สวนสันติธรรม ปิดเงียบไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าพบพระปราโมทย์ หลังมีข่าว สวนสันติธรรม ที่มีเนื้อที่ประมาณ 70 ไร่ ปิดเงียบไม่ยอมให้บุคคลภายนอกเข้าพบ หลังมีกระแสข่าวเจ้าสำนัก”พระปราโมทย์” ให้แม่ชีอรนุชดูแลบัญชีที่ประชาชนบริจาคทั้งหมดคนเดียว ซึ่งมียอดเงินบริจาคกว่า 100 ล้านบาท
จากกรณี นายเทิดศักดิ์ เตชะกิจขจร อาจารย์ภาควิชาสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้าร้องเรียนต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อให้ตรวจสอบพฤติกรรมของ พระปราโมทย์ ปาโมชโช (สันตยากร) พระนักเทศนาชื่อดังแห่งสวนสันติธรรม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี โดยกล่าวหาว่าพระนักเทศน์คนดังโอนเงินทำบุญซื้อที่ดิน และสำนักสวนสันติธรรม 100 ล้านบาท ให้ นางอรนุช สันตยากร แม่ชีสวนสันติธรรมดูแลบัญชีรับบริจาคเพียงคนเดียวไม่มีการตั้งคณะกรรมการ อาจเข้าข่ายฉ้อโกงทรัพย์ของผู้บริจาค นั้น วันนี้( 14 ก.ย. 2553) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เพื่อเข้าตรวจสอบข้อมูลความจริงดังกล่าวจากพระปราโมทย์ ปาโมชโช ที่สวนสันติธรรม นั้น ปรากฏว่าในวันนี้ที่สวนสันติธรรมได้ทำการปิดประตูทึบ ไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้า โดยมีป้ายหน้าประตูว่า ปิด เป็นอักษรตัวใหญ่สีน้ำเงิน และมีอักษรตัวเล็ก ๆ ด้านล่างว่า สถานที่ส่วนบุคคล งดรับแขกนอกเวลาและในวันเปิดศูนย์ และมีป้ายใหญ่อยู่ใกล้เคียงมีข้อความว่า สวนสันติธรรม ศูนย์ศึกษาปฏิบัติธรรม สาขาวัดบูรพาราม พระอารามหลวง จังหวัดสุรินทร์ 332/1 หมู่ 6 บ้านโค้งดารา ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี 20110 เปิดเวลา 7.00 น.-10.00 น. วันเปิดเดือน กันยายน วันที่ 3-5, 10-12,16-18,24-25,03 สถานที่ส่วนบุคคล งดรับแขกนอกเวลาและในวันเปิดศูนย์ จากการสังเกตว่าสวนสันติธรรมจะเปิดเป็นเวลา ส่วนวันเปิดส่วนมากก็จะเป็นวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เช่น วันที่ 3-5 ,10-12, ส่วน 16-18 เป็นวัน พฤหัสบดี ศุกร์ และเสาร์ ส่วน 24-25 เป็นวันศุกร์และเสาร์ ซึ่งส่วนมากก็ไม่ตรงกับวันพระแต่อย่างใด และก็มีป้ายหน้าปากประตู มีข้อความว่า อนุญาตให้เข้ามาในสวนสันติธรรมได้เฉพาะผู้มาศึกษาปฏิบัติธรรมเท่านั้น และมีสัญลักษณ์ ห้ามถ่ายรูป ห้ามถ่ายวีดีโอ และปิดมือถือ ตรงปากทางเข้าอีกด้วย และทางด้านข้างติดกัน ยังพบว่ามีบ้านพักชั้นเดียว มีป้ายติดหน้าบ้านว่า บ้านอนาลโย 332/2 ซึ่งเป็นบ้านปูนสีขาวชั้นเดียวยกสูงเล็กน้อย ราคาน่าจะสูงพอสมควร และยังมีบ้านพัก น่าจะเป็นของคนรับใช้อยู่ด้านหน้า ภายในรั้วที่มีกำแพงสูงปิดมิดชิดเช่นเดียวกับสวนสันติธรรม และมีลักษณะเดียวกันและอยู่ติดกันด้วย จากการสำรวจภายนอกก็พบว่าสวนสันติธรรมมีเนื้อที่ประมาณ 60-70 ไร่ มีกำแพงสูงทึบรอบพื้นที่ ส่วนรอบ ๆ จะเป็นป่ามันสำปะหลัง ภายในมีคนสวนคอยดูแลอยู่ภายในจำนวนหนึ่ง และมีบ้านพักอยู่ภายในสวนสันติธรรม และเมื่อทราบว่ามีบุคคลแปลกหน้ามาหน้าสวนสันติธรรม ก็จะเดินมาแอบถ่ายรูปบ้าง และผู้สื่อข่าวได้เข้าไปสอบถามและขออนุญาตเข้าไปพบกับพระปราโมทย์ แต่คนที่มีหน้าที่เป็นผู้ดูแลสวนไม่ยินยอม