จังหวัดชลบุรี จัดโครงการปลูกข้าววันแม่ เกี่ยวข้าววันพ่อ
วันพฤหัสบดีที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2553 ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานพิธีปลูกข้าวเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2553 ณ บริเวณมณฑลพิธี หมู่ที่ 2 บ้านหนองสำราญ ตำบลหนองชาก อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี เนื่องในโอกาสมหามงคลที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ วันที่ 12 สิงหาคม 2553 นับเป็นมหามิ่งมงคลที่ปวงชนชาวไทยจะได้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อม ที่ทรงมีต่อประชาชนชาวไทย และปวงพสกนิกรชาวไทย ต่างร่วมแสดงถวายความจงรักภักดี เพื่อเฉลิมพระเกียรติที่พระองค์ทรงประกอบกพระราชกรณียกิจนานัปการ ด้วยทรงมุ่งหวังประโยชน์สุขของประชาชนและความมั่นคงของประเทศชาติเป็นสำคัญ เทศบาลตำบลหนองชาก อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี พร้อมด้วยส่วนราชการ และภาพส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ผู้นำท้องที่ ผู้แทนชุมชน กลุ่มองค์กร และประชาชนทุกหมู่เหล่า ได้ร่วมจัดทำโครงการ “ปลูกข้าวเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2553” สำหรับข้าวที่ใช้ปลูกในวันนี้เป็นพันธุ์หอมชลสิทธิ์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ อีกทั้งยังเป็นการอนุรักษ์ประเพณีของไทย และภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่สืบทอดกันมาหลายยุคสมัย เป็นอาชีพหลักของเกษตรกรชาวนาของไทย ในการปลูกข้าว โดยใช้วิธีดั้งเดิมของชาวนาที่เรียกว่า กระดูกสันหลังของชาติ ได้ใช้ปลูกข้าวกันมาตั้งแต่สมัยโบราณมาแล้ว และประชาชนทุกหมู่เหล่าในตำบลหนองชากได้ร่วมแสดงความจงรักภักดี น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของประบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย ซึ่งจะนำผลผลิตข้าวที่ได้ มาสีเป็นข้าวสาร เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้สูงอายุ ในงานวันผู้สูงอายุ และผู้ยากจนต่อไป สำหรับโครงการดังกล่าวเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณี และภูมิปัญญาท้องถิ่น และยังเป็นการดำเนินการตามแนวพระราชดำริ เพื่อเป็นเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และที่สำคัญอำเภอบ้านบึงถือเป็นกิจกรรมสำคัญของอำเภอบ้านบึง อีกด้วย นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า โครงการปลูกข้าวเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2553 ถือเป็นวันแม่แห่งชาติพระองค์ ยังทรงให้ความสำคัญกับการปลูกข้าวของชาวนา สำหรับคนไทยนั้น ข้าวเป็นยิ่งกว่าอาหาร เพราะข้าวเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทย เป็นสิ่งที่เชื่อมโยงความสัมพันธ์ของคนในชุมชน จนเกิดเป็นวัฒนธรรมข้าวขึ้น เพราะความเป็นอยู่ วิถีชีวิตของคนไทยมีพื้นฐานอยู่กับข้าว แต่เหนือสิ่งอื่นใด ชาวไทยมีองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงมีพระวิสัยทัศน์อันยาวไกล ทรงเป็นมิ่งขวัญและกำลังใจคอยพระราชทานแนวทางต่างๆ อยู่เสมอ ทำให้เชื่อมั่นได้ว่า เมืองไทยจะต้องดำรงความเป็นอู่ข้าวอู่น้ำ ชาวนาไทยต้องอยู่ได้ประชาชนต้องมีข้าวบริโภคเพียงพอ และข้าวจะเป็นพืชเศรษฐกิจหลักที่สร้างความมั่นคงให้แก่ประเทศชาติต่อไป ปริญญา/ข่าว/ภาพ 2010-08-20 |