พ่อแม่-ลูกเมียร่วมส่งลูกนักรบทางทะเลเข้าปราบปรามโจรสลัดในน่านน้ำโซมาเลีย
บรรยากาศการส่งหมู่เรือเดินทางเข้าสู่อ่าวเอเดน น่านน้ำทางทะเลโซมาเลีย เป็นไปอย่างคึกคักญาตินับพันคนร่วมโบกมืออำลากำลังพลบนเรือรบ พร้อมเป็นขวัญกำลังใจให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความปลอดภัย มอบพระเครื่องรางของขลังให้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ บางรายอาราธนาขอพรให้ ศาลเจ้าพระกาฬ จังหวัดลพบุรี ที่ตนเองเคารพนับถือคุ้มครองลูกให้ปลอดภัย วันนี้ (10 กันยายน 2553) พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประธานในพิธีส่งหมู่เรือเดินทางปราบปรามโจรสลัด ณ ท่าเทียบเรือจุกเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมี พลเรือเอก กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ ให้การต้อนรับ พร้อมให้เรือปิ่นเกล้ายิงสลุดแสดงความเคารพ จำนวน 19 นัด และได้เชิญกระทำพิธีส่งกำลังพล พร้อมเรือหลวงสิมิลัน และเรือหลวงปัตตานี เพื่อร่วมกับกองกำลังนานาชาติในการแก้ไขปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นภายในประเทศโซมาเลีย และมหาสมุทรอินเดีย เพราะมีการกระทำอันเป็นโจรสลัดในน่านน้ำโซมาเลีย มีการปล้นเรือสินค้า เรือบรรทุกสารเคมีขนาดใหญ่ เรือประมงน้ำลึกของประเทศ ญี่ปุ่น ไนจีเรีย เยอรมัน ฝรั่งเศส อียิปต์ ฮ่องกง ยูเครน มาเลเซีย ปานามา ตุรกี เดนมาร์ก ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ ซาอุดิอาระเบีย และเรือของประเทศไทย ที่ได้รับผลกระทบในเรื่องนี้เช่นกัน จนเป็นที่ทราบกันดีว่าน่านน้ำโซมาเลียหรือบริเวณอ่าวเอเดนมีอันตรายจากภัยคุกคามจากโจรสลัดมากที่สุดในโลก ส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจในเรื่องของการส่งสินค้าทางทะเล และการประมงนอกน่านน้ำของไทย และนานาประเทศเป็นอย่างมาก เป็นสาเหตุหนึ่งที่รัฐบาลไทยได้เห็นชอบอนุมัติให้กองทัพเรือไทยส่งเรือหลวงสิมิลัน และเรือหลวงปัตตานี เดินทางไปสนธิกำลังร่วมกับกองกำลังผสมนานาชาติปราบปรามโจรสลัดโซมาเลีย โดยกองทัพเรือได้มอบหมายให้ พลเรือตรี ไชยยศ สุนทรนาค ผู้บัญชาการ กองเรือฟริเกตที่ 2 กองเรือยุทธการ เป็นผู้บัญชาการหมู่เรือปราบปรามโจรสลัด นาวาเอก รัษฎางค์ ธีรเนตร นาวาเอก ทิวา ดาราเมือง เป็นรองผู้บัญชาการหมู่เรือ ออกเดินทางจากประเทศไทยในวันที่ 10 กันยายน 2553 พลเรือเอก รพล คำคล้าย เสนาธิการทหารเรือ กล่าวว่าในฐานะที่ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาโจรสลัดโซมาเลียทำให้เกิดความสูญเสียต่อภาพรวมของเศรษฐกิจโลก และความไม่ปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน รัฐบาลไทยโดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ได้เห็นชอบให้กองทัพเรือโดย พลเรือเอก กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ จัดหมู่เรือเพื่อเดินทางประกอบด้วยเรือหลวงสิมิลัน และเรือหลวงปัตตานี