บอกว่า พระปราโมทย์ ไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปข้างใน แต่สามารถเข้าไปได้ในวันเปิดทำการตามที่ได้แจ้งไว้ที่ป้ายด้านหน้า ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามต่อไปว่า พระปราโมทย์ อยู่หรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่าอยู่ด้านในและไม่รับแขก ส่วนแม่ชีที่เป็นข่าวก็อยู่ด้านในสวนสันติธรรมด้วยเช่นกัน ซึ่งเจ้าตัวก็บอกว่าไม่ทราบรายละเอียดอะไร ทั้งสิ้นเพราะมีหน้าที่ดูแลสวนเพียงอย่างเดียว หลังจากนั้นจึงได้ไปสอบถาม นายใบ โคตะยา ชาวบ้านที่อยู่ละแวกนั้น กล่าวว่า ตนไม่ค่อยรู้เรื่องและไม่ค่อยจะทราบว่าชาวบ้านเค้าศรัทธาพระปราโมทย์หรือไม่ เพราะไม่เคยเข้าไปในสวนแห่งนั้น แต่เห็นว่ามีคนมาที่สวนนี้เยอะเหมือนกัน แต่สวนแห่งนี้เค้าไม่ได้เปิดทุกวัน เปิดเป็นบางวันเท่านั้น มีคนมาเยอะมีแต่คนมีระดับทั้งนั้น โดยลุงมองว่าถ้าไม่มีระดับเค้าคงจะไม่รับหรอกมั๊ง ประมาณว่าเหมือนกับคนป่วยที่เข้าโรงพยาบาลถ้าเห็นว่าถ้านั่งรถหรู ๆ มีเลสข้อมือใหญ่ ๆ พนักงานก็แทบจะอุ้มไปเลย แต่ถ้าจนล่ะก็ไปเหอะแก่เดี๋ยวก็ตายไปแล้ว คือผมคิดว่าอย่างนั้นนะ” “ตอนแรก ๆ เคยมีคนเอาแผ่นซีดีมาให้ พอฟังแล้วก็เหมือนกับคนคุยกัน ถามมาตอบไป คุยแบบง่าย ๆ ฟังแบบง่าย ๆ เหมือนจะเทศน์ก็ไม่ใช่อะไรประมาณนี้ พอฟังแล้วเราไม่ชอบก็เลยทิ้งไปตั้งนานมาแล้ว ความจริงแล้ว พระ และวัด มันจะต้องมีโบสถ์ มีที่ทำสังฆกรรม อย่างกฐินมันจะต้องทำในโบสถ์มันถึงจะถูกต้องของสงฆ์ แต่ที่นี้เค้าทำกันยังไงไม่รู้ หรือเค้าไปทำที่อื่นก็ไม่รู้ แต่ท่านอาจจะไปที่อื่นก็ได้ เพราะท่านมีตังค์ มีรถ มีคนมารับ แต่เรื่องที่เป็นข่าวเราไม่รู้ เพราะเราไม่เคยไปเลย”ลุงใบกล่าว
นางสาวสุพิชญา เจริญนาน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.หนองขาม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี กล่าวถึง กรณีกระแสข่าว “พระปราโมทย์” เจ้าสำนักสวนสันติธรรม อำเภอศรีราชา อมเงินบริจาค 100 ล้านบาท จากประชาชนและผู้ที่เลื่อมใสศรัทธา ซึ่งเรื่องนี้ชาวบ้านบริเวณดังกล่าวเพิ่งทราบข่าวจากทีวีและหนังสือพิมพ์เท่านั้น ว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ที่ผ่านมาชาวบ้านบริเวณดังกล่าว ก็ไม่ได้เข้าไปร่วมพิธีในสำนักสวนสันติธรรมเท่าไร เพราะส่วนใหญ่ผู้ที่ไปร่วมในพิธีหรือพบปะกับพระปราโมทย์นั้นจะเป็นคนต่างจังหวัด โดยคนในพื้นที่จะไปทำบุญที่วัดโค้งดารา ซึ่งเป็นวัดใกล้บ้าน และเป็นวัดเก่าแก่แล้ว ส่วนสำนักสวนสันติธรรมนั้น เพิ่งก่อตั้งได้เพียง 4-5 ปีเท่านั้น นางสุพิชญา กล่าวต่อไปว่า “ตามปกติสวนสันติธรรมไม่ได้เปิดให้ประชาชนหรือผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาเข้าไปภายในสวนสันติธรรมได้ตลอดเวลา โดยจะมีระยะเวลาในการปิด-เปิด และผู้ที่จะเดินทางไปนั้นจะต้องตรวจสอบหมายกำหนดการก่อน เพราะไม่ตรวจสอบแล้วอาจจะผิดหวังและไม่สามารถเข้าไปได้ ซึ่งจะไม่เหมือนวัดที่พบเห็นตามปกติ นอกจากนั้นยังมีรั้วสูงล้อมรอบวัดด้วย ยิ่งทำให้ประชาชนในพื้นที่แปลกใจที่วัดกระทำเช่นนี้ เพราะในความเป็นจริงแล้ว วัดหรือสำนักสงฆ์ ไม่ควรจะมีเวลาปิด-เปิดหรือมีรั้วล้อมรอบอย่างมิดชิด” |