งใดผิดสังเกตจึงเดินทางกลับ กระทั่งรุ่งเช้าได้รับแจ้งว่าบูธแลกเงินถูกคนร้ายซึ่งมีไม่น่าจะต่ำกว่า 2 คน และน่าจะเป็นชาวชาวตะวันออกกลาง ใช้รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ 4 ประตู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ขนอุปกรณ์การงัดแงะนานาชนิดพยายามเข้าไปโจรกรรมเงินจากตู้เซฟภายในบูธแลกเงิน แต่สายตรวจเดินทางไปตรวจสอบเสียก่อน กลุ่มโจรจึงพากันหลบหนีไป ซึ่งทางตำรวจเชื่อว่าน่าจะมีคนดูต้นทางอย่างแน่นอน ส่วนวิธีการเจาะผนังกำแพงคนร้ายน่าจะใช้ไม้หมอนเรียงต่อกันและใช้แม่แรงดันจนผนังทะลุเพื่อป้องกันการเกิดเสียงดัง อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นได้ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวตามร้านจำหน่ายอุปกรณ์ช่าง และตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่คาดว่าน่าจะจับภาพคนร้ายได้ เพื่อนำมาใช้เป็นข้อมูลติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป.

อุดมเกียรติ ทิพย์ศรีกุล ภาพ / ข่าว  2010-08-18