ซึ่งเป็นเขี้ยวเล็บของกองทัพเรือไทยเดินทางไปปฎิบัติการร่วมกับกองกำลังผสมนานาชาติจัดระเบียบทะเล ดำรงการใช้ทะเลอย่างปลอดภัย ลด และสกัดกั้นการกระทำอันเป็นโจรสลัด ณ อ่าวเอเดน น่านน้ำทางทะเลโซมาเลีย และมหาสมุทรอินเดีย โดยเรือจะเดินทางผ่านประเทศสิงคโปร์ โคลัมโบ(ศรีลังกา) ซาลาล่า(โอมาน) ระยะทาง 4,894 ไมล์ทะเล ใช้เวลาในการเดินทาง 19 วัน มีระยะเวลาในการปฎิบัติการในพื้นที่ 60 วัน ส่วนทางด้าน พลเรือเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ กล่าวว่า จากข้อมูลทั่วไป ตั้งแต่ปี พ.ศ.2551 กลุ่มโจรสลัดโซมาเลีย ได้มีการตั้งฐานปฎิบัติการที่รัฐ PUNTLAND ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศเหนือของประเทศ มีสมาชิกมากว่า 1,000 คน แบ่งเป็นกลุ่มมากว่า 10 กลุ่ม มีอาวุธที่ใช้ในการาปล้น เช่น ปืนกล AK-47S จรวด RPG วิทยุติดต่อ Walkie talkie และโทรศัพท์ผ่านดาวเทียม เรือควบคุมการปฎิบัติการที่อาจแฝงมากับเรือต่าง ๆ บรรทุกเรือยนต์เร็วออกไปปฎิบัติการในทะเล ล่าสุดเกิดความฮึกเหิม ปฎิบัติการปล้นและจับยึดเรือสินค้าในบริเวณอ่าวเอเดนมากกว่า 30 ลำ บางวันปล้นเรือหลายลำ และจับลูกเรือเป็นตัวประกันนับร้อยคน จนกระทั่งคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ มีมติเรื่องการกระทำอันเป็นโจรสลัด ให้ประเทศสมาชิกคณะมนตรีให้ความร่วมมือในการลาดตระเวนดูแลพื้นที่ในน่านน้ำโซมาเลีย และสามารถใช้มาตรการที่เห็นสมควรจัดการกับกลุ่มโจรได้ตามดุลยพินิจอีกด้วย ประเทศไทยเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ได้รับความเดือดร้อนจากโจรสลัดโซมาเลีย เพราะเรือสินค้าไทยเคยถูกกระทำเหมือนกับประเทศอื่น ๆ จึงได้ส่งเรือรบและกำลังพลเข้าร่วมในครั้งนี้เป็นเวลากว่า 90 วัน นาง ประคอง ทิพย์ปรีชาธร อายุ 66 ปี ที่เดินทางมาจาก อำเภอสัตยา จังหวัดชัยนาท พร้อมครอบครัว เพื่อมาส่ง พันจ่าเอก พีรนัท ทิพย์ปราชาธร ซึ่งอยู่ในชุดปฏิบัติการพิเศษ ของหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ ลูกชายที่ร่วมเดินทางไปในครั้งนี้ด้วยกล่าวว่า ดีใจที่ลูกได้เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้ ขอให้ศาลเจ้าพ่อพระกาฬ ศาลศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคู่เมือง ของจังหวัดลพบุรี ที่ตนเองเคารพบูชาได้โปรดอภิบาลคุ้มครองปกปักรักษาให้ลูกชายได้แคล้วคลาดจากภยันอันตรายและปลอดภัยจากการปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้ พร้อมกับกอดรัดหอมแก้ลูกชายนักรบลูกทะเลด้วยความรักและห่วงใย เป็นที่ชื่นใจต่อผู้ที่มาร่วมส่งนักรบลูกทะเลในครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งบรรยากาศการเคลื่อนตัวของเรือรบทั้งสองลำออกจากท่าเรือเป็นไปด้วยบรรยากาศที่อบอุ่นของการโบกธงชาติไทย ตลอดจนการโบกมือ ส่วนข้าราชการ ทหาร และประชาชนที่สวมหมวกต่างถอดหมวกนำมาโบกสะบัดอำลาให้แก่กันจนเรือทั้งสองลำลับสายตา อุดมเกียรติ ทิพย์ศรีกุล ภาพ / ข่าว 2010-09-10 |